รีวิวรีวิว / พรีวิวเกม

[รีวิว] Elden Ring NIGHTREIGN ออกผจญภัยในค่ำคืนหฤโหด ที่เจ็บปวดแต่งดงาม

เกมแอ็กชั่น Souls-like Co-op เต็มรูปแบบที่ผสมผสานเกมเพลย์ได้อย่างลงตัว

Elden Ring NIGHTREIGN เป็นเกมแอ็กชั่น Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ​ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา และในวันนี้ทีมงานได้มีโอกาสเข้าไปตายซ้ำตายซากในเกมนี้กันมาแล้ว และก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้

การแปลภาษาไทยที่ยังคงคุณภาพชั้นเยี่ยม

Elden Ring NIGHTREIGN Review

หนึ่งในจุดเด่นที่ต้องยกย่องเป็นอันดับแรกของ NIGHTREIGN คือการแปลภาษาไทยที่ยังคงคุณภาพระดับแนวหน้าไว้อย่างไร้ที่ติ ทีมผู้แปลสามารถถ่ายทอดอรรถรสของเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างลึกซึ้งและเปี่ยมอารมณ์ ไม่ต่างจากภาคก่อนหน้า ทุกบทสนทนาและข้อความในเกมถูกเรียบเรียงด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน ทำให้ผู้เล่นสามารถดื่มด่ำกับเรื่องราวอันเข้มข้นได้อย่างเต็มอิ่ม เป็นอีกครั้งที่การแปลไทยกลายเป็นสะพานที่เชื่อมโยงผู้เล่นสู่โลกแฟนตาซีอันน่าตื่นตาตื่นใจได้อย่างทรงพลัง

ออกผจญภัยในบรรยากาศของ Elden Ring ที่คุ้นเคย

Elden Ring NIGHTREIGN Review

เมื่อย่างก้าวเข้าสู่โลกของ NIGHTREIGN ผู้เล่นจะได้สัมผัสถึงกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Elden Ring อย่างชัดเจน แม้ตัวเกมจะหยิบเอามอนสเตอร์จากหลายภาคในจักรวาล FromSoftware มารวมไว้ด้วยกัน แต่แก่นหลักของบรรยากาศนั้นยังคงยึดโยงอยู่กับ Elden Ring อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญอย่าง “โต๊ะกลม” ที่เราคุ้นเคยในฐานะจุดเริ่มต้นของการเดินทาง หรือภูมิประเทศที่ชวนให้นึกถึงฉากหลังจากภาคก่อน ล้วนสร้างความรู้สึก Nostalgia ที่อบอวลอยู่ทุกย่างก้าวสำหรับแฟนเกมที่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน

แต่หากใครกังวลว่าการนำสถานที่เดิมกลับมาใช้อาจทำให้รู้สึกซ้ำซาก นี่คือสิ่งที่เกมทำได้ดีเกินคาด เพราะโลกที่คุ้นเคยเหล่านี้ถูกนำมา “ตีความใหม่” ด้วยรายละเอียดที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้การสำรวจใน NIGHTREIGN ให้ความรู้สึกสดใหม่อย่างน่าประหลาด คล้ายกับได้กลับบ้านในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนผู้เขียนสามารถพูดได้เต็มปากว่านี่คือ “การผจญภัยในโลกเดิมที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ในเวลาเดียวกัน”

Elden Ring NIGHTREIGN Review

นอกจากสถานที่แล้วเราจะยังได้มีโอกาสเจอกับมอนสเตอร์หน้าคุ้นอีกมากมาย เช่นอสุราต้องสาป โกเลมผู้พิทักษ์ หน่วยรถศึกเพลิง เป็นต้น ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะมอนสเตอร์เหล่านี้ก็มาจากเกมของ FromSoftware ทำให้จังหวะการโจมตีส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็น Moveset คล้ายของเดิม ซึ่งหากใครเคยเล่นเกมของค่ายนี้มาก่อนแล้วก็อาจจะทำให้จับทางได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าใครไม่เคยเล่นมาก่อนก็อาจจะต้องใช้เวลาเวียนว่ายตายเกิดบ่อยหน่อยนั่นเอง

