คอนโซล / พีซีรีวิวรีวิว / พรีวิว

[รีวิว] Survivor – Castaway Island Survival

เกม Survival Game Show เอาชีวิตรอดเป็นคนสุดท้ายเพื่อรับรางวัลใหญ่กลับบ้าน

Survivor – Castaway Island Survival เป็นเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรายการทีวีประเภท Survival Game Show ที่ผู้เล่นจะต้องเข้าแข่งขันกัน และเอาชีวิตรอดให้เหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายเพื่อที่จะรับรางวัลใหญ่กลับบ้านไป

และในโอกาสที่ผู้เขียนได้เข้าไปลองเล่นเกมนี้มาแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 และถ้าหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้ครับ

กราฟิกที่เรียบง่าย สดใส แต่น่าจะไปให้ไกลกว่านี้อีกนิด

image 1237

สำหรับกราฟิกภายในเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้เรียบง่าย และสดใส แต่ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่น่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้อีกสักนิด แต่หากมองว่าเกมนี้เป็นเกมที่ต้องเน้นกราฟิกอะไรมากก็สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้อย่างสบาย ๆ  แต่ที่ผู้เขียนรู้สึกติดขัดหน่อยก็คือรายละเอียดหน้าตาของตัวละคร รวมไปถึงรูปร่างที่น่าจะทำออกมาให้ดีกว่านี้เสียหน่อย เพราะบางคนดูแล้วก็ไม่มั่นใจว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อย่างไรก็ตามบรรยากาศโดยรวมภายในเกมก็ถือว่าทำออกมาได้ดี สมกลับเป็นเกาะร้าง แม้ว่าโมเดลของสิ่งแวดล้อมจะซ้ำกันไปซ้ำกันมาอยู่เรื่อย ๆ ก็ตาม

เกมเพลย์รายการโชว์เอาชีวิตรอด

image 1236

ในส่วนของเกมนี้ก็จะเป็นเกมสไตล์ Survival Game Show ที่ผู้เขียนมองว่าใช้เวลาในการทำความเข้าใจไม่ยากนัก ทำให้การเล่นเกมนี้ค่อนข้างสนุกในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยเกมหลักจะแบ่งออกเป็นทั้งหมดสองช่วงด้วยกันได้แก่ช่วงของการเล่นมินิเกมแข่งขันกันระหว่างทีม (หรือการแข่งขันแบบเดี่ยวในช่วงครึ่งหลัง) และอีกส่วนหนึ่งก็คือเกมการเอาชีวิตรอดด้วยการตามหาทรัพยากรมาใช้สำหรับทีม

image 1235

โดยเกมส่วนแรกที่เป็นการแข่งขันมินิเกมก็ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจ  มีมินิเกมให้เล่นอยู่ในระดับหนึ่ง ทำให้การเล่นเกมในรอบแรก ๆ นั้นน่าตื่นเต้นไม่น้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเราเล่นไปสัก 3-4 รอบ (ซีซั่น) เราจะรู้สึกว่ามินิเกมนั้นซ้ำไปซ้ำมา ทำให้เริ่มเบื่อหน่ายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เขียนมองว่าหากเกมนี้มีมินิเกมเยอะกว่านี้น่าจะทำให้เกมนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

image 1234

ในขณะเดียวกันเกมนี้ในช่วงของการตามหาทรัพยากรเป็นอะไรที่ค่อนข้างแอบหัวร้อนอยู่ไม่น้อย  โดยช่วงนี้ผู้เล่นจะได้ใช้เวลาอยู่สักประมาณหนึ่งในการหาทรัพยากรสำคัญมาใช้สำหรับทีม ไม่ว่าจะเป็นอาหาร, น้ำ หรือไม้ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะต้องใช้พลังงานในการเก็บทรัพยากร ทำให้ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องจัดสรรในเรื่องของพลังงานให้ดี มิฉะนั้นหากพลังงานหมดก็มีสิทธิ์ที่จะถูกคัดออกจากเกมได้ อย่างไรก็ตามจุดแรกที่ทำให้ผู้เขียนแอบเกาหัวเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็คือการเก็บทรัพยากรที่เราจะต้องทำคล้าย ๆ กับมินิเกมสั้น ๆ (มาก ๆ) เพื่อเก็บทรัพยากร เช่นการสแปมปุ่มเพื่อเขย่าต้นไม้ ตักน้ำ หรือแม้กระทั่งคุ้ยกิ่งไม้ ทำให้การเล่นเกม 1 รอบนั้นเราจะต้องทำแบบนี้ซ้ำ ๆ อย่างน้อย 50 รอบ (หรือมากกว่านั้นหากเราเข้ารอบลึก ๆ ได้)

