[รีวิว] The Sims 4: Discover University

เกมซีรี่ส์ The Sims จากค่าย Electronic Arts (EA) ถือว่าเป็นอีกเกมที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน คือระยะเวลา 21 ปี และเป็นซีรี่ส์หนึ่งในดวงใจของผู้เขียนเลยก็ว่าได้ ล่าสุด EA ได้ปล่อย Expansion หรือภาคเสริมลำดับที่ 8 สำหรับ The Sims 4 นั่นก็คือ Discover University ที่เกี่ยวกับรั้วมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ ทว่ามันไม่ใช่ภาคเสริมที่เพิ่งเคยมีเป็นครั้งแรก เพราะเราเคยมีภาคเสริมเกี่ยวกับการศึกษาและมหาวิทยาลัยมาแล้วใน The Sims 2 (มหาลัยวัยฝัน) และ University Life ใน The Sims 3 วันนี้เราจะมาดูกันว่า Discover University นั้นมีการพัฒนาอย่างไรบ้างเมื่อเทียบกับภาคเสริมก่อนหน้านี้ และมันคุ้มค่าเงินหรือไม่?

การศึกษาที่ไม่จำกัดอายุแค่วัยหนุ่มสาว

สิ่งแรกเลยที่รู้สึกเซอร์ไพรส์ก็คือ ใน Discover University ซิมส์ของคุณสามารถสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่วัย Young Adult, Adult ไปจน Elder หรือผู้สูงอายุ! นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะคุณย่า คุณตา คุณยาย ก็สามารถตัดสินใจที่จะก้าวเท้าเข้ารั้วมหาวิทยาลัยได้ในวัยบันปลายของชีวิต อันที่จริงในวัยทีนเอจหรือวัยรุ่น ซิมส์สามารถวางแผนเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยได้แล้ว นั่นก็คือการขอทุนหรือหมั่นฝึกฝน Skills เพื่อขอทุนพิเศษต่าง ๆ ซึ่งทุนการศึกษาก็มีการปรับให้เข้ากับโลกยุคสมัยใหม่ด้วย อาทิ ทุนเกี่ยวกับกีฬาอีสปอร์ต E-Sports

ข้อดีอย่างมากๆ ของภาคเสริมนี้ก็คือ การศึกษาไม่จำกัดแค่ในรั้วมหาวิทยาลัย เพราะคุณสามารถอยู่บ้านแล้วเข้าเรียนเมื่อถึงเวลาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปอยู่หออย่างในซิมส์ภาค 2 หรือ 3 และการเรียนจะอาศัยการเก็บหน่วยกิตคือต้องครบ 12 หน่วยกิตเพื่อที่จะจบการศึกษา สมมติว่าจบเทอมนี้แล้ว จะกลับไปทำงาน หรือเรียนไปด้วยขณะทำงานก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเรียนแค่อย่างเดียว จุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ๆ

สาขาวิชาและการเรียนที่หลากหลาย

ใน Discover University มีมหาวิทยาลัยให้เลือก 2 มหาวิทยาลัยด้วยกันคือ University of Britechester โดดเด่นด้านศิลปะ, ประวัติศาสตร์, การแสดง และ Foxbury Institute ที่โดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์, คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยี ตั้งอยู่ในละแวกเพื่อนบ้านใหม่ที่ชื่อ Britechester โดยมีสาขาปริญญาให้เลือกทั้งหมด 13 สาขาด้วยกัน ประกอบไปด้วย Biology, Computer Science, Economics, Physics, Psychology, Villainy, Art history, Communications, Culinary arts, Drama, Fine art, History และ Language & Literature

ซึ่งในแต่ละสาขาจะทำให้ซิมส์ของคุณเข้าถึงอาชีพสายงานที่หลากหลายขึ้น อาทิ Biology สำหรับอาชีพแพทย์, Computer Science สำหรับอาชีพวิศวกรคอมพิวเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้มันยังทำให้คุณสามารถเริ่มงานโดยได้รับเงินสูงกว่าซิมส์ที่ไม่จบมหาวิทยาลัย ในการเรียนหากคุณจบปริญญาใบแรกแล้ว (12 หน่วยกิต) ปริญญาใบที่ 2 ขึ้นไปจะใช้หน่วยกิตน้อยลง คือเพียง 8 หน่วยกิต ในการเรียนแต่ละเทอม ซิมส์จะลงทะเบียนได้สูงสุด 4 หน่วยกิต ซึ่งแบ่งเป็นวิชาบังคับและวิชาเลือก สามารถลงวิชาเลือกเพื่อช่วยให้ได้เกรดที่ดีขึ้น เช่น เลือกเป็นบังคับ 2 วิชาเลือก 2 ใน 1 เทอมการศึกษาจะใช้เวลา 5 วัน(ไม่รวม ส-อ) ของซิมส์ในการจะจบการศึกษาแต่ละเทอม การเรียนจะไม่ได้ใช้เพียงแค่การสอบไล่ประจำภาค บางวิชาต้อง Present บางวิชาต้องเขียนรายงานส่ง

อะไรใหม่? อะไรเก่า? ข้อแตกต่างจากภาคเสริมมหาวิทยาลัยใน The Sims 2 และ 3

จุดแตกต่างใหญ่ ๆ คือ การที่ซิมส์ที่ไม่ใช่นักศึกษาสามารถเข้าไปเยี่ยมซิมส์ในรั้วมหาวิทยาลัยได้ อันที่จริงทำได้แม้กระทั่งอยู่อาศัยในละแวก Britechester โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักศึกษาด้วยซ้ำ ซึ่งทำไม่ได้ในซิมส์ภาคก่อน ข้อดีนี้ทำให้การเรียนจะไม่ตัดขาดหรือแยกซิมส์อื่น หรือ ซิมส์ของคุณจากชีวิตปกติ ทั้งงาน, ครอบครัว อีกต่อไป เพราะคุณสามารถทำหลายอย่างไปพร้อมๆ กันได้นั่นเอง สำหรับ Item ที่เพิ่มเข้ามาใน Discover University ก็มีหลายอย่างด้วยกัน แต่ที่ผู้เขียนชอบมากๆ ก็คือ “จักรยาน!!” ซึ่งซิมส์จะสามารถปั่นชิลๆ ไปเข้าชั้นเรียนหรือไปห้องสมุด ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆ (จะซื้อมาใช้สำหรับชีวิตประจำวันของซิมส์ที่ไม่ใช่นักศึกษาก็ทำได้) item อื่นๆ อาทิ ฝักบัวแบบใหม่, ตู้เย็น Mini-fridge, ลูกบอล, โต๊ะปิงปอง, กล่องเก็บของส่วนตัว เป็นต้น ส่วนปณิธานใหม่คือ Academic ที่เกี่ยวกับการแสวงหาความรู้โดยเฉพาะ Skills ใหม่ประกอบไปด้วย Research & Debate และ Robotics ส่วนอาชีพใหม่ประกอบไปด้วย Education, Engineer, E-Sports Compettitor, Law และ Soccer Team Player แน่นอนว่าสิ่งที่จะไม่พูดไม่ได้ก็คือการกลับมาของ Servo หรือ หุ่นยนต์นั่นเอง ปรากฏตัวครั้งแรกใน The Sims 1 กับภาคเสริมที่ชื่อ Livin’ Large (สร้างชีวิต ลิขิตฝัน)

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของคุณมีทั้งความแตกต่างและเหมือนกับมหาวิทยาลัยในซิมส์ 2 และ 3 สิ่งที่เหมือนคือ การเรียนที่ไม่ได้มีแต่เรื่องเรียน มีกิจกรรมเสริมอื่น ๆ ให้เข้าร่วม ตั้งแต่ ชมรมโต้วาที, ฟุตบอลมหาวิทยาลัย ไปจนชมรมศิลปะ การเข้าห้องสมุดเพื่อศึกษาค้นคว้า ทำรายงาน, วิจัย การได้เจอเพื่อนร่วมห้อง / หอ ที่หลากหลาย การอดนอนเพื่อทำการบ้าน, รายงาน เพื่อเตรียมส่งปลายภาค สิ่งเหล่านี้ยังให้บรรยากาศและความรู้สึกเดิมๆ แบบในภาคก่อน ทว่ามันก็มีข้อแตกต่างที่จะเรียกไปแล้ว อาจจะเป็นจุดด้อยของ Discover University เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะขอพูดในหัวข้อใหม่

จุดอ่อนที่น่าเสียดาย

แม้ว่า Discover University จะมีข้อดีมากมายตามทีได้กล่าวไป โดยเฉพาะในเรื่องของความทันสมัย สิ่งที่อัพเดทตามยุคสมัย ทั้งทุนการศึกษาและอาชีพเกี่ยวกับ E-Sports หรือ การเรียนที่ไม่ได้จำกัดแค่ช่วงอายุวัยเดียว การเรียนที่ทำจากที่บ้านก็ได้ ทว่าทั้งหมดทั้งมวลมันกลับเปล่งประกายได้ยากเพราะจุดอ่อนในด้าน Detail สำหรับผู้เขียนมหาลัยที่ทำได้ดีมากๆ คือ มหาวิทยาลัยวัยฝันในซิมส์ 2 แน่นอนว่ามันมีเอกหรือสาขาวิชาน้อยกว่า (ซิมส์ 2 จะเลือกเอกแทนกการเลือกสาขาตั้งแต่ตอนสมัคร ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนไปมาได้จนกว่าจะปีสุดท้าย) แต่แม้จะน้อยกว่าด้วยจำนวนแต่มันมากกว่าในแง่ของคุณภาพและ Detail หรือ รายละเอียดนั่นเอง

ใน Discover University สิ่งที่ขาดอย่างมากคือ สถานที่ที่ซิมส์สามารถเข้าไปใช้งาน interact ด้วยได้ กล่าวคือ แทบจะทั้งชีวิตการเรียนมหาวิทยาลัย คุณจะทำได้เพียงวาร์ปเข้าไปในตึกแล้วรอให้เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ แค่นั้นเอง มันน่าเศร้ามาก เพราะในภาคเสริม Get to Work ที่เราสามารถตามติดชีวิตซิมส์ไปทำงานได้ เราเห็นการปฏิบัติงานของอาชีพหมอ การรักษาคนไข้แบบละเอียดยิบ หรืออย่าง Get Famous ที่เราสามารถเห็นขั้นตอนของอาชีพในวงการบันเทิงได้อย่างละเอียดแบบแทบจะที่สุด (ทำผม, เข้าฉาก ฯลฯ) แต่ใน Discover University คุณกลับไม่เห็นการเข้าชั้นเรียนใดๆ ของซิมส์เลย ย้ำว่าเลย ไม่เห็นการรายงานหน้าชั้น ไม่เห็นแม้กระทั่งการส่ง ทุกอย่างแค่วาร์ป หรือ หายไปเฉยๆ ทำรายงานเสร็จก็กดส่งแล้ว วูบ หายไป แค่นั้นเอง ที่ร้ายแรงที่สุดคือการจบการศึกษาพิธีรับปริญญาบัตร หลังจากตรากตรำมาหลายเทอมคุณก็แค่ “วาร์ป!!” เข้าอาคารและวาร์ปกลับออกมาโดยไม่ได้เห็นอะไรเลย! มันน่าเศร้าที่สุดที่เกมเพลย์และกลไกที่พัฒนากว่าซิมส์ภาคก่อนถูกลดทอนด้วยการไร้ Detail ในภาคนี้ น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ

สรุป

Discover University เหมาะกับแฟนซีรี่ส์ที่คิดถึงการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย สิทธิประโยชน์ทั้งหลายที่จะได้รับสำหรับซิมส์สายแสวงหาความรู้ แต่คงต้องขอบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า สำหรับราคาเต็ม 1,300 บาทแล้ว อาจจะสูงเกินไปสักหน่อย แนะนำให้ราคาลงกว่านี้สัก 20 – 30% ขึ้นไปค่อยจัดจะดีกว่านะจ๊ะ ไม่สายเกินไปแน่นอนสำหรับการศึกษาของชาวซิมส์

จุดเด่น

+ สาขาวิชามีให้เลือกหลากหลายกว่าซิมส์ภาคก่อนๆ โดยมีทั้งสิ้นถึง 13 สาขาด้วยกัน

+ การเรียนที่ถูกประยุกต์ปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ อาทิ ทุนการศึกษาสำหรับนักกีฬา E-Sports

+ ลดข้อจำกัดของการเรียนให้เข้ากับการใช้ชีวิตของซิมส์มากที่สุด คือ อาศัยที่ไหนก็เรียนได้ อายุผู้เรียนที่หลากหลาย ทำให้ไม่ต้องโฟกัสเพียงแค่มหาวิทยาลัย แต่ทำงานและมีครอบครัวไปด้วยพร้อมกันได้

จุดสังเกต

– Detail หรือ รายละเอียดที่หายไปอย่างน่าเสียดาย เราจะไม่ได้เห็นการเข้าชั้นเรียน หรือ กิจกรรมใดๆ เลยในห้องเรียน แม้กระทั่งพิธีการจบการศึกษา

– ราคาที่แรงเกินไปเมื่อเทียบกับ Content ที่ได้รับ และเมื่อเทียบกับภาคเสริมอื่นที่ทำได้ดีกว่าอย่างมากเช่น Get to Work หรือ Get Famous จะดีกว่าหากรอราคาลงสัก 20 – 30%

*ขอขอบคุณค่าย Electronic Arts (EA) ที่เอื้อเฝื้อเกมสำหรับการรีวิวในครั้งนี้เป็นอย่างมากค่ะ*

[สั่งซื้อเกม The Sims 4: Discover University]

[สั่งซื้อเกม The Sims 4 ภาคหลัก]

* จำเป็นต้องมีในการเล่นภาคเสริม Discovery University*