คลาสที่หลากหลายสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง

Elden Ring NIGHTREIGN Review

สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่างไปจากเกมภาคหลักก็คือระบบการเลือกตัวละครที่ในเกมหลักนั้นผู้เล่นจะได้สร้างตัวละครของตัวเอง อัปเกรดค่าสถานะของตัวเอง เลือกอาวุธใช้งานเอง เลือกสกิลใช้งานเอง และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตามในเกม NIGHTREIGN นี้ความซับซ้อนในจุดนี้ถูกปรับให้ง่ายลงด้วยระบบ “คลาส” นั่นเอง โดยคลาสภายในเกมนี้ (ณ ตอนที่ผู้เขียนเขียนรีวิว) ก็จะมีทั้งหมด 6 คลาสด้วยกัน โดยแต่ละคลาสก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น ผู้สะกดรอย ที่ใช้อาวุธดาบ มีสกิลเน้นไปที่การโจมตีและเอาชีวิตรอดเป็นหลัก, ผู้พิทักษ์ อาวุธคือง้าวและโล่ สกิลก็เน้นไปที่การป้องกันขั้นเทพ, เนตรเหล็ก อาวุธคือธนู และสกิลโจมตีสไตล์นักธนู นั่นเอง

Elden Ring NIGHTREIGN Review

นอกจากสกิลแล้ว คลาสเหล่านี้ยังเป็นตัวกำหนดค่าสถานะที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละครั้งที่เลเวลอัปด้วย ในขณะที่อาวุธนั้นไม่ได้ถูกล็อคไว้ 100% ผู้เล่นสามารถเลือกสลับเปลี่ยนอาวุธใช้งานได้เรื่อย ๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถหาดรอปได้จากการผจญภัยในแต่ละรอบ โดยอาวุธเหล่านั้นก็จะมีความหายากที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งหายาก ยิ่งมีประสิทธิภาพมาก คงคอนเซปต์ของเกมไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกแปลกใจในตอนแรกเหมือนกันว่าจะทำให้ตัวเกมมีอิสระน้อยลงหรือไม่ แต่พอเล่นไปหลาย ๆ รอบเข้าก็เข้าใจได้ว่าข้อจำกัดบางอย่างถูกทำขึ้นเพื่อทำให้เกมเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และลดความวุ่นวายลงไปพอสมควร รวมไปถึงมีเรื่องราวพื้นหลังที่ทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมถึงเปลี่ยนเป็นระบบตัวละครให้เลือกใช้งาน แทนที่จะเป็นตัวละครสร้างเองแบบทั่ว ๆ ไป ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นทางออกที่ดีสำหรับเกมที่มีความอิสระสูง แต่ต้องการทำเกมสไตล์ Co-op นั่นเอง

อย่างไรก็ตามผู้เขียนเองก็แอบเสียดายเล็กน้อย เพราะถ้าเกิดว่าตัวเกมเปิดกว้างขึ้นอีกนิดด้วยการเปิดโอกาสให้เราได้สร้างตัวละครในสไตล์ของเราเองเพื่อเข้ามาผจญภัยร่วมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็คงทำให้เกมนี้มีความหลากหลายมากขึ้น (คล้ายกับระบบ Co-op ในเกมภาคหลัก) อย่างไรก็ตามการลดทอนตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดายแต่รับได้นั่นเอง

