[รีวิว] Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai

Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai เป็นเกมแอ็กชั่น RPG ที่ผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยไปกับ Dai และผองเพื่อนในเนื้อเรื่องที่เข้มข้น โดยผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครในสนามรบได้อย่างอิสระและต่อสู้กับมอนสเตอร์ต่าง ๆ ด้วยอาวุธ หรือเวทมนตร์ที่หลากหลายได้มากมาย

และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปเก็บกู้ความทรงจำภายในเกมนี้เรียบร้อยแล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 ระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2566 – 1 ตุลาคม 2566 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

กราฟิกสวยงาม เอฟเฟกต์อลังการในระดับน่าพึงพอใจ

เกม Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai เกมนี้ใช้กราฟิกการ์ตูนแบบเซลเฉดซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีน่าประทับใจเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นภาพของตัวละคร กราฟิกบรรยากาศโดยรอบ รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่สามารถโดนทำลายได้ระหว่างการต่อสู้ของเรา อีกทั้งเอฟเฟกต์ของเกมนี้สวยงามมาก ๆ ทำให้การใช้สกิลแต่ละครั้งนั้นแอบประทับใจไม่น้อย

ระบบแอ็กชั่นที่สนุก แต่ก็แอบติดขัด ต้องใช้เวลาปรับตัวให้ชิน

Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai เป็นเกมแอ็กชั่น RPG ที่มาพร้อมการใช้สกิล และการสลับตัวละครในการต่อสู้ที่ผู้เล่นสามารถจัดทีมต่อสู้ได้จำนวน 4 คนด้วยกัน ซึ่งผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเพื่อนร่วมทีมได้ในสไตล์ของตัวเอง

ภายในเกมเพลย์แอ็กชั่นก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง โดยตัวเกมมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญ ๆ ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการโจมตีธรรมดา, การป้องกัน, การหลบหลีก อีกทั้งเรายังสามารถใช้สกิลพื้นฐานได้ 3 สกิล ซึ่งสกิลพื้นฐานนี้สามารถเปลี่ยนได้ตามต้องการ โดยเราจะได้รับสกิลใหม่เรื่อย ๆ จากการเล่นเกม รวมไปถึงแต่ละคนจะมีสกิลท่าไม้ตายอีก 1 สกิล และสกิลประจำตัวอีก 1 สกิล ทำให้การใช้สกิลภายในเกมถือว่าทำออกมาได้ดีน่าประทับใจในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสลับตัวละครระหว่างการต่อสู้ได้ ทำให้ผู้เล่นไม่เบื่อกับการควบคุมตัวละครเดียวไปตลอดการเล่นเกม ทำให้การเล่นเกมนี้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพราะตัวละครแต่ละตัวก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น Dai เป็นตัวละครโจมตีระยะประชิด, Pop นักเวทย์ตัวบั๊คที่โจมตีระยะไกล หรือ Maam หน่วยสนับสนุนทีมจากระยะไกล เป็นต้น

อีกทั้งบางฉากนั้นเราจะต้องเจอความท้าทายอยู่พอสมควรที่เราจะต้องควบคุมตัวละครตัวอื่นที่ไม่ใช่ Dai ในการเข้าต่อสู้กับบอส ทำให้หลาย ๆ ครั้งผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องไปฟาร์มการ์ดความทรงจำ เงิน และไอเทมต่าง ๆ เพื่อมาพัฒนาตัวละครเสียก่อน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้เขียนแอบขัดใจอยู่เล็กน้อยก็คือ แอ็กชั่นที่ไม่ลื่นไหลเท่าไหร่ การป้องกัน การหลบไม่สามารถทำได้ทันที จะต้องรอให้อนิเมชั่นการโจมตีเสร็จสิ้นก่อนทำให้ผู้เล่นที่เคยเล่นเกมแอ็กชั่นแบบบู๊แหลกมาก่อนอาจจะเกิดอาการขัดใจได้  รวมไปถึงการปล่อยสกิลทำให้เกิดช่องว่างหลังปล่อยสกิลอยู่ ทำให้การต่อสู้นั้นแอบสะดุดพอสมควร นอกจากนี้ผู้เขียนแอบเสียดายที่ระบบการล็อคเป้าของเกมนี้ทำออกมาได้แปลกมาก ๆ นั่นก็คือผู้เล่นสามารถล็อคเป้าศัตรูขนาดใหญ่ได้ แต่เรากลับไม่สามารถล็อคเป้ามอนสเตอร์ขนาดเล็กได้ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าต้องการให้การต่อสู้นั้นยืดหยุ่นมากขึ้น แต่การใช้เวทย์ของ Pop วืดบ่อย ๆ เพราะเป้าไม่ล็อคก็ทำเอาหัวเสียไม่น้อยเช่นกัน

โดยรวมแล้วการแอ็กชั่นถือว่าทำออกมาได้ดี แต่ด้วยรูปแบบการนำเสนอของการต่อสู้ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะต้องเรียนรู้การจับจังหวะใหม่อยู่ไม่น้อย และในหลาย ๆ ครั้งเราจำเป็นที่จะต้องฟาร์มอยู่นานในระดับหนึ่งเพื่อให้เราสามารถผ่านบอสไปได้โดยไม่ลำบากเกินไป

