[รีวิว] The Walking Dead: Destinies – ขีดเขียนชะตาชีวิตใหม่ในแบบของคุณเอง
เกมที่มีเนื้อหาอ้างอิงจากซีรีส์ซอมบี้ชื่อดัง ที่ในครั้งนี้คุณคือผู้กำกับ
The Walking Dead: Destinies เป็นเกมใหม่จากจักรวาล The Walking Dead ที่พัฒนาโดย AMC และ GameMill Entertainment โดยเกมนี้เป็นเกมแนวแอ็กชั่นผจญภัยที่อ้างอิงเนื้อหาจากซีรีส์เวอร์ชั่นคนแสดงจริงในซีซั่นแรกแต่ความพิเศษก็คือ ผู้เล่นจะต้องทำการตัดสินใจในฉากสำคัญซึ่งอาจทำให้ชะตากรรมของตัวละครทั้งหมดเปลี่ยนไปแบบไม่คาดคิด ทั้งตัวร้ายที่จะรอดชีวิตแทนตัวเอก ตัวละครสำคัญอาจหักหลังขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่เราเลือก โดยเรื่องราวจะครอบคลุมตั้งแต่วันที่ Rick ก้าวเท้าออกจากโรงพยาบาลท่ามกลางฝูงวอล์คเกอร์ที่เดินอยู่ทั่วเมือง
และในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปสร้างเรื่องราวใหม่ขึ้นมาภายในเกมนี้ และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ
อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 ระหว่างวันที่ 21 – 27 พฤศจิกายน 2566 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้
กราฟิกที่ชวนให้คิดถึงอดีต
สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงก่อนเลยก็คือ กราฟิกภายในเกมนี้ที่ชวนให้คิดถึงอดีตอันหวานหอมเป็นอย่างยิ่ง เพราะกราฟิกโดยรวมของเกมนี้ถือว่าทำออกมาได้ย้อนยุคอยู่พอสมควร โดยเฉพาะโมเดลของตัวละครที่อาจจะดูคลาสสิคไปเสียหน่อย แต่สำหรับกราฟิกของบรรยากาศโดยรอบรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่น้อย มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ทำให้เกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีการออกแบบฉากได้ค่อนข้างน่าสนใจ
อย่างไรก็ตามในแง่ของความลื่นไหลในการเล่นเกมก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ โดยส่วนใหญ่แล้วเกมสามารถเล่นได้ลื่นไหลดีไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากมายนัก แต่บางครั้งผู้เขียนก็พบกับอาการเฟรมเรตตกแบบงง ๆ ทั้ง ๆ ที่เล่นบน PS5 ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกน่าเสียดายไม่น้อย ซึ่งหวังว่าทางผู้พัฒนาเกมจะมีแผนออกมาแก้ไขปัญหานี้ให้เราได้ใช้งานกันโดยเร็ว
เกมเพลย์ที่บู๊ก็ได้ แอบสวบก็ดี
ในส่วนของเกมเพลย์ภายในเกมนี้ก็ต้องบอกว่าตัวเกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกเล่นได้ 2 สไตล์ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบทบู๊แหลกแหกค่ายไล่ฟาดหัวซอมบี้ หรือจะลอบเร้นค่อย ๆ สวบซอมบี้ทีละตัวก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในบางภารกิจผู้เล่นอาจจะต้องถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับซอมบี้แบบจัง ๆ อยู่บ้าง ซึ่งก็ถือว่าเพิ่มความตื่นเต้นให้กับสายลอบเร้นไม่น้อยเลยทีเดียว แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเล่นได้สนุกทั้ง 2 สไตล์ครับ
สำหรับผู้เล่นสายบู๊จะมีอาวุธระยะประชิดให้เลือกใช้อยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไม้เบสบอล, มีดมาเชเต้, ขวาน และอื่น ๆ ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดก็จะมีความรุนแรงในการใช้งานแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย นอกจากนี้ภายในเกมยังมีอาวุธระยะไกลให้ใช้งานจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นปืน, ธนู, ระเบิด เป็นต้น ทำให้ผู้เล่นมีแนวทางที่หลากหลายในการเข้าต่อสู้กับซอมบี้ ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษภายในเกมนี้ก็คือระบบความเหนื่อยของตัวละคร โดยระบบนี้จะส่งผลต่อผู้เล่นสายบู๊อย่างมาก เพราะการโจมตีระยะประชิดแต่ละครั้งจะทำให้ตัวละครของผู้เล่นเหนื่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ (หรือเกจลมหายใจค่อย ๆ ลดลงนั่นเอง) และเมื่อเกจลมหายใจหมดลงก็จะทำให้ตัวละครโจมตีได้ช้าลงและหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ส่งผลให้เราอาจจะโดนซอมบี้รุมยำได้ (ซึ่งบอกได้เลยว่ายิ่งโดนรุมมากเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสตายไวมาก ๆ) ฉะนั้นผู้เล่นต้องวางแผนการต่อสู้ให้ดี ซึ่งผู้เขียนแนะนำว่าการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ประเภทปืน และระเบิดที่มีภายในเกมนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด
ในขณะที่สายลอบสังหารนั้นก็จะมีรูปแบบการเล่นที่คล้ายกับเกมอื่น ๆ อยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบ Instinct เพื่อทำให้เราได้เห็นศัตรู (และทิศทางการเดินของมัน), ย่องเข้าด้านหลังแล้วใช้มีดเสียบ, การปาขวดแก้วเพื่อดึงดูดความสนใจ, การใช้ระเบิดแสงเพื่อให้ศัตรูมึนงงชั่วขณะและใช้ช่วงเวลานั้นในการใช้มีดกำจัดศัตรู เป็นต้น ซึ่งผู้เขียนมองว่าการลอบเร้นภายในเกมนี้ถือว่าง่ายอยู่พอสมควร ซอมบี้ค่อนข้างมีปฏิกิริยากับผู้เล่นค่อนข้างช้า ทำให้ในหลายหลายครั้งเราสามารถลอบแทงศัตรูจนหมดแมปเลยก็ได้
การตัดสินใจเพื่อกำหนดชะตาชีวิตที่ยากจะคาดเดา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวใจหลักของเกมนี้จริง ๆ ก็คือ การเลือกตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะส่งผลแตกต่างกันออกไปต่อเรื่องราวของผู้เล่น โดยเริ่มต้นจากการตัดสินใจในสถานการณ์ที่หลาย ๆ ครั้งจะเป็นการกำหนดชีวิตของตัวละคร ซึ่งบางครั้งการเลือกคำตอบบางอย่างอาจจะทำให้เป็นการชี้ชะตาชีวิตว่าตัวละคร A หรือตัวละคร B จะต้องเป็นคนตาย โดยที่บางครั้งเราไม่อาจรู้เลยว่านั่นคือสิ่งที่เราจะต้องเจอ
บางครั้งการตัดสินใจบางอย่างจะส่งผลต่อแต้มสกิลที่เราจะได้รับ หากเราตัดสินใจถูกต้องก็จะได้รับแต้มสกิลมาใช้ในการอัปเกรดตัวละครเพิ่มเติม แต่ในทางกลับกันหากเราเลือกผิดอาจจะส่งผลให้ตัวละครถึงตายหรือเราอาจจะต้องเสียแต้มสกิลไปก็ได้ รวมไปถึงการเลือกทำภารกิจบางอย่างก็อาจจะส่งผลต่อสกิลที่ได้รับหรือตัวละครที่ปรากฏหรือตายไปด้วยเช่นกัน โดยการเลือกภารกิจนั้นจะทำให้ผู้เล่นได้มีประสบการณ์ในการเล่นเกมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรอบ ซึ่งจุดนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่สนุกเป็นอย่างมากภายในเกมนี้ เพราะจะทำให้คุณค่าในการเล่นซ้ำของเกมนี้สูงขึ้นด้วย
และสิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ ตัวละครภายในเกมนี้จะเป็นตัวละครเดียวกับที่ปรากฏในซีรีส์ The Walking Dead ด้วย นั่นแปลว่าเราสามารถดำเนินเรื่องราวของเกมนี้ให้แตกต่างไปจากซีรีส์ได้ ตัวละครบางตัวที่ตายภายในซีรีส์ ก็อาจจะไม่ใช่ตัวละครที่ตายในเกมที่เราเลือกเล่นก็ได้เช่นกัน
สรุปรีวิว
The Walking Dead: Destinies เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีความน่าสนใจในการนำเสนอไอเดียของเกม น่าเสียดายที่เกมนี้กลับต้องมาสะดุดก้าวใหญ่ด้วยกราฟิกที่ค่อนข้างย้อนสมัยเกินไป รวมไปถึงฉากคัทซีนที่ทำออกมาได้น่าผิดหวังอยู่พอสมควรด้วยการนำเสนอเป็นภาพนิ่งแทนที่จะเป็นอนิเมชั่นเคลื่อนไหว ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ผู้เขียนรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก
ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 6 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ
จุดเด่น
– เกมเพลย์ทางเลือกที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างเรื่องราวด้วยตนเอง
– เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีคุณค่าในการเล่นซ้ำค่อนข้างสูง
– เป็นเกมซอมบี้ที่เหมาะสมกับคนที่กลัวซอมบี้ เพราะตัวเกมไม่ได้นำเสนอบรรยากาศให้น่ากลัวจนเกินไป
ข้อสังเกต
– กราฟิก และอนิเมชั่นโดยรวมที่ย้อนยุคไปนิด
– ฉากคัทซีนที่เป็นภาพนิ่ง?!
– เฟรมเรตที่ตกให้เราได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ
สุดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…
เว็บไซต์ทางการ : https://www.twddestinies.com