[รีวิว] Concrete Genie: เปลี่ยนจากดาบมาจับพู่กัน ผจญภัยโลกที่โหดร้ายด้วยศิลปะและความคิดสร้างสรรค์

เกม Exclusive บน PlayStation 4 ที่รองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้ง Support การเล่นบน PlayStation VR

Concrete Genie ได้มีการประกาศเปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2017 ณ งาน Paris Games Week ซึ่งในตอนนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในเกมที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ด้วย Concept และ Art Style ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์จากเกมทั่ว ๆ ไป เกมถูกพัฒนาโดยทีม PixelOpus ซึ่งเป็นบริษัทในเครื่อง Sony (SIE Worldwide Studios) ประเด็นที่ตัวเกมนำเสนออย่างน่าสนใจคือเรื่องของการ “Bullying หรือ การกลั่นแกล้ง” และเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดีเสียด้วย ผู้เขียนเองได้ทำการเล่นจนจบไปด้วยเวลาราว ๆ 7 ชั่วโมง มีความประทับใจในตัวเกมค่อนข้างสูงทีเดียว เอาล่ะค่ะ ถ้าใครที่กำลังสนใจจะหาซื้อมาเล่น แต่ยังไม่แน่ใจ ลังเลว่าเกมนี้มันคุ้มค่าหรือไม่? “สนุก” หรือ “เศร้า” เกินไปหรือเปล่า? เรามาเริ่มกันทีละประเด็นเลยดังนี้ค่ะ

ไม่ใช่แค่เมืองที่กำลังจะล่มสลาย แต่จิตใจคนก็เต็มไปด้วยมลภาวะไม่แพ้กัน

แอชเด็กหนุ่มผู้หลงไหลในศิลปะ

เนื้อเรื่อง

Concrete Genie เป็นเกมแนวเล่าเรื่อง ว่าด้วยการผจญภัยของหนุ่มน้อยนาม ‘แอช’ เขาอาศัยในเมืองท่าชายทะเลที่ชื่อว่า ‘เด็นสก้า’ ทว่าสภาพเมืองนั้นถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิดและความสกปรก สภาพแวดล้อมและทัศนียภาพของเมืองนั้นอยู่ในขั้นวิกฤติเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเกมจะนำเสนอผ่าน Story ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองเด็นสก้ากันแน่ ? แอชเป็นเด็กหนุ่มผู้หลงใหลในการวาดภาพ เขาจะพกสมุดสเก็ตภาพติดตัวไปด้วย ทว่าในเมืองนี้นอกจากมลพิษทางสภาพแวดล้อมจะเลวร้ายไม่พอแล้ว ความเป็นมลพิษ (Toxic) ของผู้คนเองก็ดูจะแย่ไม่แพ้กัน แอชโดน “กลุ่มเด็ก” ซึ่งเป็นเพื่อนในวัยเด็ก 5 คน รังแก ทั้งทาง วาจา จิตใจ และ ร่างกาย หนทางในการหลีกหนีที่ดีที่สุดของเขาก็คือ “ปลายพู่กัน” เมื่อเขาบรรจงวาด วาด และ วาด บรรเลงสีสันที่งดงามใส่ในโลกจำลองมันสว่างจ้าจนในที่สุดความสว่างนั้นปล่อยพลังงานบางอย่างออกมาในโลกแห่งความเป็นจริง

ตวัดปั่นแกว่งตามใจต้องการ ศิลปะไม่มีถูกมีผิด

สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงของคุณเองขึ้นมา รับรองไม่เหมือนใครแน่นอน

เกมเพลย์

ยอดเยี่ยมในแทบจะทุกจุด! คุณ Dominic Robilliard ผู้ซึ่งเป็น Creative Director ของค่าย PixelOpus กล่าวว่าตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกม Jet Set Radio ของค่าย SEGA ที่วางจำหน่ายบน Dreamcast ไปเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งตัวเกมนั้นจะเกี่ยวกับการวาดรูปด้วยศิลปะ Graffiti บนกำแพงและการเล่น Rollerblade ทว่า Concrete Genie ก็ได้ใส่เอกลักษณ์ของเกมเพลย์ที่เป็นแบบฉบับของตัวเองเข้าไป นั่นคือ “พลังวิเศษ” ของแอช ซึ่งอาวุธของเขาภายในเกมนก็คือ “พู่กัน” เรืองแสง ที่ไม่ต่างอะไรจากดาบ Lightsaber กระบี่แสง หรือ ดาบ Master Sword ในเกม The Legend of Zelda เลย จุดนี้ผู้เขียนรู้สึกว่ามันเจ๋งมาก ๆ ที่เราสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการเอาชนะ และปราบศัตรูได้ด้วยความไม่รุนแรง เพราะสิ่งที่แอชทำก็คือ “การวาด” เพื่อมอบสีสันและนำแสงสว่างกลับคืนมาให้เมืองเด็นสก้านั่นเอง คุณจะต้องทำการสะสมภาพสเก็ตซึ่งจะปลดล็อคคำสั่งการวาดแบบใหม่ ๆ ได้มากขึ้น อีกจุดเด่นหนึ่งก็คือ แอชจะมีผู้ช่วยที่เรียกว่า “จีนี่” สิ่งมีชีวิตพิเศษที่เกิดจากการวาดของแอช จีนี่มี 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทมีความชอบ มีพลังแตกต่างกันไป อาทิ จีนี่ไฟ จะสามารถแก้ไขปริศนาที่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้สิ่งของได้ เป็นต้น

