[รีวิว] Doraemon Story of Seasons: นิทานบ้านไร่สมัยใหม่ที่อบอวลด้วยกลิ่นอายการ์ตูนยุค 90
รองรับภาษาไทยทั้งบน PlayStation 4 และ PC (Steam)
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นแฟนเกมปลูกผักชนิดดั้งเดิมตั้งแต่ภาคบนเครื่องซูปเปอร์แฟมิคอมที่วางจำหน่ายในปี 1996 หรือ 24 ปีมาแล้ว และเป็นแฟนการ์ตูนแมวหุ่นยนตร์สีฟ้าผู้มาจากโลกศตวรรษที่ 22 ซึ่งเป็นการ์ตูนที่อยู่ในห้วงความทรงจำของเด็กยุค 90 กันแทบจะทุกคน มันเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทั้งสองสิ่งที่รักได้วนมาบรรจบผสมรวมเป็นสื่อบันเทิงผ่านวิดีโอเกม แถมยังนำเสนอเป็น “ภาษาไทย!” จากค่ายเกม BANDAI NAMCO Entertainment Asia แบบเป็นทางการด้วยอีก ปัจจุบัน DORAEMON STORY OF SEASONS วางจำหน่ายพร้อมให้เพื่อน ๆ หามาเล่นกันได้แล้วบน PlayStation 4 และ PC (Steam) ส่วนบน Nintendo Switch จะไม่มีภาษาไทยนะคะ
(หมายเหตุ* STORY OF SEASONS คือเกม Harvest Moon ก่อนจะเปลี่ยนชื่อด้วยปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ในปี 2014 ส่วนเกม Harvest Moon ในตอนนี้ ไม่ใช่เกมปลูกผักฉบับดั้งเดิม)
คงความเป็นเอกลักษณ์ได้ทั้ง Doraemon และ STORY OF SEASONS
การเปิดตัวมีความเป็น Doraemon ราวกับกำลังนั่งดูเวอร์ชั่น The Movie เรื่องใหม่อยู่สักเรื่อง เนื้อเรื่องในเกมเริ่มต้นจากการที่พวก “โนบิตะ” และ “โดราเอมอน” รวมถึงเพื่อนๆ กลุ่มแก๊งของพวกเขาถูกลมพัดพาจากใต้ต้นไม้ใหญ่ลึกลับ ไปยังเมืองที่แสนอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “เมืองซีเซ็น” ที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเริมต้นของ “สายสัมพันธ์” ที่แสนอบอุ่นกับผู้คนมากมายหลากหลายเรื่องราว รอให้ผู้เล่นได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง แน่นอนว่า “ของวิเศษของโดราเอมอน” ที่แฟนๆ คิดถึงก็จะมาปรากฏในเกมเช่นกัน ผู้เขียนจะไม่ขอสปอยล์ไปมากกว่านี้ แต่หากคุณเป็นแฟนการ์ตูนแมวฟ้ามาอย่างยาวนาน คุณคงพอจะเดามุกและโทนออกได้ไม่ยาก (มันถอดมาจากการ์ตูนต้นฉบับแทบจะ 100%) นิสัยของตัวละครที่เราคุ้นชิ้น เรื่องฮาๆ ไปจนเรื่องซึ้งๆ อันที่จริง ความกลมกล่อมและความสมดุลทำออกมาได้ดีชนิดที่ว่า ต่อให้เด็ก ๆ น้อง ๆ หนูคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดูการ์ตูน Doraemon มาก่อนในชีวิต ก็จะสามารถสนุกและเพลินเพลิน อินไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยากแต่อย่างใด เพราะทุกอย่างมันเรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ตัวละครมีเสน่ห์ Likeable ทำให้คุณประทับใจได้ไม่ยากเลย หากคุณเป็นคุณพ่อ คุณแม่ แล้วในวันนี้ ซื้อเอาไปเล่นกับลูกก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเช่นกันค่ะ
เด็กชายชาวไร่ผู้อับโชค!