ระบบ RPG ที่นำเสนอออกมาได้น่าสนใจ แต่ก็แอบขาดอรรถรสไปเยอะ

ในแง่มุมของการเล่าเรื่องนั้น ผู้เขียนประทับใจอยู่ไม่น้อยที่ทางผู้พัฒนาตัดสินใจเลือกจุดการนำเสนอที่สำคัญมาก่อน นั่นก็คือการต่อสู้ระหว่าง Dai และ Baran ซึ่งช่วงนี้เองที่ทำให้ Dai สูญเสียความทรงจำ และใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบย้อนอดีตโดยเชื่อมโยงว่า Dai ค่อย ๆ เก็บกู้ความทรงจำกลับมาผ่านการเล่นเกมของเรา รวมไปถึงการเก็บไอเทมการ์ดความทรงจำที่นำมาจากตัวละคร และช็อตสำคัญของการ์ตูน

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการตัดสินใจของทีมงานในการทำฉากเล่าเรื่องส่วนใหญ่เป็นแบบภาพนิ่งจากกอนิเมะปีล่าสุดผสมกับการบรรยายภาพ จะมีเพียงบางฉากที่เป็นฉากคัทซีน 3 มิติ ซึ่งจุดนี้ผู้เขียนแอบรู้สึกว่าอรรถรสของเกมหายไปเยอะมาก ๆ เพราะผู้เขียนก็แอบคาดหวังที่จะได้เห็นฉากภายในอนิเมะถูกทำเป็นคัทซีนภายในเกมสวย ๆ ออกมาให้เราได้ชมกันมากกว่าการนั่งอ่านคำบรรยาย

ในขณะเดียวกันภายในเกมนี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจเมืองแต่อย่างใด โดยส่วนใหญ่เกมจะนำเสนอฉากคัทซีนแบบภาพนิ่ง และการต่อสู้เป็นหลักเท่านั้น เรียกได้ว่าตัดองค์ประกอบของการสำรวจซึ่งเป็นหัวใจของเกม RPG ออกไปเลย ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ อีกทั้งเกมนี้ไม่มีการเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย (นอกเหนือจากสกิน) แต่เลือกใช้เป็นระบบการ์ดความทรงจำหรือที่เรียกว่า Bond Memories แทน ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย แต่ก็แอบเสียดายว่าจริง ๆ ถ้ามีระบบอุปกรณ์พื้นฐานเข้ามา และเอาระบบการ์ดความทรงจำมาเป็นเหมือนอุปกรณ์เสริมก็จะทำให้น่าสนใจมากกว่านี้

Temple of Recollection ที่น่าจะเป็นองค์ประกอบหลักของเกม

Temple of Recollection คล้าย ๆ กับตะลุยหอคอยของหลาย ๆ เกม ที่ผู้เล่นจะได้มีโอกาสออกตะลุยแต่ละชั้น แล้วได้รับบัฟพิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้น (ในหอคอย) นอกจากนี้การตะลุยหอคอยนี้ยังเปิดโอกาสให้เราได้หาไอเทมมาอัปตัวละครได้ รวมไปถึงเราจะได้รับ Memory มาให้ตัวละครสวมใส่ด้วย ทำให้การลง Temple of Recollection กลายเป็นหัวใจหลักของเกมไปโดยปริยาย เพราะในหลาย ๆ ครั้งเราจะโดนเกมบังคับให้ต่อสู้กับบอสแบบ 1 ต่อ 1 ทั้ง ๆ ที่ตัวละครของเรามีเลเวลน้อยกว่า รวมไปถึงอุปกรณ์ของเราอ่อนกว่าบอสพอสมควร ทำให้เราต้องระเห็จเข้า Temple of Recollection ไปฟาร์มไอเทม และการ์ดต่าง ๆ มาเพื่อพัฒนาตัวละครก่อนไปต่อสู้กับบอสอีกครั้ง

สรุปรีวิว

Infinity Strash: DRAGON QUEST The Adventure of Dai เป็นเกมแอ็กชั่น RPG ที่เล่นได้สนุกสนาน เพลิดเพลิน แถมมีไอเดียค่อนข้างดี แต่น่าเสียดายที่การนำเสนอทำออกมากลับไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นักกับวงการเกมในปัจจุบัน แต่โดยรวมแล้วเกมนี้ก็ถือว่าเป็นเกมที่สนุก และน่าเล่นอยู่ไม่น้อยครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 7 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

• แอ็กชั่นที่สนุกสนาน
• ได้ติดตามเนื้อเรื่องละเอียดในระดับหนึ่ง
• กราฟิกสวยงาม
• แผนที่ที่ทำให้เข้าใจว่าเหตุการณ์เกิดที่จุดไหนบ้าง

จุดสังเกต

• ขาดองค์ประกอบความเป็นเกม RPG ไปอยู่ไม่น้อย
• ถ้ามีโหมด Co-op ตอนลงหอคอยน่าจะทำให้เกมน่าสนใจมากกว่านี้

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

สำหรับใครที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อเกมได้ที่ BNEAs’ e-store :  [คลิก] และตัวแทนจำหน่ายในไทย

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม