สิ่งที่อยู่คู่กันกับแฟรนไชส์เกม Fallout ก็คือการนำผลงานเพลงยุค 30 – 50 กลับมาอีกครั้งซึ่งเราจะเห็นว่าเกมและซีรีส์ฉบับคนแสดงจริงนั้นถ่ายทอดแนวคิดแบบ Retrofuturistic หรือการผสมผสานกันระหว่างความโบราณกับความทันสมัยในจินตนาการของคนยุคนั้นได้อย่างลงตัว และศิลปะแขนงสำคัญอย่างเสียงเพลงก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพเด่นชัดขึ้น ซึ่งล่าสุดก็มีรายงานน่าสนใจออกมาด้วย
เว็บไซต์ Video Games Chronicle เปิดเผยว่าเพลงบางส่วนที่ใช้ประกอบในซีรีส์มียอดผู้ฟังสูงขึ้นมากกว่า 250,000 ครั้งหลังจากกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา เช่น I Don’t Want to Set the World on Fire กับ We Three ของวงสไตล์สวิง The Ink Spots ที่อยู่ในเกมเกือบทุกภาค และยังมี Crawl Out Through the Fallout ที่เป็นเพลงช่วงเปิดซีรีส์ด้วย และเพลงนี้ยังเข้ากับแฟรนไชส์แบบพอดิบพอดีด้วยเนื้อหาสไตล์โลกหลังยุคนิวเคลียร์
มีการเปิดเผยต่อว่าเพลงจากซีรีส์ที่ได้รับคนเข้ามาฟังสูงสุดบน Spotify ก็คือ The Jet Tones ที่กระโดดขึ้นมาจาก 133 มาสู่ 15,000 คน นับเป็นสัดส่วน 11,219.55% อีกทั้งมี Darnadella และ Some Enchanted Evening ที่พุ่งขึ้นมา 150 – 200% กันเลย เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ใหม่เลยก็ว่าได้สำหรับเพลงจากยุคคุณปู่ของพวกเรา หากใครชื่นชอบเพลงไหนลองมาแลกเปลี่ยนกันกับ ThisIsGame Thailand ได้นะครับ
Bing Crosby, The Ink Spots และ Nat King Cole ล้วนเป็นนักร้องที่มีผลงานเพลงอยู่ในเกมจำนวนมาก
Fallout ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู พูดถึงการผจญภัยของตัวละครหลัก Lucy (รับบทโดย เอลลา เพอร์เนลล์), Maximus (รับบทโดย แอรอน มอเทน) และ The Ghoul (รับบทโดย วอลตัน ก็อกกินส์) ที่ต้องฝ่าฟันนรกบนดินอันโหดร้าย ซึ่งทุกคนล้วนมีปูมหลังที่ต่างกัน ทั้ง Lucy หญิงสาวที่อาศัยใน Vault หรือหลุมหลบภัยใต้ดินมาตลอดทั้งชีวิตและไม่พร้อมสู่การเผชิญโลกภายนอก หรือ Mamimus ผู้เป็นทหารภายใต้การบังคับบัญชาของ Brotherhood of Steel ขณะที่ The Ghoul นั้นเป็นผู้รอดชีวิตจากระเบิดครั้งใหญ่หากแต่มันทำให้เขากลายเป็นมยุษย์กลายพันธุ์ผู้มีจิตใจที่เย็นชา
