[รีวิว] Tactics Ogre: Reborn – การจุติใหม่ของเกมเทพในตำนาน

Tactics Ogre: Reborn เป็นเกม Remake จากเกม Tactics Ogre ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกม RPG วางแผนการรบ (SRPG) ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในอดีต โดยเกมนี้ถือได้ว่าเป็นเกมที่พลิกโฉมประวัติศาสตร์ของเกม SRPG ในอดีตเลยก็ว่าได้ ด้วยระบบเกมที่มาแบบจัดเต็ม เนื้อหาที่มาแบบเข้มข้นเน้น ๆ ที่ทำเอาผู้เล่นวัยเก๋าติดกันงอมแงม

ในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าร่วมสงครามกับ Denam และกองทัพของเขาในเกม Tactics Ogre: Reborn เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ได้อ่านกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2565 หากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้า ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็เป็นได้

เนื้อหาเกมที่เข้มข้น พร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ส่งผลต่อเนื้อหาอย่างชัดเจน

องค์ประกอบแรกที่ต้องพูดถึงเลยในการเล่นเกม Tactics Ogre: Reborn ที่ผู้เขียนประทับใจมาก ๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ก็คือเนื้อหาภายในเกมที่เรียกได้ว่าเข้มข้นแบบสุด ๆ โดยผู้เขียนยอมรับเลยว่าเกมสงครามที่มีเนื้อหาล้ำลึก เข้มข้นแบบวางจอยไม่ลงนั้น หาได้ยากมากในตลาดเกมในปัจจุบัน ซึ่งหากผู้อ่านคนใดต้องการหาเกมเนื้อหาสงครามที่มีเนื้อหาครบรสทั้งในแง่ของมิตรภาพ , การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ , การหักหลัง และอื่น ๆ ที่เกมสงครามสเกลใหญ่ควรมี แถมบอกได้เลยว่าเนื้อเรื่องไม่มีการอืดอาดยืดยาดเลยแม้แต่น้อย ทุกฉากมีความหมาย ทุกการกระทำมีสิ่งที่ตามมาเสมอ ฉะนั้นผู้เขียนกล้ายืนยันเลยว่าเกมนี้มีเนื้อหาครบถ้วนตามที่ทุกคนต้องการ

แต่ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือ ตลอดเวลาการเล่นเกมนี้ นอกเหนือจากการเสพย์เนื้อหาที่เข้มข้นแล้ว ผู้เล่นจะได้มีโอกาสถักทอเรื่องราวการผจญภัยของตนเองและกองทัพของเราให้ไปในทิศทางใดก็ได้ตามต้องการ โดยภายในเกมมีเรื่องราวของเกมที่จะถูกดำเนินโดยผ่านมุมมองของ Denam ผู้ที่เป็นตัวละครหลักของเกม ชะตากรรมของผู้ที่เขาพบและประวัติศาสตร์ของ Valeria จะเปลี่ยนแปลงไปตามการตัดสินใจของเรา ฉะนั้นผู้เล่นจะได้เจอกับเซอร์ไพรส์จำนวนมากตั้งแต่ตัวละครที่เปลี่ยนจากมิตรเป็นศัตรู การได้ตัวละครเข้าทีม และเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกมากมาย ที่ไม่มีคำว่าถูกหรือคำว่าผิด ซึ่งจุดนี้เองถือว่าเป็นจุดเด่นมาก ๆ จุดหนึ่งของเกมนี้เลยทีเดียว

ตัวละครที่หลากหลายให้คุณได้เลือกร่วมทีม และปรับแต่งได้ตามต้องการ

ภายในเกม Tactics Ogre: Reborn เราจะได้เจอกับเผ่าพันธุ์ของตัวละครที่มีอยู่มากมาย โดยแต่ละเผ่าก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นเผ่ามนุษย์ที่มีความสมดุลในทุก ๆ ทาง , เผ่ามีปีกที่สามารถเดินทางได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลถึงความสูงของแผนที่ หรืออุปสรรคที่ขวางทาง , เผ่าผีดิบที่แม้ว่าจะอ่อนแอไปบ้าง แต่ก็สามารถฟื้นคืนชีพได้ตลอดเวลา แม้จะตายไปแล้วก็ตาม เป็นต้น

นอกจากเผ่าพันธุ์แล้ว ภายในเกมนี้ยังมีคลาสให้ผู้เล่นได้เลือกใช้งานอีกมากมาย โดยจุดที่น่าประทับใจมาก ๆ ก็คือ ผู้เล่นสามารถเลือกเปลี่ยนคลาสได้ตามความต้องการ ไม่ต้องยึดติดกับคลาสที่มีมาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องมีไอเทมเปลี่ยนคลาสเพียงเท่านั้น โดยแต่ละคลาสจะมีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจุดนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถผสมผสานทีมของตนเองได้ตามต้องการ

แต่ที่ผู้เขียนยกใจให้เลยจริง ๆ ก็คือการปรับแต่งตัวละครที่ผู้เล่นสามารถทำได้แบบ “อิสระแบบสุด ๆ” โดยผู้เล่นแทบจะไม่ถูกกำหนดด้วยขีดจำกัดใด ๆ ที่น่ารำคาญ เพราะนอกเหนือจากอุปกรณ์สวมใส่ที่ผู้เล่นเลือกใส่ให้กับตัวละครได้แล้ว ผู้เล่นยังสามารถปรับแต่งเวทมนตร์ให้ตัวละครแต่ละตัวใช้เวทย์ไม่เหมือนกันก็ได้ ฉะนั้นเราอาจจะมีพ่อมดในทีม 3 ตัว โดยแต่ละตัวจะใช้เวทย์คนละแบบกันเลย นอกจากนี้ผู้เล่นยังสามารถปรับแต่งสกิลของตัวละคร รวมไปถึงท่าไม้ตายได้อีกด้วย และด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เกมนี้มีความยืดหยุ่นในการเล่นแบบสุด ๆ รองรับการเล่นทุก ๆ สไตล์ของผู้เล่นแบบ 100%

เมื่อการสู้รบ ไม่ได้มีแค่เป้าหมายเดียว

Tactics Ogre: Reborn เป็นอีกหนึ่งเกมที่ภายในฉากต่อสู้เราจะมีเป้าหมายหลักในการเอาชนะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการกำจัดศัตรูเป้าหมาย อย่างไรก็ตามเกมนี้จะมีเป้าหมายรองให้เราได้ทำภารกิจให้สำเร็จด้วย และเมื่อเราทำสำเร็จก็จะได้รับไอเทมต่าง ๆ มากมาย โดยเป้าหมายรองนี้ก็ไม่ได้เป็นภารกิจที่ยากจนน่าปวดหัวเกินไปนัก ส่วนใหญ่จะสามารถทำได้ง่าย ๆ  ตัวอย่างเช่นการเอาชนะการต่อสู้โดยที่มีคลาสที่กำหนดอยู่ในทีม , ร่ายเวทย์ดีบัฟใส่ศัตรู เป็นต้น

เกมเพลย์ SRPG ที่เข้มข้น มาครบทุกองค์ประกอบ แถมมาพร้อมเอกลักษณ์ของเกมที่ไม่ขาดหาย

องค์ประกอบต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเพราะเปรียบเสมือนหัวใจหลักของเกม Tactics Ogre: Reborn ก็คือเกม RPG วางแผนการรบ ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบที่เกม SRPG ควรจะมี และองค์ประกอบเหล่านี้ทำให้เกมนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเกมวางแผนการรบที่เข้มข้นและดุเดือดเอามาก ๆ ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าผู้เล่นเกมวางแผนการรบสายฮาร์ดคอร์จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

สำหรับองค์ประกอบที่ผู้เล่นจะได้เจอตลอดการเล่นเกมนี้ก็มีมากมายที่แฟนเกม SRPG สายฮาร์ดคอร์จะต้องประทับใจแบบสุด ๆ เช่น ตำแหน่งการยืนที่มีผลต่อความแม่นยำ ตัวอย่างเช่นหากเรายืนโจมตีจากด้านหน้าของศัตรู จะทำให้มีความแม่นยำน้อยกว่าการโจมตีศัตรูจากด้านข้างหรือด้านหลัง , รูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย เช่น การโจมตีระยะประชิด การโจมตีระยะไกล การโจมตีเป็นโซน หรือแม้กระทั่งการโจมตีแบบแทงทะลุ 2 ช่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้เล่นจะต้องวางแผนการโจมตีให้ดีเพราะผู้เล่นสามารถโจมตีพวกเดียวกันเองได้อีกต่างหาก!