เมื่อเจอข้อความแย่ๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ควรทำยังไง?

หยิบพู่กันขึ้นมาแล้วบรรเลงสีสันตามใจคุณยังไงล่ะ!

ตัวเกมนั้นผสมผสานทั้งเรื่องของศิลปะ การวาดโดยพู่กัน และ การแก้ไขปริศนาด้วยการร่วมมือกับจีนี่ รวมไปจนถึงการผจญภัยกึ่ง ๆ โลกเปิด (ภายในเมืองเด็นสก้า) แอชสามารถที่จะกระโดด ปีนป่าย วิ่งไปทั่วได้อย่างอิสระภายในเมือง โดยคุณจะต้องทำการแก้ไขตัวเมืองทีละโซน ให้แสงสว่างกลับคืนมา เพื่อปลดล็อคไปยังพื้นที่ถัดไป จุดที่น่าสนใจคือเกมไม่ได้ทำให้การวาดรู้สึกน่าเบื่อแต่อย่างใด กลับกันมันดู ‘ว้าว’ มาก ๆ ซึ่งก็เป็นผลพวงมาจากราฟิกที่สวยงามและเพลงประกอบที่เข้ากัน และเกมก็ยังไม่ได้ปิดกันว่าคุณจะต้องวาดอะไร (มีแค่บางเควสที่จีนี่จะต้องการการวาดแบบเฉพาะเจาะจงตามความชอบของจี่นี่แต่ละตัว) อิสระจึงค่อนข้างสูง แปลว่าผู้เล่นแต่ละคนจะสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งตัวจีนี่เองเราเป็นผู้ออกแบบ ก็จะไม่เหมือนกันกับของเพื่อนเรา แถมเมื่อจบเกมแล้วยังมีโหมด ‘วาดเขียนอิสระ’ ที่แอชสามารถกลับไปบรรเลงสีสันได้ตามใจชอบแบบไม่ต้องมีเนื้อเรื่อง คล้ายเป็น Sandbox โหมดโบนัสเพิ่มเข้ามาหลังจบเกม

*หมายเหตุ* ผู้เขียนอยากให้ผู้เล่นได้อรรถรสมากที่สุด จึงไม่อยากสปลอย์เนื้อหาบางส่วน แต่ขอบอกเลยว่าเกมนี้คุณไม่ได้ทำแค่ “การวาด” เกมเพลย์นั้นมีระบบ Combat! ด้วย (จะด้วยอะไรและวิธีใดนั้นแนะนำให้เล่นด้วยตัวเอง) บอกเลยว่าในครึ่งหลังเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์และมันส์มากๆ!

โลดแล่นไปได้ทั่วเมืองตามใจต้องการ

จีนี่แต่ละตัวมีความสามารถไม่เหมือนกันนะจ๊ะ

ตัวเกมใช้ Motion การเคลื่อนไหวของ DualShock 4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมาก

การนำเสนอ (กราฟิก & ดนตรี)

