สกู๊ปพิเศษอนิเมะ

10 อนิเมะยุค 90 ที่ยังควรค่าแก่การชม

เด็กหนวดต้องฟินแน่นอน

แม้ว่าจะมีอนิเมะใหม่ ๆ ออกฉายทุกปีให้เราได้ติดตามกันจำนวนมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอนิเมะเก่า ๆ จะถูกลืมเลือนหายไป โดยเฉพาะการ์ตูนยุคทศวรรษที่ 90 ซึ่งถือได้ว่าเป็นยุครุ่งโรจน์ของอนิเมะคลาสสิคเลยก็ว่าได้ โดยในยุคนี้เราจะได้เห็นอนิเมะคลาสสิคชื่อดังอย่าง Cowboy Bebop, Dragon Ball Z และ Serial Experiments Lain ให้เราได้ชมกัน โดยในวันนี้เราได้รวบรวม 10 อนิเมะยุค 90 ที่ยังควรค่าแก่การชม บอกได้เลยว่าเด็กหนวดต้องฟินแน่นอน

1. Ranma 1/2 (161 ตอน)

image 3000

Ranma 1/2 (รันม่า 1/2 ไอ้หนุ่มกังฟู) เป็นผลงานมังงะและอนิเมะที่โด่งดังของ อ. Rumiko Takahashi โดยการ์ตูนนี้เป็นการ์ตูนที่ผสมผสานระหว่างแอ็กชั่นโชเน็น คอมเมดี้ และโรแมนติกเข้ากันได้อย่างลงตัว เราจะได้ติดตามเรื่องราวของ Ranma Saotome เด็กหนุ่มต้องคำสาป ซึ่งทำให้เมื่อโดนน้ำเย็นจะกลายเป็นเด็กสาว เมื่อโดนน้ำร้อนจะกลับเป็นผู้ชายเหมือนเดิม เราจะได้พบเจอกับตัวละครต้องสาปมากมายเช่นคำสาปที่เปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นสัตว์ เป็นต้น

Ranma 1/2 เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อเรื่องสนุกและตัวละครน่าสนใจ แต่ก็มีพล็อตเรื่องบางตอนดูล้าสมัยไปตามเวลา และมีฉากแฟนเซอร์วิสที่อาจทำให้บางคนไม่ชอบ (ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเช่นกัน) อย่างไรก็ตาม ซีรีส์นี้ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันและเหมาะสำหรับแฟน ๆ คอการ์ตูนคอเมดี้และแอ็กชั่น

2.  Mobile Fighter G Gundam (49 ตอน)

image 3001

Mobile Fighter G Gundam (โมบิลไฟท์เตอร์ จีกันดั้ม) เป็นซีรีส์อนิเมะปี 1994 ที่แตกต่างจากซีรีส์กันดั้มเรื่องอื่น ๆ ในยุคนั้น เพราะเป็นซีรีส์แนวต่อสู้ที่เน้นการต่อสู้ระหว่างกันดั้มจากหลายประเทศแทนที่จะเป็นสงครามการเมืองแบบที่เคยมีมา ซีรีส์นี้ใช้โครงสร้างการแข่งขันโชเน็นผสมผสานกับการต่อสู้กับแฟรนไชส์เมชาอย่างสร้างสรรค์ ทำให้ซีรีส์ดูสบาย ๆ กว่าซีรีส์กันดั้มทั่วไปมาก

G Gundam นำเสนอการต่อสู้อย่างต่อเนื่องและฉากแอ็กชั่นที่ดุเดือด อย่างไรก็ตามตอนจบที่ “ความรักพิชิตทุกสิ่ง” อาจไม่เหมาะกับแฟน ๆ บางคนที่ชื่นชอบความจริงจังของซีรีส์นี้

3. Tenchi Muyo! (26 ตอน)

image 3002

Tenchi Muyo! (ทำไมถึงเทพครับ) เป็นอนิเมะแนวฮาเร็มคลาสสิคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีเรื่องราวสนุกสนาน ตลกขบขัน แต่ก็มีเนื้อหาที่จริงจังและชวนให้คิด ซีรีส์นี้เล่าเรื่องราวของ Tenchi Masaki เด็กหนุ่มธรรมดาที่ชีวิตพลิกผันเมื่อ Ryoko Hakubi โจรสลัดอวกาศตกมาที่บ้านของเขาและนำความวุ่นวายมาสู่ชีวิตของเขาพร้อมด้วยสาว ๆ อีกมากมาย

