[รีวิว] Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival ยกอาร์เคดตีกลองมาไว้ที่บ้าน
เกมภาคใหม่ที่มาพร้อมฟีเจอร์เด็ดมากมายและคลังเพลงแบบเบิ้มๆ
หมายเหตุ: ตัวเกมที่ได้นำมาทดสอบคือเวอร์ชัน PC เป็นหลัก ควบคู่กับ PS5 ประสบการณ์ที่ได้รับอาจมีความแตกต่างกันตามแพลตฟอร์ม
บ่อยครั้งที่เราอาจจะเคยเดินผ่านร้านอาร์เคดและได้ยินเสียงตูมตามจากตู้เกมหนึ่งที่มาพร้อมเสียงเพลงสนุกสนานและคนตีกลองอย่างขมักเขม้น แน่นอนว่านี่คือความมันส์ของ Taiko no Tatsujin ที่เป็นเกมอาร์เคดยอดฮิตและมีภาคต่อออกมาแล้วหลายสิบภาคจนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางมาถึงแพลตฟอร์ม PC กันอีกเป็นครั้งที่สองในภาคใหม่อย่าง Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival ที่เป็นครั้งแรกที่เกมมาตรฐานคอนโซลได้วางจำหน่ายพร้อมกันด้วย และภาคนี้จะมีอะไรน่าติดตามบ้างนั้นพวกเราก็ขอพาเพื่อนๆ มาชมการรีวิวข้างล่างนี้เลย
การนำเสนอของ Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival
พูดถึงเกมซีรีส์ไทโกะแล้ว สิ่งที่เราจะต้องนึกถึงก็แน่นอนว่าเป็นอะไรไปไม่ได้ครับนอกจากการตีกลองซึ่งภาคนี้เองก็ถือเป็นภาคหลักภาคใหม่ที่ยังคงโครงสร้างโหมดต่างๆ แบบเดิมเลย แต่ที่น่าสนใจก็คือน่าเมนูออกแบบมาให้เหมือนกับเทศกาลงานวัดญี่ปุ่นที่เป็นธีมหลักของเกม แบ่งออกเป็นโหมด Taiko ที่เป็นโหมดพื้นฐานเลือกเพลงให้เราได้เล่นไปเรื่อยๆ, โหมด VS ที่รองรับทั้งการเล่นแข่งกันแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ และยังมีมินิเกม รวมไปถึงหมวดร้านค้าให้เราซื้อของตกแต่งตัวละครไทโกะ (ด้งจัง) ของเรา
การเล่นเกมในโหมด Taiko Mode จะทำให้เราได้ทั้งเงินสำหรับซื้อสินค้า และได้แต้ม Drum Level ด้วย ซึ่งแต้มนี้จะเป็นความคืบหน้าในการดำเนินเนื้อเรื่องที่เป็นคัตซีนออกมาให้เราชมพักๆ หรือบางครั้งอาจจะได้ไอเทมแทน ให้นึกภาพคล้ายกับ Battle Pass แต่ว่าเป็นของฟรีทั้งหมดไม่ต้องซื้อ ยิ่งเราได้แต้ม Drum Level ก็จะได้เพลงใหม่ หรือไอเทมที่จะปรากฏมาขายในโหมดร้านค้า ส่วนนี้คิดว่าดีไซน์มาได้ค่อนข้างเข้าใจง่ายเลย และแน่นอนว่าในส่วนของเพลงก็ยังจัดลิสต์ไว้ตามหมวดหมู่ได้ดีทีเดียว
เกมเพลย์
วิธีการเล่นก็ไม่ยากเลยเพราะเกมตีกลองนี้เราเพียงแค่เลือกเพลงในโหมด Taiko Mode และเลือกระดับความยากตามที่เราต้องการ จากนั้นก็จะตัดเข้าเกมได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวโน้ตจะวิ่งมาจนถึงจุดที่เราสามารถตีโน้ตได้ แบ่งเป็นสีส้มคือการตีกลองบริเวณหน้ากลอง และสีฟ้าคือบริเวณขอบกลอง ส่วนตัวไหนที่มีขนาดใหญ่กว่า ให้เราใช้สองไม้ตีตรงจุดหน้า – ขอบ ตามสีกำหนด (ใช่ครับ ต่อกลองมาใช้ไม้ตีก็ได้นะ) แต่ถ้าเกิดใครไม่สะดวกใช้ชุดกลอง ก็มีปุ่มที่เซ็ตติ้งหลักเอาไว้อยู่แล้วคือ A,B,X,Y ที่เป็นปุ่มมาตรฐาน หลังจากนั้นก็ใช้สัญชาตญาณของเราได้เลย
คอนเทนต์แน่นสะใจ
เพลงที่จะมาปรากฏในตัวเกมก็คัดเลือกมาได้ยอดเยี่ยมเลยครับ แบ่งออกเป็นกลุ่มชัดเจนทั้งแนว Pop, Classic, Anime, Vocaloid และเพลงจากวิดีโอเกม เช่น Katamari on the Rock รวมไปถึงหมวดอื่นๆ ยิบย่อย โดยเพลงฮิตที่เคยอยู่ในภาคก่อนๆ อย่าง Into the Night กับ Natsu Matsuri ยังคงใส่มาเหมือนเดิม พร้อมกับเพลงใหม่ๆ บางส่วน รวมแล้ว 70 กว่าเพลงตีกันมันส์ แถมในอนาคตจะมีการสนับสนุนคอนเทนต์ DLC อีกด้วยครับ