Concrete Genie พัฒนาโดย Unreal Engine 4 แม้จะไม่ใช่เกมสเกลใหญ่ที่มีกราฟิกอลังการแบบของค่าย Naughty Dog คือต้องเข้าใจว่าทีมพัฒนาค่อนข้างเล็ก จัดว่าเป็นเกมอินดี้เสียมากกว่า แต่ในด้านของ Art Style แล้ว ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ฉากในเเมืองเด็นสก้าค่อนข้างจะมืด ๆ มีโทนสีมม่วง ๆ ในขณะที่การเล่นของตัวเราจะแต่งแต้มเติมสีสันให้เมืองดูมีมิติสวยงามขึ้น เมืองในเกมก็ไม่ใช่แค่มิติเดียว เพราะจะมีหลาย Area เช่น ประภาคาร, ท่อระบายน้ำ ฯลฯ เป็นต้น ส่วน Art จะออกสไตล์ Neon คือมันจะสดใสสว่างแบบทะลุจอมาก เวลาคุณตวัดวาดอะไรลงไป (ด้วยความที่มันรองรับการเล่นบน VR ด้วย) ประกอบกับเพลงที่ทำออกมาได้ดียิ่งทำให้มันสนุก ยิ่งวาดยิ่งรู้สึกอยากวาดต่อไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่วาดก็จะมี Sound Effect ออกมาเสมอ บางทีก็มาเป็นโน้ตดนตรี อีกทั้งตัวเพลงมันส่อต่อกับอารมณ์และเรื่องราวได้ดี เวลาที่แอชเจอเรื่องเศร้า โดนกลั่นแกล้ง หรือเวลาที่เขามีเพื่อนอย่างจีนี่ หรือเวลาทำสิ่งที่มีความสุข มันถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านเสียงดนตรี ต้องยกเครดิตให้ผู้ประพันธ์เพลงคุณ Sam Marshall ซึ่งเคยมีผลงานมาก่อนหน้าอย่างเกม Entwined ภายใต้ Studio เดียวกัน PixelOpus นอกจากนี้เขายังมีส่วนร่วมในผลงานเกี่ยวข้องกับเกมดัง อื่น ๆ อาทิ Call of Duty WWII, Call of Duty Infinite Warfare, Mass Effect Andromeda, Skull Girls Mobile, The Last Guardian หรือ Uncharted 3 มาด้วยเช่นกัน

งานศิลป์ว่าเด็ด งานดนตรีก็ไม่น้อยหน้า ขณะวาดจะมี Effect ตลอดคล้ายตัวโน๊ตเวลาเราแต้มสี

บทเพลงถ่ายทอดออกมาได้ดี ไม่ว่าจะ Moment เล็กน้อยแค่ไหน ว่าไงเจ้าแมวน้อย เหงาเหมือนกันใช่ไหม?

แต่สิ่งที่ไม่พูดเห็นจะไม่ได้คือเรื่องของ “การแปลภาษาไทย” ผู้เขียนต้องขอบอกว่าเซอร์ไพรส์มาก เพราะไม่มีคำติใด ๆ สำหรับเกม Concrete Genie นอจากคำชม ไม่เพียงว่าตัวเกมจะแปลได้สละสลวย เข้าใจบริบทของตัวเกมอย่างดีมากเท่านั้น แต่มันยังมี Font ที่อ่านง่าย ใหญ่สะใจ สบายตาอีกด้วย! (ดูภาพล่างประกอบ) ช่วงนี้เป็นช่วงที่วงการเกมไทยเนื้อหอมจริงๆ ค่ะ เกม AAA และ อินดี้จำนวนมาก ได้รับการแปลภาษาไทยเพื่อเจาะตลาดผู้เล่นไทยมากขึ้น Concrete Genie คือเกมที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการแปลระดับคุณภาพที่หลายค่ายเกมอื่น ๆ ควรหันมามอง อันนี้ขอปรบมือให้ดัง ๆ เลย

แปลไทยออกมาได้ดีมาก ๆ ปรบมือเลย

แถมไม่ใช่แค่แปลดีนะ สระการจัดวาง Font อ่านง่ายสบายตาสุด ๆ ไม่มีสระจม/ลอย แต่อย่างใด!

สรุป

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้เขียนได้รับจากการเล่นเกม Concrete Genie ไม่ใช่แค่ความสนุก ไม่ใช่แค่ความงามด้านศิลปะ หรือเพลงที่ไพเราะเท่านั้น แต่กลับคือสารที่ทีมผู้พัฒนาต้องการสื่อกับผู้เล่นในเรื่องของ “ความหวัง” แม้ว่าแอชจะเป็นเด็กที่ต้องพบเจอกับอุปสรรค ทั้งการโดนกลั่นแกล้ง และสภาพเมืองที่กำลังล่มสลาย แต่เราจะได้เห็นการเติบโตและการผจญภัยของเขาในด้านที่เป็น Positive อย่างมาก สิ่งที่ทำให้เกมนี้พิเศษไม่ใช่แค่ความสนุกและงานศิลป์ แต่คือเนื้อเรื่องที่ถ่ายทอดตัวปัญหาและการแก้ปัญหาออกมาได้อย่างสร้างสรรค์และจรรโลงใจ จะไม่แปลกใจเลยหากปลายปีนี้เราจะได้เห็น Concrete Genie เข้าชิงรางวัล Game Awards ในสาขา Games for Impact หรือสาขาเกมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม หากคุณเป็นเจ้าของ PlayStation 4 (และอย่างยิ่งถ้ามี VR) ผู้เขียนก็แนะนำว่ากรุณาหามาเล่นเถิดค่ะ คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน

เหนื่อยนักก็พักหน่อย ได้แรงบันดาลใจค่อยลุกมาวาดต่อ..