นอกจากนี้ตลอดเวลาในการต่อสู้ ผู้เล่นจะได้พบเจอกับไอเทม และบัฟต่าง ๆ มากมายปรากฏขึ้นในแผนที่ ซึ่งไอเทมเหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้การต่อสู้นั้นพลิกจากแพ้เป็นชนะ หรือพลิกจากชนะเป็นแพ้ได้เลยทีเดียว โดยไอเทมที่ปรากฏขึ้นก็จะมีหลากหลาย เช่น ฟื้นฟู MP , เพิ่มพลังโจมตี , บังคับใช้สกิล Auto ทันที , เพิ่มอันตราคริติคอล , เพิ่มความเร็ว และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้การเล่นเกมนี้ผู้เล่นจะต้องสังเกตพื้นที่ให้ดี

และเพื่อให้การเล่นเกม SRPG เกมนี้เข้าถึงการวางแผนที่ล้ำลึก ตัวเกมได้มีการปรับมุมมองแผนที่ให้เราได้เลือกใช้ทั้งหมด 2 แบบหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่มุมมองแบบแนวเฉียงที่จะทำให้เรามองเห็นแผนที่ได้แบบ 2.5D ทำให้เราจะได้เห็นความสูงต่ำของแผนที่ ในขณะเดียวกัน ตัวเกมก็จะมีการปรับมุมกล้องแบบมุมมองจากด้านบน (Bird Eyes View) เพื่อให้เราได้เห็นตำแหน่งของตัวละครแต่ละตัวแบบชัด ๆ อีกด้วย แต่จุดที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับผู้เขียนตั้งแต่เกมต้นฉบับ มาจนถึงเกม Remake รอบนี้ก็คือ เราไม่สามารถหมุนแผนที่ในขณะที่อยู่ในมุมมองแบบแนวเฉียงได้ ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างขัดใจอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เพราะทำให้ผู้เขียนเดินผิดช่องอยู่บ่อยครั้ง เพราะเราไม่สามารถหมุนมุมกล้องได้นั่นเอง

นอกจากนี้เกมดังกล่าวยังมีองค์ประกอบช่วยเหลือในการเล่นอีกมากมาย เช่นระบบ Chariot Tarot ที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขการกระทำของทีมตนเองได้ , เร่งความเร็วการกระทำได้ รวมไปถึงผู้เล่นสามารถกำหนดให้ AI ควบคุมตัวละครของเรา ซึ่งที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ก็คือผู้เล่นสามารถเลือกได้เลยว่าอยากให้ตัวละครของเรามีลักษณะในการต่อสู้แบบไหน เช่น หน่วยฟาดฟัน , หน่วยป้องกัน , หน่วยโจมตีระยะไกล หรือหน่วยสนับสนุนเป็นต้น ซึ่งจุดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ผู้เขียนประทับใจแบบสุด ๆ  เพราะหลาย ๆ ครั้งผู้เขียนได้เจอเกมที่มีระบบ Auto แต่ไม่ได้มีประโยชน์เท่าไหร่ เพราะทุกคนมุ่งไปที่การโจมตี แต่เกมนี้มีให้เราเลือกรูปแบบ แถม AI ก็ฉลาดพอที่จะทำหน้าที่ได้ดีมาก ๆ ด้วยเช่นกัน

สรุปรีวิว

Tactics Ogre: Reborn เป็นอีกหนึ่งเกม Remake ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ โดยจุดเด่นหลัก ๆ ก็คือ องค์ประกอบของเกมที่เป็นหัวใจหลักของเกมถูกนำมาใช้งานอย่างครบถ้วน ในขณะเดียวกันก็มีการอัปเกรดองค์ประกอบปลีกย่อยให้เกมนี้ดูดี และทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้เขียนบอกได้เลยว่าเกมเมอร์วัยเก๋าจะต้องชอบ เกมเมอร์ยุคใหม่จะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็ได้ครับ

จุดเด่น

• กราฟิกทำออกมาได้ดี ดูไม่ตกยุคเกินไป
• เกมเพลย์ SRPG ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบสำคัญมากมาย
• การปรับแต่งตัวละครที่ทำได้ดีแบบสุด ๆ

ข้อสังเกต

• ภาษาอังกฤษค่อนข้างยาก ถ้าไม่เชี่ยวชาญ อาจจะทำให้ไม่อินกับเนื้อเรื่องได้
• เกมเพลย์แอบยากสำหรับ ผู้ที่ไม่เคยชินกับเกม SRPG แบบฮาร์ดคอร์อาจจะเบื่อได้

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia ที่เอื้อเฟื้อเกมดีๆ เกมมันส์ๆ มาให้พวกเราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยนะครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

ภาพ Screenshots เพิ่มเติม