เมือง Shibuya ในญี่ปุ่นแจกสกุลเงินจากเกมกาชาให้ผู้ที่จ่ายภาษี

การจ่ายภาษีอาจไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำหรับใครหลายคน แต่ล่าสุด เขต Shibuya ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างความฮือฮาด้วยมาตรการที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพวกเขาเตรียมมอบ “สกุลเงินพรีเมียมจากเกมมือถือชื่อดัง” ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจ่ายภาษีท้องถิ่น ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และเหล่าเกมเมอร์โดยตรง

Shibuya แจกสกุลเงินจากเกม Monster Strike และ Kotodaman

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา Shibuya Ward ประกาศร่วมมือกับบริษัท MIXI ผู้ให้บริการเกมมือถือชื่อดัง เพื่อมอบรางวัลเป็น Orbs จากเกม Monster Strike และ Rainbow Kotodama จากเกม Kotodaman ให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ Furusato Nozei หรือ “การบริจาคภาษีบ้านเกิด” ของญี่ปุ่น

โครงการนี้เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเลือกนำส่วนหนึ่งของภาษีเงินได้ไปมอบให้กับเมืองที่ต้องการ แทนที่จะจ่ายตรงทั้งหมดให้รัฐบาลกลาง โดยปกติของตอบแทนมักเป็นของท้องถิ่น เช่น ข้าวญี่ปุ่นคุณภาพดี เนื้อวากิว ชา หรือสินค้าหัตถกรรม แต่ครั้งนี้ Shibuya เลือกเดินเกมแตกต่าง ด้วยการมอบ เงินในเกมกาชา ที่ปกติผู้เล่นต้องเติมเงินซื้อด้วยเงินจริง

ตามข้อมูลจาก Furusato Tax Research Institute ผู้เสียภาษีสามารถเลือกเข้าร่วมใน 3 ระดับ คือ ราว 70 ดอลลาร์, 200 ดอลลาร์ และ 340 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 2,300 บาท 6,500 บาท และ 11,000 บาทต่อปี) เมื่อทำรายการเสร็จ ผู้เล่นจะได้รับ รหัสพิเศษ สำหรับนำไปแลกรับไอเทมในเกมทันที ซึ่งมีผู้เล่นบางรายถึงกับยืนยันว่า คุ้มค่ากว่าการเติมเงินตรงในเกมเสียอีก

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเคยมีการทดลองใช้ของตอบแทนแปลกใหม่มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น NFT หรือไอเทมในเกมอื่น ๆ แต่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก อย่างไรก็ตาม การใช้ “สกุลเงินกาชา” ครั้งนี้สามารถสร้างเสียงวิจารณ์อยู่ไม่น้อย เพราะรางวัลลักษณะนี้ถูกมองว่า “ใกล้เคียงกับเงินสด” ซึ่งอาจทำให้เกิดการนำไปขายต่อเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีได้ ญี่ปุ่นเองก็เคยสั่งห้ามไม่ให้ใช้บัตรกำนัลหรือคูปองมูลค่าสูงในโครงการนี้มาแล้ว

แนวคิดของ Shibuya ครั้งนี้สะท้อนถึงการพยายามเชื่อมโยงนโยบายภาษีกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาอยู่กับเกมมือถือและกาชาเป็นประจำ หากมาตรการนี้ได้รับความนิยมจริง อาจเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่นเดินตาม แต่ก็ต้องจับตาดูว่าปัญหาด้านข้อกฎหมายและความเสี่ยงการนำรางวัลไปขายต่อจะถูกจัดการอย่างไร สุดท้ายแล้วนี่อาจกลายเป็นทั้ง “ก้าวใหม่ของนโยบายภาษี” หรือ “เพียงการทดลองสั้น ๆ” ที่ไม่ยืนยาวก็เป็นได้ ผู้อ่านล่ะครับคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนี้? อย่าลืมมาพูดคุยกันในเว็บไซต์ This is Game Thailand ได้เลยครับ