ความหฤโหดที่เข้มข้นขึ้น แต่หวานหอมยิ่งกว่าเดิม

Elden Ring NIGHTREIGN Review

แน่นอนว่าภายในเกมนี้ยังคงความหฤโหดสไตล์เกม Souls ของทาง FromSroftware ไว้ได้เป็นอย่างดีนั่นเอง ฉะนั้นสิ่งที่ผู้เล่นจะได้เจอแน่แน่ก็คือเหล่ามอนสเตอร์ที่มีพลังโจมตีมหาศาล ถ้าเราไม่สามารถป้องกันหรือหลบหลีกได้อย่างช่ำชอง ก็จะทำให้ผู้เล่นต้องตายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจุดนี้แม้ว่าจะฟังดูโหดอยู่แล้ว แต่ภายในเกมนี้ได้มีการเพิ่มบทลงโทษไปอีกขั้น ทำให้ผู้เล่นหลายคนอาจจะฟังดูแล้วรู้ว่าเกมนี้น่ากลัวเหลือเกินแต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นสิ่งที่ดีต่อใจผู้เขียนมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะคงไม่มีค่ายเกมไหนสร้างเกมได้โหดถูกใจท้าทายฝีมือได้เท่ากับค่ายนี้อีกแล้ว

เริ่มต้นจากการที่ผู้เล่นจะต้องเลือกบอสเพื่อเข้าไปต่อสู้ด้วย และเมื่อเข้ามาในแผนที่ผู้เล่นจะต้องทำการร่อนตัวเองลงไปยังจุดของพื้นที่ที่ปรากฏขึ้น คล้ายกับเกม Survival ในปัจจุบันนี้หลาย ๆ เกม โดยภายในแผนที่นั้นนั้นก็จะมีพื้นที่ต่าง ๆ มากมายให้ผู้เล่นได้ออกสำรวจ ซึ่งรายละเอียดภายในฉากจะมีการสุ่มขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ ตามสไตล์เกม Roguelike โดยพื้นที่สำคัญที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กภายในแผนที่ ก็จะมีมอนสเตอร์ประเภทมินิบอสเป็นผู้ควบคุมพื้นที่อยู่ อย่างไรก็ตามการต่อสู้กับมินิบอสภายในเกมนี้อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแบบ 1-1 เสมอไป เพราะมีโอกาสอย่างมากที่เราจะต้องเผชิญหน้ากับ Monster ลูกกระจ๊อกที่จะเข้ามารุมเราด้วย (รวมไปถึงมันอาจจะต่อสู้กันเองด้วย) ทำให้การต่อสู้กับมินิบอสตรงนี้ถือว่าหินเอาการเลยทีเดียว แต่เมื่อไหร่ที่เราชนะได้ก็จะได้มีโอกาสรับไอเทมพิเศษ รวมไปถึงอาวุธหายากต่าง ๆ และรูนจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ในการอัปเลเวลของตัวละครที่จะทำให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้น

Elden Ring NIGHTREIGN Review

อย่างไรก็ตามหากใครคิดว่าจะใช้วิธีการฟาร์มเลเวลด้วยการกำจัดมินิบอสทั้งหมดให้เสร็จก่อนถึงจะเข้าไปตบกับบอสตัวใหญ่ก็ต้องขอบอกเลยว่า  “ไม่มีทางเป็นไปได้” เพราะเมื่อเวลาผ่านไปสักพักหนึ่งแผนที่ก็จะเริ่มถูกจำกัดวงลงมาด้วยฝนที่สามารถฆ่าผู้เล่นได้ภายในเสี้ยววินาที ทำให้ในตอนนี้สิ่งที่ผู้เล่นจะต้องทำเป็นหลักก็คือการวิ่งเข้าไปยังต้นพฤกษาทองที่ปรากฎขึ้นในแผนที่ ซึ่งต้นพฤกษาทองนั้นจะเป็นจุดเกิดของบอสในคืนนั้น ๆ ทำให้ตรงนี้เองผู้เขียนถึงได้ทราบว่า “ความกดดันมันมหาศาลเหลือเกิน”