จุดเด่น

+ การนำเสนอปัญหาเรื่องของการโดนกลั่นแกล้งและทางออกในแบบสร้างสรรค์ ลึกซึ้ง กินใจ

+ กราฟิกและงานศิลป์ที่สวยงาม แตกต่างและมีเอกลักษณ์ นำศิลปะมาเป็นธีมในการดำเนินเรื่องซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก

+ เพลงประกอบที่เข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร ความเศร้า ความสุข ความขับข้องใจ และถ่ายทอดส่งตรงมายังผู้เล่นได้ยอดเยี่ยม

+ เกมเพลย์ที่แตกต่าง พู่กันเรืองแสง ไม่ต่างอะไรจากดาบผู้กล้า ที่ เพียงแต่คุณไม่ต้องรบราฆ่าฟันกับใคร คุณแค่ใช้ศิลปะในการต่อสู้เพื่อนำพาแสงสว่างและความหวังกลับมาอีกครั้ง มันยอดเยี่ยมมาก ๆ

+ รองรับภาษาไทย และทำออกมาได้ดีเกินมาตรฐานมาก ๆ เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม ทั้งการแปล ตัว Font ที่ใช้ Layout ที่นำเสนอ แทบจะเรียกว่าไร้ที่ติ

+ ราคาเป็นมิตรแค่เพียง 1,090 บาทเท่านั้น เกมรองรับการเล่นบน PlayStation VR อีกด้วย (มี Deluxe Edition ในราคา 1,390 บาทจำหน่าย ซึ่งได้รับของแถม อาทิ Soundtrack และ Dynamic Theme พิเศษ)

+ โหมดพิเศษหลังจบเนื้อเรื่อง วาดได้อย่างอิสระ คล้าย Sandbox ให้คุณกลับไปรังสรรค์ผลงานศิลปะได้ตามใจนึกโดยไม่ต้องคำนึงถึงเควส

+ โหมดถ่ายรูปที่พิเศษนั่นก็คือมันไม่ใช่แค่ภาพนิ่ง มี Feature ที่เรียกว่า “การเล่นภาพย้อนหลัง” แบบไทม์แลปส์ ทำให้ภาพของคุณแลดูมีชีวิตด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา

จุดสังเกต

– ตัวเกมมีความยาวไม่มากนัก คือจบได้ใน 5-6 ชั่วโมง ถ้าจะเก็บพวก Collectable ก็จะยาวไปอีกหลายชั่วโมง แต่สำหรับบางคนก็อาจจะถือว่าเกมค่อนข้างสั้นไปอยู่ดี

– ความรวบรัดของตอนจบที่น่าจะขยายและขยี้ได้มากกว่านี้ จุดนี้น่าเสียดายมาก ๆ ไม่งั้นมันจะกลายเป็นเกมระดับ Masterpiece ได้เลย

Verdict Score : 9 / 10

เปลี่ยนจากดาบมาเป็น LightS.. เอ้ย! พู่กันแสงก็เท่ห์ไปอีกแบบนะ

Concrete Genie วางจำหน่ายแล้วในวันที่ 8 ตุลาคมนี้บนเครื่องเล่น PlayStation 4 เท่านั้น ตัวเกมจะรองรับการเล่นทั้งในรูปแบบปกติและการเล่นผ่านแว่นตา PlayStation VR ที่สำคัญยังรองรับคำบรรยายภาษาไทยอีกด้วย สำหรับเกมฉบับมาตรฐานราคา 1,090 บาท และสำหรับเกมฉบับดิจิตัล ดีลักซ์สุดราคา 1,390  บาท

สุดท้ายนี้ทางทีมงาน This is Game Thailand ต้องขอขอบคุณทาง Sony Interactive Entertainment ที่ให้ความอนุเคราะห์ สนับสนุนเกมดี ๆ มาให้พวกเราเล่นและรีวิวกันอีกเช่นเคย สำหรับใครต้องการซื้อเกมนี้ไปเล่น สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย (คลิกที่ภาพเพื่อเข้าสู่ Store ได้เลยค่ะ) ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันให้ดีทาง www.thisisgamethailand.com

ของแถมสำหรับ Delux Edition