รีวิว

[รีวิว] Final Fantasy XVI – อภิมหาสงคราม Eikons กับเรื่องราวสุดเข้มข้น

เกม Action RPG ที่ยกระดับแฟรนไชส์ขึ้นไปอีกขั้น

Final Fantasy XVI เป็นเกม Action RPG ภาคล่าสุดในแฟรนไชส์ Final Fantasy โดยเรื่องราวภายในเกมนี้จะพาเราไปติดตามเรื่องราวของ Clive ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับกลุ่มคนที่เรียกว่า Dominants of Titan ที่จะเป็นผู้ควบคุมมนต์อสูรที่เรียกว่า Eikon ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษที่เกิดขึ้นมาอย่างเป็นปริศนา และนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจากทหารทั่วไปกลายเป็นกุนซือสนามรบด้วย เช่นเดียวกับ Benedikta Harman หญิงสาวนักดาบที่ได้รับพลังควบคุม Garuda มาและเป็นผู้บังคับบัญชาการใจอำมหิต

และในโอกาสนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปผจญภัย และเข้าสู่สนามรบไปกับ Clive แล้ว และผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะมานำเสนอรีวิวเกมที่น่าสนใจให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

การนำเสนอเกมที่อลังการ ครบถ้วนของงานศิลป์

image 1186

ในเกม Final Fantasy XVI ต้องบอกก่อนว่าเกมนี้อาจจะเรียกได้ว่างานศิลป์ระดับเทพงานหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยองค์ประกอบในแง่ของภาพ เสียง และเนื้อเรื่องนั้นทำออกมาได้ดีจนต้องยกนิ้วให้จริง ๆ โดยเริ่มต้นจากงานภาพที่บอกได้เลยว่ากราฟิกภายในเกมนี้ทำมาแบบสวยงามจัดเต็มเก็บทุกรายละเอียดแบบสุด ๆ ฉะนั้นหากใครที่ชื่นชอบการเสพย์กราฟิกรับรองได้เลยว่าประทับใจแบบสุด ๆ อย่างแน่นอน อีกทั้งเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ภายในเกมก็อลังการงานสร้างจนตะลึงในหลาย ๆ ฉาก ในขณะที่ดีไซน์ของมุมกล้อง การเคลื่อนไหว จังหวะการเล่าเรื่อง และช็อตการนำเสนอต่าง ๆ ถูกทำออกมาได้ดีจนผู้เขียนกล้าใช้คำว่า “มันถูกอัประดับขึ้นไปอีกขั้น” แล้ว

image 1187

ในขณะที่ในแง่ของเสียงนั้นหากใครประทับใจกับเพลงประกอบสไตล์วงออร์เคสตราแบบ One-Winged Angel ของ Final Fantasy VII บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะดนตรีประกอบภายในเกมนี้ทำอออกมาได้ดีไม่แพ้กับเพลงประกอบในตำนานจากหลาย ๆ ภาคก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ของ Eikons ที่ถ้าใครได้เล่นเกมเวอร์ชั่น Demo มาแล้วก็คงจะรู้สึกเหมือนกันว่า “มันโคตรอลังการเลย”

image 1188

ในส่วนของเนื้อเรื่อง และการนำเสนอเนื้อเรื่องนั้นก็มาแบบจัดเต็มอย่างที่ผู้กำกับได้บอกไว้ว่าเกมนี้ถูกทำออกมาในโทนที่มืดหม่นกว่าเดิม อีกทั้งยังมีฉากแบบจัดหนักจัดเต็มจนได้เรต M ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เห็นความดิบเถื่อนแบบที่ไม่เคยได้เห็นในแฟรนไชส์ Final Fantasy มาก่อนแบบจัดเต็มสุด ๆ เรียกได้ว่าเลือดเป็นเลือด กระจายเต็มจอแน่นอน ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องของเกมนี้ค่อนข้างที่จะตึงเครียดอยู่พอสมควรตามที่ผู้กำกับได้บอกไว้ ผสมผสานกับการเล่าเรื่องราวที่ถูกทำออกมาในสไตล์ที่คล้ายกับภาพยนตร์มากกว่าเกม ทำให้เราเข้าถึงแก่นของเกมได้ดียิ่งขึ้น แต่ในมุมผู้เขียนจะมีข้อติงเล็กน้อยก็คือ คัทซีนยาวมากกกกกกกกกกกกกก แถมเวลาที่มีคัทซีนเราจะไม่สามารถเซฟได้ การเซฟอัตโนมัติก็ไม่เกิดขึ้นระหว่างคัทซีนด้วย ทำให้กว่าจะเซฟได้ต้องใช้เวลานานมาก ๆ ซึ่งจุดนี้ทำผู้เขียนแอบเซ็งในบางครั้งเวลาที่ต้องการปิดเกม