เราจะได้บังคับเป็นโนบิตะ เพื่อน ๆ แต่ละคนก็จับพลัดจับผลูไปทำงานคนละแบบ(ตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ ถ้าใครอ่านหรือดูการ์ตูนมา งานแต่ละคนจะตรงบุคลิกตัวละครที่เราเคยอ่าน/ดูมาอย่างดี) ส่วนโนบิตะก็ยังคงเป็นผู้อับโชคที่โดนงานเลือกเสียแทน ทว่าคุณจะได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อม ๆ กับโนบิตะ ตัวเกมค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่เคยเล่นซีรี่ส์เกมปลูกผัก STORY OF SEASONS จะมีการสอน Totorial แทบจะทุกขั้นตอน ตั้งแต่พรวนดิน หว่านเมล็ด รดน้ำ เลี้ยงสัตว์ คือ ทุกขั้นตอนจริง ๆ ต่อให้ไม่เคยเล่นก็จะไม่งงแน่นอน แต่หากใครเคยเล่นจนชินแล้ว ก็สามารถกดข้ามการเรียนได้เช่นกัน
เกมเพลย์หลักของ STORY OF SEASONS ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชผักเพื่อทำกำไร นำกำไรที่ได้มาอัปเกรดบ้าน แล้วลงทุนต่อด้านอื่น ๆ อาทิ เลี้ยงสัตว์ (มีแกะ,วัว และ ไก่) รวมไปจนต่อเติมทำครัวเพื่อทำอาหาร งานเทศกาลต่าง ๆ อย่างการประกวดพืชผล, สัตว์เลี้ยง ก็ยังคงมีอยู่เช่นเคย ทว่า มันปรับเปลี่ยนให้เข้ากับธีม Doraemon อย่างเช่น เทศกาล ยิงปืน ซึ่งเป็นสิ่งที่โนบิตะเชี่ยวชาญมาก เป็นต้น เทศกาลมีการปรับแต่งให้เข้ากันหลายเทศกาล และมันทำออกมาได้สนุกมาก ๆ ไหนเลยจะนิสัยชอบงีบหลับที่นำมาปรับใช้กับการเพิ่มค่า Stamina ได้ตลอดเวลายามต้องการ โดยไม่ต้องไปหาของป่าหรือซื้อของแพงๆ กินก็มีประโยชน์ไม่น้อย และยังไม่นับพวกของวิเศษที่นำมาใช้เป็น Item ในเกมได้อย่างลงตัว
เป็นเกมที่มีแต่ให้!
จุดอีกอย่างที่ประทับใจมากคือ ‘ความเร็ว’ ของการทำแต่ละอย่าง ตั้งแต่ค่าหัวใจที่ขึ้นไวมาก ไวกว่าภาคก่อน ๆ ที่เคยเล่นมา ชนิดที่ว่ากว่าหัวใจจะขึ้นสักดวงมันยากเย็นเหลือเกิน บางทีจบปีแรกนี่ความสัมพันธ์ของเรากับคนในหมู่บ้านยังไปไม่ถึงไหนเลย แต่สำหรับ Doraemon Story of Seasons นั้น เกมเรียกร้องจากคุณน้อย แต่กลับให้คุณเยอะมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ไม่จำเป็นต้องให้ของตัวละครทุกวัน ขอแค่หมั่นพูดคุยหัวใจก็ขึ้นเองแล้ว หรือเวลาให้ของเงื่อนไขก็ไม่ได้โหดแบบเกมภาคเก่า เพราะปกติให้อะไรไปคนในเมืองจะมีมารยาทบอกว่าชอบ ฮา (ภาคก่อนๆ นี่ต้องเช็คดี ๆ ของบางอย่างมีค่ามากแต่ตัวละครบางตัวกลับเกลียดสุดๆ ทำเราช้ำใจ) การอัปเกรดอุปกรณ์ก็วาร์ปได้ คืออัพแล้วได้เลย ไม่ต้องรอ 3 วัน เงื่อนไขอื่น ๆ อาทิ การต่อเติมบ้านเองก็ไม่ได้ยากชนิดว่าต้องรอเป็นปี จำนวนไม้ หิน ก็ไม่ได้โหดมาก เพราะแค่เดือนแรกคุณก็สามารถอัพได้เยอะมาก สัตว์แต่ละตัวก็มีราคาไม่แพง แหล่งรายได้ก็มีมากมาย จากการตกปลา จับแมลง เก็บของป่า และปลูกผักตามจุดประสงค์หลักดั้งเดิม
งานอาร์ตสุดละมุนเหมือนโลกนิยายมาพร้อมกับเสียงดนตรีประกอบสุดฮีลหัวใจ
