Dragon Age: The Veilguard จะเป็นเกมที่เน้น ‘ทำภารกิจ’ เป็นหลัก
ไม่ใช่ Open-World แบบที่คาดหวังกัน
หลังจากเปิดตัวเกม Dragon Age: The Veilguard ไปแล้ว ตอนนี้รายละเอียดต่าง ๆ ของเกมก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นโดยจากตัวอย่างเกมเพลย์ เราจะเห็นได้ว่าเกมนี้เป็น RPG แอ็กชั่นเต็มรูปแบบ แต่ยังคงมีวงล้อบทสนทนาให้ผู้เล่นได้เลือกคำตอบที่ต้องการ และระบบตัวละครที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ
แต่สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือบทความสัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกมจาก IGN ที่ออกมาพูดถึงระบบของเกม
Corinne Busche ผู้อำนวยการสร้างเกม The Veilguard บอกกับ IGN ว่าเนื้อหาของเกมภาคใหม่นี้จะกระชับกว่า Dragon Age Inquisition ภาคก่อนอย่างมาก เพราะใน Inquisition ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยไปในพื้นที่กึ่งเปิดโลกกว้างขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเควสย่อย การสำรวจเสริม และของสะสมต่าง ๆ การออกแบบแบบนี้สร้างความคิดเห็นที่หลากหลาย บางคนชอบการผจญภัย แต่บางคนก็บ่นว่ามันน่าเบื่อ เพราะมีภารกิจย่อยที่ไม่น่าสนใจมากมาย
Busche อธิบายว่า Veilguard จะเน้นภารกิจมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาคก่อน “ทุกอย่างได้รับการออกแบบ ปรับแต่ง และคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เราเชื่อว่านี่คือวิธีที่จะมอบประสบการณ์การเล่าเรื่องที่ดีที่สุด ประสบการณ์ที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลา”
จากข้อมูลดังกล่าวดูเหมือนว่าเราจะได้เห็นรูปแบบด่านแบบเส้นตรงมากขึ้น แต่ Busche ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ภายในเกมนี้ยังจะมีพื้นที่สำหรับการสำรวจบ้าง “ระหว่างทาง ด่านต่าง ๆ จะเปิดกว้างขึ้น บางแห่งมีพื้นที่สำรวจมากกว่าที่อื่น มีทางแยก ทางลับ ปริศนาต่าง ๆ และเนื้อหาเสริมที่คุณต้องค้นหาและไขปริศนา ดังนั้นแม้ว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่เน้นภารกิจแต่ก็ยังมีความลึกล้ำในระดับหนึ่งอยู่”
“โครงสร้างของเกมน่าจะคล้ายกับ Mass Effect คุณจะมีศูนย์กลางที่คุณสามารถทำความรู้จักกับสมาชิกปาร์ตี้ของคุณ จากนั้นคุณจะออกเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำภารกิจต่อไป ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องราวสำคัญตลอดทาง” Busche อธิบาย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว เราก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าเกมนี้จะออกมาโดนใจแฟนเกมหรือไม่ ในขณะเดียวกัน Dragon Age: The Veilguard เป็นเกมแนวแอ็กชั่นสวมบทบาทที่ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยในดินแดน Thedas ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ผู้เล่นจะได้เรียนรู้ศาสตร์การต่อสู้ทั้งเวทมนตร์และอาวุธ ผ่านเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรัก การทรยศ และบทบาทของผู้เล่นในการกอบกู้โลก เกมภาคนี้เน้นไปที่เนื้อเรื่องของตัวละคร NPC เพื่อนร่วมทาง แต่ละตัวจะมีประวัติที่แตกต่างกัน และตัวเลือกการตอบคำถามของเราจะมีผลต่อชีวิตของพวกเขาโดยตรง เนื้อเรื่องของแต่ละบทจะเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ และตัวละครของเราเองก็สามารถปรับแต่งได้ทั้งรูปลักษณ์และความสามารถผ่านระบบ Skill Tree
