เรียกได้ว่าซีรีส์ The Last of Us ตอนที่ 3 เป็นประเด็นหนักหน่วงอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอข่าวไปแล้วว่าซีรีส์ในตอนที่ 3 เป็นตอนที่มีเสียงแตกเป็นอย่างมาก เพราะว่าเรื่องราวภายในตอนนี้จะเป็นเนื้อหาเสริมที่เติมเต็มเรื่องราวของ Bill กับ Frank ซึ่งมีประเด็นชัดเจนเกี่ยวกับ LGBTQ+ นั่นเอง
สำหรับล่าสุดคะแนนของ The Last of Us ตอนที่ 3 เหลืออยู่เพียง 7.9 ดาว ซึ่งแม้ว่าจะดูเยอะอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับ 2 ตอนที่ผ่านมาก็เรียกว่าแตกต่างกันอย่างมาก โดยในตอนนี้ผู้ที่โหวตคะแนน 1 ดาวมีมากถึง 35,765 คน (28.3%) ในขณะที่คนโหวต 10 ดาวก็มีถึง 67,365 คน (53.3%)
สำหรับเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ผู้ชมส่วนหนึ่งมากดโหวต 1 ดาวก็เพราะว่าการเล่นประเด็นของ LGBTQ+ ตลอดทั้งตอน อีกทั้งยังมีฉากติดเรตระหว่าง Bill กับ Frank รวมไปถึงมีการเปลี่ยนเนื้อหาจากเกมจากบู๊สนั่นมาเป็นเรื่องความรักของเพศที่ 3 ทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่พอใจ
ในขณะที่คนที่โหวต 10 ดาวก็ยังคงคอมเมนต์ไปในทิศทางเดียวกันว่า “แม้ว่าจะมีการบิดเนื้อเรื่อง แต่การนำเสนอเรื่องราวในตอนนี้ก็กินใจเพียงพอ และสะท้อนคำว่า The Last of Us ออกมาได้สมบูรณ์แบบ”
นอกจากนี้ทางผู้กำกับเองก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่เปลี่ยนเนื้อหาใน The Last of Us ตอนที่ 3 ให้ต่างไปจากเกม “เพื่อผลักดันให้ Joel ใช้ชีวิตต่อไป” (อ่านข่าวเต็ม ๆ ได้ที่นี่ครับ >>คลิ๊ก<<)
ในขณะเดียวกัน The Last of Us ฉบับคนแสดงของ HBO จะได้ Craig Mazin และ Carolyn Strauss ผู้ที่เคยฝากผลงานซีรีส์ Chernobyl มานั่งแท่นผู้อำนวยการผลิตคู่กับ Neil Druckman ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์จาก The Last of Us ส่วนเรื่องราวของ The Last of Us ฉบับคนแสดงจะอิงตามเกมต้นฉบับที่ออกวางจำหน่ายในปี 2013 นั่นคือการผจญภัยของ Joel (รับบทโดย Pedro Pascal) และ Ellie (รับบทโดย Bella Ramsey) ที่ต้องเดินทางข้ามอเมริกาและฝ่าดงผู้ติดเชื้อระบาดที่เกิดขึ้นจากเห็ดชนิดหนึ่ง ซึ่งกลุ่ม Firefly มีความเชื่อว่า Ellie จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชื้อโรคนี้ได้ ทำให้ Joel ต้องพาเด็กสาวเดินทางเพื่อภารกิจสำคัญของมนุษยชาติ