ที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือหลายคนอาจจะคิดว่า “การวิ่งไปยังต้นพฤกษาทองไม่น่าจะใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก” ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงไม่ใช่เกมของ FromSoftware แล้วล่ะครับ เพราะการวิ่งไปยังต้นพฤกษาทองเราจะต้องผ่านทั้งมอนสเตอร์มากมาย รวมไปถึงแผนที่ที่ไม่ได้เป็นระนาบเรียบแบบปกติทั่ว ๆ ไป โดยเราจะได้เจอทั้งหน้าผาสูงชันที่ผู้เล่นไม่สามารถปีนได้ ห้วงเหวลึกที่เพียงตกลงไปก็ลุยได้ทันที รวมไปถึงถ้ำต่าง ๆ ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจ แต่บางครั้งมันกลับไม่มีทางออกที่ปลายทางซะอย่างงั้น! แล้วด้วยอุปสรรคทางแผนที่ทั้งหมดนี้ทำให้ผู้เล่นมีโอกาสที่จะตายเพราะฝนสูงมาก ๆ หากจะคอยวิ่งอยู่ตามขอบที่คอยไล่บีบเข้ามาเหมือนเกม Battle Royale ทั่ว ๆ ไป

Elden Ring NIGHTREIGN Review

นอกจากนี้การเผชิญหน้ากับบอสก็ไม่ใช่เรื่องเล่นเล่นเลยแม้แต่น้อย เพราะในบางครั้งแทนที่เราจะได้ดวลกับบอสแบบ 1-1 เราอาจจะเจอบอสปรากฏตัวออกมาพร้อมกันสองตัวในคราวเดียว ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นหายนะถึงที่สุดสำหรับผู้เล่นเกมนี้เลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตามความหฤโหด ที่เข้มข้นขึ้นนี่เอง ก็ตอบแทนผู้เล่นด้วยความรู้สึกที่หอมหวานยิ่งกว่าเดิมเมื่อเราสามารถผ่านแต่ละคืนไปได้เรื่อย ๆ ฉะนั้นผู้เขียนมองว่าหากใคร ชื่นชอบการเสพติดความเจ็บปวดที่งดงามซึ่งเป็นจุดเด่นของเกมประเภทนี้ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ

สรุปรีวิว

Elden Ring NIGHTREIGN Review

โดยรวมแล้ว NIGHTREIGN จะเป็นอีกหนึ่งเกมสไตล์ Souls ที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าจะทำให้แฟนเกมประทับใจอย่างแน่นอนด้วยเกมเพลย์ที่ฮาร์ดคอร์เช่นเคย แต่มาพร้อมกับระบบใหม่ ๆ ที่ถูกนำมาผสมผสานได้ลงตัวแบบสุด ๆ รวมไปถึงหากใครเคยเล่นเกมของค่ายนี้มาก่อนบอกได้เลยว่ามียิ้มแก้มปริแน่นอน เพราะเราจะได้เจอหน้าเจอตาของมอนสเตอร์จากเกมอื่น ๆ ในค่ายนอกเหนือจาก Elden Ring ด้วยเช่นกัน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– เกมเพลย์ยังคงเข้มข้นสไตล์ Souls ที่สนุกและตึงมือเช่นเคย

– ระบบคลาสที่ทำให้ผู้เล่นเล่น Co-op ได้ง่ายขึ้นด้วยหน้าที่ที่ชัดเจน

– ภาษาไทยที่แปลออกมาได้พิถีพิถัน

– เกมเพลย์ที่ผสมผสาน Survival และ Roguelike มาได้ลงตัว

– เลือกเล่นคนเดียว หรือ Co-op กับเพื่อนก็ได้

ข้อสังเกต

– ถ้าฝีมือไม่ถึงจริง ๆ การเล่นคนเดียวอาจจะไม่รอด เนื่องจาก Learning Curve ของเกมนี้สูงมาก แล้วถ้าตายในการต่อสู้กับบอสคือจบรอบทันทีต้องกลับมาเริ่มใหม่

– ถ้าเจอเพื่อนร่วมห้องไม่เป็นงานอาจจะหัวร้อนกว่าเจอบอสโหด ๆ เสียอีก

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิ]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button