อนิเมะนี้มาพร้อมกับฉากแฟนเซอร์วิสและบ่อน้ำพุร้อนมากมาย แต่อนิเมะนี้ก็มีข้อคิดให้เราได้ติดตามเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Tenchi ที่เป็นตัวละครที่ใจดีและเมตตา เขารักคนที่อยู่รอบตัวเขาและพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง อีกทั้งอนิเมะนี้ยังพาเราไปสำรวจความลึกซึ้งของคำว่าครอบครัว มิตรภาพ และความรัก

4. Flame Of Recca (42 ตอน)

image 3003

Flame of Recca (เปลวฟ้าผ่าปฐพี) เป็นซีรีส์แนวโชเน็นที่เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเท่า Yu Yu Hakusho หรือ Naruto เลยทีเดียว โดยซีรีส์นี้เล่าเรื่องราวของ Recca Hanabishi เด็กหนุ่มขี้เล่นที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนินจาผู้ยิ่งใหญ่ ความฝันของ Recca เป็นจริงเมื่อเขาค้นพบว่าเขามีพลัง Pyrokinetic และสามารถท้าทายคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังได้

อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการ์ตูนเรื่องนี้คืออนิเมชั่นที่ล้าสมัยและมีความยาวเพียง 42 ตอน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวอนิเมะแนวต่อสู้ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เปลวฟ้าผ่าปฐพียังคงน่าดูแม้ว่าเรื่องราวจะจบลงเร็วเกินไปทั้ง ๆ ที่ยังมีอะไรให้ติดตามอีกมากก็ตาม

5. Those Who Hunt Elves (12 ตอน)

image 3004

Those Who Hunt Elves (มิติป่วน! ก๊วนอลเวง) เป็นซีรีส์แนว isekai ยอดนิยมที่มีข้อบกพร่องในช่วงแรก ๆ แต่ซีรีส์นี้ได้รับประโยชน์จากตัวละครที่หลากหลาย เช่น นักศิลปะการต่อสู้ นักแสดง และวัยรุ่นผู้ชื่นชอบปืน

ความหวังเดียวของพวกเขาที่จะกลับไปยังโลกบ้านเกิดของพวกเขาคือการค้นหามนต์สะกดที่ถูกต้อง ซึ่งบังเอิญถูกแบ่ง และกระจายออกไปประทับตราไว้บนผิวหนังของผู้อยู่อาศัยที่มีมนต์ขลังในอาณาจักรนี้ และด้วยสถานที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวที่ต่อเนื่องดึงดูดใจช่วยให้ผู้ชม Those Who Hunt Elves ก้าวข้ามความซ้ำซากจำเจและแฟนเซอร์วิสได้สบาย ๆ

6. The Big O (26 ตอน)

image 3005

The Big O เป็นอนิเมะแนวหุ่นยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ประสบความสำเร็จในอเมริกาเหนือมากกว่าในญี่ปุ่น เนื่องจากมีการนำเสนออย่างโดดเด่นในรายการ Toonami ของ Cartoon Network ซึ่งการ์ตูน The Big O ปิดฉากยุค 90 ด้วยการผสมผสานระหว่างหุ่นยนต์ ฟิล์มนัวร์ ซีเรียลย้อนยุค และแม้กระทั่งแบทแมน

การ์ตูนนี้ได้นำเสนอ Roger “The Negotiator” Smith พร้อมด้วยหุ่นยนต์สาวใช้และพ่อบ้านผู้ซื่อสัตย์ของเขา ปกป้อง Paradigm City จากการโจมตีของหุ่นยนต์ขนาดยักษ์อย่างต่อเนื่อง The Big O เป็นอนิเมะที่ล้าสมัยมากในด้านสไตล์และอาจไม่คลิกกับแฟน ๆ หุ่นยนต์ในปัจจุบัน แต่ความล้าสมัยอย่างมีสไตล์นี้ยังคงโดนใจแฟน ๆ ทำให้มันยังคงอยู่ได้หลังจากผ่านไป 25 ปีแล้วก็ตาม