การต่อสู้ที่ลื่นไหลสมกับที่รอคอย

image 1189

ต้องยอมรับว่าการที่ได้ Ryota Suzuki มาดูแลในส่วนของระบบการต่อสู้แบบแอ็กชั่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย เพราะเกมเพลย์ต่อสู้ภายในเกมเรียกได้ว่าลื่นไหลแบบสุด ๆ โดยการเชื่อมโยงระหว่างการสำรวจแผนที่เข้ากับการต่อสู้แบบเรียลไทม์ทำได้แบบไร้รอยต่อจริง ๆ

image 1190

ในขณะเดียวกันการต่อสู้ภายในเกมนี้ก็ทำได้ง่ายมาก ๆ โดยมีการควบคุมพื้นฐานอยู่แล้วก็คือการโจมตี, การหลบหลีก เป็นต้น แต่ที่ผู้เขียนยกนิ้วให้ก็คือการปัดป้อง (Parry) ที่เราไม่ต้องกดป้องกันแต่อย่างใด เพียงแค่เรากดโจมตีให้ตรงกับจังหวะที่ศัตรูโจมตีมา ก็จะเป็นการปัดป้องอัตโนมัติแล้ว ระบบนี้ทำให้หลาย ๆ ครั้งเราสามารถปัดป้องศัตรูได้โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการกดปุ่มถือว่าดีมาก ๆ ในขณะเดียวกันการใช้เวทมนตร์ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว รวมไปถึงการกดใช้สกิลก็ทำได้ด้วยการกดปุ่ม R2 คู่กับปุ่มที่ต้องการ และการโจมตีก็ทำได้หลากหลายด้วยการกดปุ่มเพียง 1-2 ปุ่มเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ผู้เขียนสะใจกับการต่อสู้ภายในเกมนี้มาก ๆ เพราะการโจมตีนั้นทำได้ง่ายมาก ๆ ยิ่งหากเราฝึกจนชินจนหลบหลีกศัตรูได้คล่องขึ้นยิ่งทำให้การต่อสู้นี้มันส์ยิ่งขึ้น

image 1191

ในส่วนของการต่อสู้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การ Break ศัตรูให้ได้ ซึ่งการ Break นี้เกิดจากการที่โจมตีศัตรูไปเรื่อย ๆ เพื่อทำให้แถบกำลังใจของศัตรูนั้นลดจนหมด และเมื่อไหร่ที่ศัตรูแถบกำลังใจหมดนั้น ศัตรูจะเข้าสู่สถานะ Staggered ซึ่งจะทำให้ศัตรูอยู่นิ่งไปชั่วขณะ และอ่อนแอลงเล็กน้อย และในช่วงนี้เองคือช่วงที่มันส์มือที่สุดเพราะเราสามารถโจมตีศัตรูได้รัว ๆ ในช่วงที่ศัตรูติดสถานะนี้ แถมตอนที่ศัตรูฟื้นฟูสภาพคืนมาจะมีการบอกด้วยว่าเราทำดาเมจในช่วงศัตรูติด Staggered ได้เท่าไหร่ เรียกได้ว่าวัดความโหดกันให้เห็นแบบจะ ๆ เลย

image 1192

นอกจากนี้ระหว่างการต่อสู้บางครั้งจะมีการปรากฎของ QTE (Quick Time Event) ที่จะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ก็คือการกดปุ่มภายในเวลาที่กำหนดเพื่อโจมตีศัตรู และการกดปุ่มภายในเวลาที่กำหนดเพื่อหลบหลีกการโจมตีของศัตรู ทำให้เมื่อองค์ประกอบของการต่อสู้ทั้งหมดนี้มาร้อยเรียงกัน ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับเกมแอ็กชั่นที่มันส์สะใจแน่นอน

องค์ประกอบของเกม RPG ที่ใส่มาครบถ้วน

image 1193

แน่นอนว่าเกมนี้เป็นเกม RPG องค์ประกอบในแง่ของการพัฒนาตัวละครก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ โดยเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดี เข้าใจง่ายแบบสุด ๆ ทำให้ผู้เขียนประทับใจเป็นอย่างมาก โดยหลัก ๆ ก็คือผู้เล่นจะได้เก็บเลเวลผ่านการต่อสู้เพื่อเพิ่มระดับตัวละคร โดยตัวละครที่มีระดับสูงขึ้นก็จะมีค่าสถานะที่สูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ตัวละครจะได้สวมใส่อุปกรณ์ซึ่งมีทั้งหมด 6 ช่องด้วยกัน นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถอัปเกรดสกิลที่ต้องการใช้งานได้ด้วย โดยการอัปเกรดสกิลจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนก็คือ การปลดล็อคเพื่อให้ใช้สกิลได้ และการอัปเกรดสกิลที่ปลดล็อคแล้วให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถรีเซ็ตสกิลได้ด้วย ทำให้ผู้เล่นสามารถทดลองการสร้างตัวละครได้หลากหลายแบบตามต้องการเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามก็ต้องยอมรับว่าระบบ RPG ภายในเกมนี้ไม่ได้ถูกทำมาลึกเท่าไหร่นัก ทำให้ผผ(ู้เล่นสายเสพเกมเพลย์สไตล์ RPG อาจจะรู้สึกผิดหวังไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว สำหรับผู้เขียนมองว่าความตื้นเขินนี้ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของเกมลดทอนลงไปมากมายเท่าไหร่