นอกจากไลน์อัปเพลงหลักหลายสิบเพลงที่มีให้เลือกสรรแล้ว ภายในภาคนี้ได้มีโหมดมินิเกมคลายเครียดให้เล่นด้วย ทั้งแนว Co-op และแนว PvP ที่เอาเข้าจริงเหมาะกับการเล่นแบบ Local Multiplayer ไม่น้อยเพราะแต่ละเกมมีอุปสรรคที่โหด ชวนสแปมปุ่มสแปมตีกลองมากทีเดียว (ฮา) ส่วนตัวจะชอบโหมดที่แข่งกันทำคะแนนครับ ทั้งนี้ถ้าถามว่าแปลกใหม่หรือเปล่า เอาเข้าจริงก็รู้สึกว่าเป็นเหมือนกับการใส่เอฟเฟกต์ให้กับการเล่นโหมดหลักแค่นั้น ผู้เล่นอาจไม่ได้โฟกัสกับการเล่นแนวปาร์ตี้ แต่ต้องการที่จะทำคะแนนแข่งกันมากกว่า
ที่ขาดไม่ได้ก็คือการตกแต่งตัวละคร ภายในเมนูหลัก ผู้เล่นจะสามารถเข้าไปยังหน้าจอ My Room ได้เพื่อที่จะติดตามรายละเอียดสถิติหรือว่าเช็คคลังไอเทมภายในที่เราเคยซื้อหรือปลดล็อก โดยไอเทมสำหรับการแต่งตัวจะมีหลักหลายเลย แบ่งเป็นพาร์ตศีรษะที่ตกแต่งหน้ากลอง และพาร์ตลำตัว แต่ละชุดจะมีทั้งแนวน่ารักไปจนถึงแบบกวนโอ๊ย หรือจะเป็นชุดแบบพาร์ตเดียวใส่ทั้งตัวที่บางอันแทบจะไม่เหมือนกลองแต่กลายร่างเป็นเครื่องแห่ศาลเจ้าเห็นแล้วฮาเกิ๊น! ท้ายที่สุดผู้เล่นสามารถเลือกสีตัวละคร และแต่งยศได้เช่นเดิม ทั้งหมดนี้จะปรากฏเมื่อเล่นโหมดออนไลน์ด้วยนะ
ขยายคลังเพลงยอดนิยมติดดาวกับ Taiko Pass
ท้ายที่สุด ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อสิทธิ์สมาชิกที่เรียกว่า Taiko Music Pass ได้ โดยจะเป็นสิทธิ์เข้าเล่นบริการออนไลน์ที่เป็นคลังเพลงอีกมากกว่า 700 เพลง โดยส่วนมากจะเป็นเพลงจากเกมภาคเก่าๆ ที่ไม่มีจำหน่ายในชุด DLC หรือไม่มีในเกมตัวพื้นฐาน และยังมีเพลงใหม่ที่เปิดพรีเมียร์ให้เล่นกันในนี้ครั้งแรกเช่นกัน จุดนี้จากที่เคยลองบน Nintendo Switch รู้สึกว่าค่อนข้างยอดเยี่ยมเลย และต้องชมว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ก็ไม่รู้สึกว่าแลคด้วยเหมือนกันครับ ค่าบริการเองก็ถูกด้วย ซึ่งผมคิดว่าไลน์อัปเพลงน่าจะเป็นชุดเดียวกันและได้รับการสนับสนุนพร้อมกัน
บทสรุป
หากเกมภาค The Drum Master จะเป็นการเปิดศักราชของแฟรนไชส์นี้บน PC แล้ว ก็ต้องบอกเลยว่า Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival คือการขยายความสนุกให้ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยคอนเทนต์ที่อัดแน่นจัดเต็มและการสนับสนุนที่จะมีอะไรให้เล่นกันยาวๆ ด้วย Music Pass หากใครคิดว่ากำลังมองหาเกมไทโกะสำหรับเล่นที่บ้าน ภาคนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับภาคอาร์เคดอย่าง Nijiro ตามตู้เกมไม่น้อย ที่สำคัญด้วยโหมดมินิเกมกับออนไลน์ก็ยิ่งทำให้เกมมีมิติมากกว่าการตีกลองธรรมดา พร้อมมอบความสนุกให้เราได้แบบเต็มอิ่ม (ขอแง้มว่ากราฟิกโมเดลด้งจังปรับปรุงเป็นสามมิติแล้วนะ)
ท้ายที่สุดนี้พวกเราก็ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia สำหรับตัวเกมที่นำมารีวิวกัน และแน่นอนว่าใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival บ้างก็ไม่ต้องรอนานเพราะวางจำหน่ายแล้วทั้งบน PlayStation 5, Xbox Series X|S, Nintendo Switch และ PC โดยมีสองรูปแบบให้เลือกสรรคือเวอร์ชันมาตรฐาน และเวอร์ชัน Setlist ที่จะมาพร้อม DLC บางส่วนด้วย สามารถตามหาได้อย่างสะดวก ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอย่าลืมติดตามที่นี่เช่นเคย