ขณะเล่นผู้เขียนต้องยอมรับว่า รู้สึกมีความสุขกับเรื่องของ Visual หรือกราฟิกของเกมมากที่สุด เพราะมันละมุน อารมณ์คล้ายๆ เราย้อนไปตอนเด็กแล้วเปิดสมุดนิทานภาพ กราฟิกมันจะมีความเป็นผสมผสานระหว่างตัวละครแบบ 3D อนิเมชั่นน่ารัก (กระเป๋าเป้ของโนบิตะจะกระดุ๊กกระดิ๊กตลอดเวลาที่เราวิ่ง การหยิบจับ รดน้ำมันดูน่ารักไปหมด) ขณะที่ฉาก Background ของเมืองซีเซ็นจะเป็นภาพวาดแบบ 2D ซึ่งทั้งสองอย่างกลับเข้ากันได้อย่างลงตัว แสงสีสลัวๆ ตอนกลางคืนก็ทำออกมาได้ดูอบอุ่นมากความละมุนมันพุ่งออกมาจากจอได้เลย เสียงดนตรีประกอบในแต่ละเทศกาลและเสียงตัวละคร (จะเป็นเสียงต้นที่แสดงตอนตกใจ ดีใจ เสียใจ หรือตอนเรียกชื่อตัวละคร จะไม่ได้พูดทั้งประโยค) ฟังแล้วมันฮีล มันผ่อนคลาย มันคือ Story of Seasons ที่มีกลิ่นอายความเป็น Original ของ Doraemon แบบลงตัวจริง ๆ
การต้องแลกกับบางสิ่งอย่างบาง
แต่ถึงจะชมมาขนาดนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเกมจะไม่มีขอติเสียทีเดียวหรอกนะคะ จุดสังเกตที่หลายคนน่าจะผิดหวังแน่ ๆ นั่นก็คือ เกมนี้ไม่มีระบบแต่งงานค่ะ ซึ่งเกมปลูกผักฉบับ Original แทบทุกภาคจะต้องมีการแต่งงานเสมอ ทว่าด้วยความที่ธีมของเกมปลูกผักในภาคนี้ตัวละครยังเป็นเด็กประถม เรื่องการแต่งงานจึงต้องติดทิ้งไปได้เลย แต่มันก็แทนที่มาด้วยเนื้อเรื่องให้เราติดตาม (เป็นแบบ Chapter) แทน ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไปชนิดว่าเล่นไม่ได้ เข้าใจความเป็นเหตุเป็นผลของเนื้อเรื่องและความเหมาะสม แต่แฟนเกมฉบับ Hardcore ที่คาดหวังตรงนี้ก็อาจจะผิดหวัง
สรุป
หากเพื่อน ๆ ทีเบื่อกับความตึงเครียดในโลกจริง แล้วอยากหาอะไรที่มันผ่อนคลายจรรโลงใจและบันเทิงใจ เกมที่ไม่เรียกร้องจากคุณมากจนเกินไป ไม่ได้ลงโทษคุณอย่างร้ายแรง (เกมหลายเกมความสนุกคือความท้าทายทว่าสำหรับผู้เล่นบางคนมันก็เหมือนการลงโทษได้เหมือนกัน) ถ้าคุณมองหาอะไรที่มันเบา ๆ สบาย ๆ มีความตลกสดใส และอย่างยิ่งเลยถ้าคุณเป็นแฟนการ์ตูนเจ้าแมวสีฟ้าอยู่แล้วล่ะก็ แนะนำให้จัดมาเล่นได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน
จุดเด่น
+ การผสมผสานที่ลงตัวของธีม Doraemon และเกมเพลย์ที่มีความเป็นเกมปลูกผักแบบดั้งเดิม
+ มีอะไรให้ทำมากมายร้อยแปดพันเก้า สะสมแมลง, ตกปลา, ทำอาหาร แกไขปัญหาและปริศนาของเนื้อเรื่อง
+ งานอาร์ตระดับพรีเมียมด้วยสมุดภาพนิทานวาดมือ
+ ง่ายกว่าเกมปลูกผักภาคก่อนๆ เป็นอย่างยิ่ง (ระยะเวลาหัวใจที่ขึ้น, การหาเงิน ฯลฯ)
+ งานแปลไทยที่ทำออกมาได้ละมุนไม่แพ้งานภาพ อาทิ ร้านอาหารง่ำง่ำ ป่ากลมกลิ้ง แม่น้ำจ๋อมแจ๋ม ทะเลสาบป๋อมแป๋ม
จุดสังเกต
– ไม่มีระบบการแต่งงานที่เป็นจุดเด่นของเกมตระกูลนี้
– สำหรับแฟนเกมสายอาร์ดคอร์ที่ต้องการความท้าทายและรายละเอียดสูง ๆ ตัวอย่างเช่นภาค Harvest Moon: Animal Parade ของเครื่อง Wii หนึ่งในภาคโปรดของผู้เขียนเลย หรืออย่างภาค Harvest Moon: A Wonderful Life บนเครื่อง GC ผู้เขียนต้องขออภัยทีคุณอาจจะผิดหวังเป็นแน่ (ถ้าคุณคาดหวังรายละเอียดการทำไร เลี้ยงสัตว์ หรือการใช้ชีวิตระดับแต่งงาน มีลูก ลูกโต อะไรแบบนั้น เกมนี้คงให้ไม่ได้) เพราะภาคนี้ไม่ได้ลงดีเทลเยอะในลักษณะนั้น แต่จะเหมาะกับคนที่ชอบภาคที่สมดุลอย่าง Back to Nature บน PSOne มากกว่า (แต่ตัดระบบแต่งงานออกไป)
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ BANDAI NAMCO Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ด้วยค่ะ หากใครต้องการซื้อเกมนี้ไปเล่นสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลยค่ะ (คลิกที่ภาพสำหรับ PlayStation 4 โซน 3 ภาษาไทย)