7. Ping Pong Club (26 ตอน)

image 3006

Ping Pong Club เป็นอนิเมะตลกหยาบโลนแหกกฎ ที่บางครั้งถูกนำไปเปรียบเทียบกับ South Park ซีรีส์นี้เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนนอกสังคมที่พยายามหาความนิยมผ่านชมรมปิงปองของโรงเรียน แต่ความสนใจของพวกเขากลับมุ่งเน้นไปที่การจีบสาวมากกว่า

Ping Pong Club เป็นอนิเมะที่ตลกขบขันด้วยการใช้ประโยชน์จากมุกตลกที่ไร้เดียงสาและแปลกประหลาด แต่มันก็อบอุ่นหัวใจอย่างน่าประหลาดใจไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งแต่ละตอนของการ์ตูนนี้ไม่ยาวทำให้อนิเมะนี้เป็นอนิเมะเป็นแนวตลกย้อนยุคที่หาได้ยากในอนิเมะในปัจจุบัน

8. Monster Rancher (73 ตอน)

image 3007

Monster Rancher (มอนสเตอร์ฟาร์ม) เป็นอนิเมะแนวเลี้ยงมอนสเตอร์ที่ออกฉายในปี 1999 โดยดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมที่ใช้ชื่อเดียวกัน เราจะได้ติดตามเรื่องราวที่กล่าวถึง Genki นักเลี้ยงมอนสเตอร์หนุ่มที่ออกผจญภัยเพื่อช่วยเหลือโลกแฟนตาซีจากการปกครองของเผด็จการลึกลับ

Monster Rancher เป็นอนิเมะที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและการต่อสู้ระหว่างมอนสเตอร์ ถึงแม้ว่าอนิเมะเรื่องนี้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมเท่า Pokémon หรือ Digimon เนื่องจากบางตอนค่อนข้างซ้ำซาก แต่โดยรวมแล้ว Monster Rancher ก็เป็นอนิเมะที่สนุกสนานและคุ้มค่าแก่การดู

9. Gunsmith Cats (3 OVA ตอน)

image 3008

Gunsmith Cats (แมวมือปืน) เป็นอนิเมะแนวแอ็กชั่นที่สะท้อนให้เห็นถึงอาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้นในยุค 90 น่าเสียดายที่อาจจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก เนื่องจากมี OVA เพียง 3 ตอนเท่านั้น โดยการ์ตูนนี้คล้ายกับการ์ตูนเรื่องอื่น ๆ ในยุคนั้น เช่น You’re Under Arrest และ Bubblegum Crisis

การ์ตูนนี้นำเสนอเรื่องราวของ Rally ผู้เชี่ยวชาญด้านปืน และ Minnie อดีตโสเภณี คู่หูนักล่าเงินรางวัลผู้แปลกประหลาด พวกเขามีความสามารถและมีไหวพริบ แต่พวกเขามักจะถูกมองเหมือนวัตถุโดยสายตาของเพศชาย ซึ่งแม้ว่าจุดนี้อาจจะทำให้อึดอัดไปบ้างหากดูในยุคนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า Gunsmith Cats เป็นอนิเมะคลาสสิคที่ควรค่าแก่การดู

10. Nadia: The Secret Of Blue Water (39 ตอน)

image 3009

Nadia: The Secret of Blue Water (นาเดีย ผจญภัยใต้สมุทร) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของ Nadia และ Jean เด็กหนุ่มและหญิงสาวที่ออกเดินทางเพื่อค้นหาปริศนาของอัญมณีสีน้ำเงิน เรื่องราวได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของ Jules Verne นอกจากนี้ การ์ตูนเรื่องดังกล่าวจะพาเราไปสำรวจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม การยอมรับ และความขัดแย้ง ซึ่งตลอดการเดินทาง Nadia และ Jean ต้องเผชิญหน้ากับโจรขโมยอัญมณีและการลุกฮือของชาว Neo-Atlanteans ผู้ที่ต้องการทำลายล้างโลก

การ์ตูนเรื่องนี้เป็นผลงานความร่วมมือระหว่างผู้กำกับ Hayao Miyazaki และ Hideaki Anno อนิเมะนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของวงการอนิเมะเลยทีเดียว

ทั้งหมดนี้คือ 10 อนิเมะยุค 90 ที่ยังควรค่าแก่การชม ซึ่งหากผู้อ่านคนใดต้องการนำเสนออนิเมะยุค 90 เพิ่มเติมก็สามารถคอมเมนต์กันได้เลยนะครับ

ที่มา cbr

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button