image 1233

จุดหัวร้อนที่ 2 คือแน่นอนว่าไม่ใช่เพื่อนในทีมทุกคนจะขยันตามหาทรัพยากร เพราะจากที่ผู้เขียนได้ลองเล่นมาหลายรอบก็จะพบว่าหลายต่อหลายครั้งที่เพื่อนร่วมทีมของเราค่อนข้างขี้เกียจ ไม่ยอมออกหาทรัพยากรใด ๆ หรือหามาน้อยมาก ๆ (บางคนหาไม้มาอันเดียว, บางคนหาอาหารมา 2 อัน เป็นต้น) ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งาน จนสุดท้ายเราก็ต้องเสียพลังงานไปกับการที่เราไม่มีอาหาร หรือน้ำเพียงพอ รวมไปถึงเสียพลังงานจากความหนาวเพราะมีไม้ไม่เพียงพอ ซึ่งหากเราจะเก็บทรัพยากรเองทั้งหมดก็ยากมากเพราะพลังงานก็มีจำกัด

แต่ที่ทำให้ประเด็นนี้หัวร้อนมากขึ้นก็คือ กิจกรรมช่วงการแข่งขันมินิเกมในแต่ละวันนั้นผู้เล่นจะเหมือนถูกบังคับให้เป็นตัวละครหลักในการเล่นเกมนี้ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเหมือนโดนบังคับเสียพลังงานทุกวัน เหมือนโดนเอาเปรียบยังไงก็ไม่รู้ ทำให้ภาพรวมในเกมเพลย์ของเกมนี้อยู่ในจุดที่น่าสนใจในเบื้องต้น แต่คุณค่าการเล่นซ้ำนั้นมีไม่มากนัก

image 1232

สุดท้ายคือสิ่งที่ทำเอากุมหัวก็คือเมื่อผู้เล่นเล่นจนจบซีซั่นไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการปลดล็อคซีซั่นที่ 2 และ 3 ต่อไปตามลำดับ ซึ่งแต่ละซีซั่นก็จะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้เขียนคาดหวังว่าจะมีมินิเกมที่แตกต่างไปจากเดิม แผนที่ที่เปลี่ยนไป หรือบรรยากาศ รวมไปถึงตัวละครที่เข้าร่วมใหม่ ๆ ผลปรากฏก็คือ… เหมือนเดิมเป๊ะ ๆ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากนัก (แต่ AI ฝั่งตรงข้ามอาจจะฉลาดขึ้น เก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ จากที่สังเกต แต่ก็ไม่ชัดเจนนัก) ซึ่งเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เขียนเอ๊ะแบบสุด ๆ

ภาษาคืออีกหนึ่งกำแพงในการเล่นเกมนี้

image 1231

อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญและมองข้ามไม่ได้เลยซึ่งจะเป็นปัญหาของผู้เล่นที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษทันทีนั่นก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ภายในทีม

โดยการสร้างความสัมพันธ์นั้นจะต้องเกิดจากการพูดคุยภายในแต่ละวัน  ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีอีเวนต์ให้เราได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมอยู่พอสมควร การตอบคำถามของเราก็จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเราและเพื่อนร่วมทีมนั่นแปลว่าหากเราไม่ค่อยชำนาญด้านภาษาอังกฤษก็จะทำให้การเล่นเกมนี้ยากขึ้นอีกขั้นหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สรุปรีวิว

image 1230

โดยรวมของเกมนี้ก็ถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้สนุกในขั้นต้น แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มรู้สึกว่ามันซ้ำไปซ้ำมาจำเจอยู่พอสมควร ทำให้เกมนี้มีคุณค่าในการเล่นซ้ำของเกมน้อยมาก ๆ แถมเกมนี้ยังไม่รองรับการเล่นแบบออนไลน์ หรือ Local Multiplayer อีกด้วย (รองรับการเล่น Local Multiplayer แค่โหมดมินิเกมเล็ก ๆ เท่านั้น) ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ๆ หากทีมพัฒนาเกมเพิ่มมินิเกมให้เยอะกว่านี้ ปรับ AI ให้สมดุลกว่านี้ รวมไปถึงมีแผนที่ที่แตกต่างจากเดิมให้ได้เล่นบ้างน่าจะดีกว่านี้

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 6.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

– เกมเพลย์ Survival Game Show ที่มีความสนุกในระดับหนึ่ง

ข้อสังเกต

– คุณค่าในการเล่นซ้ำ ด้วยมินิเกมที่มีน้อย และเกมเพลย์ที่ซ้ำไปซ้ำมา

– แผนที่ที่หมุนไปมาจนน่าปวดหัว

– AI ทำออกมาเป็นภาระพอสมควร

– ระบบซีซั่นที่ไม่ได้สร้างความแตกต่างใด ๆ

สุดท้ายนี้ ทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Ripples ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

image 1229
image 1228
image 1227
image 1226
image 1225
image 1224
image 1223
image 1222
image 1221
image 1220
image 1219
image 1218

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button