ทวิตจากนักวิจารณ์หนังอย่าง Darren Lucas ที่ถามว่าทุกคนอยากเห็นผลงานเกมไหนได้รับการดัดแปลงต่อไปหลังความสำเร็จอันล้นหลามของ Fallout ได้รับความสนใจจาก David Gaider อดีตหัวหน้าทีมเขียนบท Dragon Age ถึงขนาดรีทวิตตอบกลับมาเลยทีเดียว
“คงมีคนคาดว่าผมจะตอบ Dragon Age แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นความคิดที่แย่สุดๆ ผมยินดีจะเขียนบทให้ซีรี่ส์ Dragon Age นะ แต่บอกได้เลยว่าเรื่องราวแนวกลุ่มนักผจญภัยที่อัดแน่นไปด้วยความติสต์แบบภาพยนตร์เรื่อง Honour Among Thieves น่ะไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ผมคิดถึงเลย ไม่ใช่ตัวเลือกที่สอง หรือที่สามด้วยซ้ำไป”
“พอคุณเอาองค์ประกอบที่เกมตอบโต้กับผู้เล่นได้ออกไป สิ่งที่เหลืออยู่ก็เป็นเรื่องราวแนวแฟนตาซีดาดๆ ทั่วไปเท่านั้นเอง คงต้องดำดิ่งลึกเข้าไปพอสมควรเลยกว่าจะแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ในเกมออกมาให้โดดเด่นได้” Gaider กล่าวต่อ โดยอ้างอิงถึง Dragon Age, Elder Scrolls, และ Baldur’s Gate โดยเฉพาะ “ไม่ได้ถึงกับเป็นไปไม่ได้ แต่แค่ดัดแปลงแบบยึดตามต้นฉบับน่ะไม่ได้แน่นอน”
แล้วเกม RPG ชื่อดังอื่นๆ อย่าง Elder Scroll หรือ Mass Effect ล่ะ?
Todd Howard เคยปัดตกไอเดียที่จะดัดแปลง The Elder Scrolls ด้วยเหตุผลคล้ายๆ กัน โดยเลือกจะดัดแปลงผลงานไซไฟจากบริษัทเดียวกันอย่าง Fallout เนื่องจากมีความโดดเด่นสะดุดตาทางด้านสุนทรียศาสตร์มากกว่า ในขณะเดียวกัน BioWare เองก็มีซีรี่ส์แนวไซไฟเหมือนกัน แต่ David Gaider ไม่คิดว่า Mass Effect จะโดดเด่นมากพอในลักษณะเดียวกัน
“เหมือนกับ Dragon Age หรือ Baldur’s Gate 3 เลย ผมคิดภาพไม่ออกว่าซีรี่ส์ Mass Effect จะนำเสนออะไรที่เรายังไม่เคยเห็น หรือผ่านตากันมาเป็นโหลแล้ว” Gaider กล่าว “ยกตัวอย่างเช่น ซีรี่ส์ Halo หากตัดองค์ประกอบเล็กๆ บางอย่างออกก็สามารถเปลี่ยนชื่อเป็น Mass Effect ได้เหมือนกันเลย”
สามปีก่อน มีรายงานจาก Deadline ว่าทาง Amazon อยู่ในช่วงท้ายของการเจรจาที่จะทำซีรี่ส์ Mass Effect หลังมุ่งลงทุนใน “ผลงานแนวแฟนตาซีทุกประเภท” แต่ก็ไม่มีข่าวคืบหน้าหลังจากนั้นเลย บางทีพวกเขาอาจจะมาถึงข้อสรุปเดียวกับ Gaider ก็เป็นได้
แน่นอนว่า Dragon Age เคยได้สร้างซีรี่ส์แล้วในปี 2022 กับอนิเมชั่นจาก Netfilx เรื่อง Absolution และเหมือนกับผลงานเรื่อง Fallout ซีรี่ส์นี้ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี โดยมีคะแนนถึง 92% บน Rotten Tomatoes แต่ต่างจาก Fallout ตรงที่ยังไม่มีวี่แววจะได้เห็นซีซั่นสองเลย
การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์คนแสดงจริงจะทำให้ต้องแข่งกับผลงานชิ้นเอกในอดีตมากมายเช่น The Lord of the Rings และ Game of Thrones ซึ่งเป็นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้นเข้าใจได้ง่ายๆ เลยว่าทำไม Gaider และ Todd Howard ถึงไม่มั่นใจในศักยภาพของชิ้นงานที่จะเกิดขึ้นได้ โดยตอนนี้เราคงได้แค่รอดูกันไปความเห็นเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงในอนาคตมั้ย
