Tomek Baginski โปรดิวเซอร์ของ Netflix’s The Witcher ได้ออกมาพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ซีรีส์ The Witcher ซีซั่น 3 มีเนื้อเรื่องเรียบง่าย มาให้เราได้ติดตามกันโดยเขาได้อธิบายกับสื่อของโปแลนด์ Wyborcza (และแปลโดย Redanian Intelligence) ว่าทำไมซีรีส์ถึงเปลี่ยนโครงเรื่องไปจากนวนิยายดั้งเดิมของ Andrzej Sapkowski
โปรดิวเซอร์อธิบายว่ามีหลายอย่างเกิดขึ้นเบื้องหลัง เช่นต้องมีการเขียนบทใหม่เนื่องจากสมาชิกนักแสดงล้มป่วย แต่ที่จะเน้นมากที่สุดก็คือการที่ทางโปรดิวเซอร์บอกว่า “ซีรีส์นี้มีเป้าหมายคือคนอเมริกัน และเด็กยุค TikTok”
“ผมพยายามอธิบาย มีการลุกฮือต่อต้านเยอรมัน แต่รัสเซียอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำและในฝั่งเยอรมันก็มีทหารจากฮังการีหรือยูเครนด้วย” เขาอธิบาย “สำหรับชาวอเมริกันมันเป็นเรื่องที่ไม่อาจเข้าใจได้ ซับซ้อนเกินไป เพราะพวกเขาเติบโตมาในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่าง ซึ่งทุกอย่างถูกจัดวางไว้ว่าอเมริกาดีเสมอ ส่วนที่เหลือคือคนเลว และไม่มีความซับซ้อน”
โปรดิวเซอร์ระบุว่าการทำให้เนื้อเรื่องเรียบง่ายของซีรีส์นั้น “เจ็บปวด” แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้สร้างรายการก็ต้อง “ยอมรับและตัดสินใจทำ” โดยเขาย้ำว่า “ยิ่งซับซ้อนยิ่งทำให้คนเข้าไม่ถึง”
และเมื่อเรามองย้อนกลับไป Baginski เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับ The Witcher ซีซั่น 2 กับช่อง YouTube Imponderabilia ซึ่งโปรดิวเซอร์ The Witcher ได้โจมตี TikTok “เมื่อพูดถึงซีรีส์นี้ต้องยอมรับว่าตรรกะของพล็อตเรื่องนั้นถูกให้ความสำคัญน้อยกว่าผู้ชมที่มีอายุน้อย”
เมื่อถูกถามถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่ามีความสำคัญสำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า Baginski ตอบว่า “แค่อารมณ์ อารมณ์ล้วน ๆ ส่วนผสมทางอารมณ์ที่เปลือยเปล่า คนเหล่านั้นเติบโตขึ้นมาบน TikTok และ YouTube พวกเขากระโดดจากวิดีโอหนึ่งไปวิดีโอหนึ่ง แบบไร้ความอดทน”
ในขณะเดียวกัน The Witcher ซีซั่น 3 จะพาเราไปพบกับการผจญภัยของ Geralt (รับบทโดย Cavill), Yennefer (รับบทโดย Anya Chalotra) และ Ciri (รับบทโดย Freya Allan) กลับมาพร้อมกับนักแสดงหลักคนใหม่อีกหลายคน ซึ่งซีซั่นที่ 3 นี้ก็ฉายอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้อ่านคนใดที่สนใจก็สามารถมารับชมได้ที่นี่ครับ https://www.netflix.com/watch/81581069
ที่มา : eurogamer