ระบบ Active Time Lore ที่มีประโยชน์สุด ๆ

image 1194

ในตอนแรกผู้เขียนก็ไม่คิดว่าระบบนี้จะมีประโยชน์เท่าไหร่นัก เพราะโดยปกติแล้ว Lore หรือข้อมูลภายในเกมจะเขียนมาค่อนข้างละเอียดจนบางทีก็ท้อที่จะอ่านเหลือเกิน โดยเฉพาะ เกม Final Fantasy ซึ่งเป็นเกมที่มีเนื้อหาเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติบุคคล, สถานที่ รวมไปถึงฝ่ายต่าง ๆ แต่ระบบ Active Time Lore นี้มีประโยชน์กว่าที่คิดมาก ๆ ด้วยการที่เราสามารถเข้าถึงเมื่อไหร่ก็ได้เพียงแค่กด Start และกดปุ่มที่กำหนดไว้ เราจะเข้าถึงหน้าจอดังกล่าวได้ทันที

image 1195

แต่ที่ผู้เขียนประทับใจไปมากกว่านั้นก็คือ ข้อมูล Lore ที่เขียนให้เราได้อ่านกันในระบบนี้ไม่ได้ยาวยืดเยื้อจนปวดหัวปวดตา แต่มีการเขียนที่กระชับชัดเจน แถมมีภาพประกอบด้วย ทำให้เราสามารถเข้าใจรายละเอียดของเนื้อหาที่เราต้องการได้เป็นอย่างดี แถมยังมีมาร์กเกอร์บอกอีกด้วยว่าในตอนนี้ เราอยู่ ณ สถานที่แห่งไหนของ Lore อีกทั้งข้อมูลที่ปรากฏนั้นจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ณ เวลานั้น ๆ ไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดของเกม ทำให้เราเชื่อมโยงสถานที่เข้ากับเรื่องราว และข้อมูลทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าระบบนี้ช่วยเติมเต็มเกมเมอร์สายเสพเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี

สรุปรีวิว

image 1196

ผู้เขียนบอกได้เลยว่า Final Fantasy XVI ถือได้ว่าได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแฟรนไชส์ Final Fantasy ไปเรียบร้อยแล้วทั้งในแง่ของเนื้อเรื่อง การนำเสนอ รวมไปถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้อลังการโดนใจแบบสุด ๆ อย่างไรก็ตามเกมนี้ไม่ได้เหมาะกับผู้เล่นทั่วไปอีกต่อไปแล้วด้วยความที่เกมนี้เป็นเรต M ทำให้ความเข้มข้น และความโหดร้ายที่เกมนำเสนอก็สูงขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้พัฒนาเกมนี้ครับ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

  • องค์ประกอบภาพสวยงามมากทั้งกราฟิก เอฟเฟกต์และความลื่นไหลในการเล่น
  • ดนตรีประกอบอลังการสมกับการรอคอย
  • เนื้อเรื่องเข้มข้น มีเซอร์ไพรส์ให้เราได้ตื่นเต้นแทบจะตลอดเวลา
  • เกมเพลย์ Action ที่มันส์สะใจ แต่เข้าถึงผู้เล่นได้ง่ายมาก ๆ

ข้อสังเกต

  • คัทซีนยาวมาก เซฟระหว่างดูไม่ได้ด้วย
  • ปากของตัวละคร ขยับไม่ตรงกับเสียงพากย์ในภาษาญี่ปุ่น
  • ระบบ RPG ที่อาจะตื้นไปนิด

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment อีกครั้งสำหรับโอกาสดีๆ ในการรีวิวเกมในวันนี้ ส่วนคราวหน้าเราจะมีอะไรมาแบ่งปันอีกนั้นก็ขอเชิญติดตามที่นี่เช่นเคยที่ ThisIsGame Thailand ครับผม

รายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ [คลิก]

ภาพ Screenshots

image 1197
image 1198
image 1199
image 1200
image 1201
image 1202
image 1203
image 1204

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button