หากใครที่มองหาเกมแนวกีฬาซึ่งมาพร้อมกับกฎการเล่นที่แปลกตาไป แต่ยังคงได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งพื้นฐานที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอยู่บ้างน่าจะต้องรู้จักกับเกมตระกูล Blood Bowl และล่าสุดตัวเกมได้เดินทางมาถึงภาคที่ 3 เข้าไปแล้วทิ้งช่วงระยะเวลาจากภาคก่อนที่ออกมาในปี 2015 เป็นระยะเวลากว่า 8 ปี การมาในครั้งนี้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้านที่น่าสนใจ แต่ดันไปรับวัฒนธรรมที่ดูจะไม่เป็นที่พอใจนักของเหล่าเกมเมอร์ในปัจจุบัน
งานภาพและกราฟิกยกระดับขึ้นจากเดิม
ด้วยความที่เกมภาคใหม่ทิ้งระยะจากภาคก่อนไปถึง 8 ปีฉะนั้นเรื่องแรกที่เราต้องมาพูดถึงกันคงหนีไม่พ้นงานภาพและกราฟิกภายในเกมของ Blood Bowl 3 แน่นอนว่าในแง่ของสภาพแวดล้อมหากใครที่เล่นภาคที่แล้วมาอาจจะได้ความรู้สึกชวนคิดถึง แต่สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือการลงสีและแสงเงาที่มีทำให้ดูมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในเรื่องของงานภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายที่ชวนคิดถึงไม่ได้ทิ้งเอกลักษณ์ที่มีของตัวเอง
ไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมและสิ่งที่เราได้เห็นภายในเกมที่ได้เล่นเป็นส่วนใหญ่ แต่ในแง่ของการนำเสนอคัตซีนที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเพลิดเพลินกับการได้รับชม หากใครที่กังวลว่าจะไม่ได้เห็นฉากที่รุนแรงและสะใจก็หายห่วง เนื่องจากเวลาที่ orc กับ goblin หวดกันในสนามจะยังคงความเลือดสาดเอาไว้ให้เราได้เห็นกัน อีกทั้งหากองค์ประกอบลงตัวเรายังสามารถที่จะออกท่าทางเพื่อเพิ่มความสะใจในการปะทะของตัวละครได้อีกด้วย
บทพูดและเสียงบรรยายที่เข้ากัน
ใครที่ชื่นชอบการฟังประโยคภายในเกมที่มีอยู่ตลอดเวลาจะต้องรัก Blood Bowl 3 เนื่องจากบทพูดที่มีการเขียนออกมาค่อนข้างที่จะโดนใจและกวนใช่เล่น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดจากผู้เล่น โค้ช หรือผู้บรรยายล้วนแล้วแต่ตอบสนองซึ่งกันและกันได้ค่อนข้างที่จะดีและลงตัว หากใครที่ตั้งใจฟังและเล่น ๆ ด้วยความจริงจังอยู่ เจอบางประโยคเข้าไปอาจหลุดขำได้ไม่ยาก
ยังคงเน้นการเล่นออนไลน์
แม้ว่าภายในภาคนี้จะมาพร้อมกับโหมดการเล่นแบบผู้เล่นคนเดียวตะลุยไปเรื่อย ๆ ได้ตามแต่ละเผ่า แต่ก็ต้องยอมรับว่า Blood Bowl 3 ยังไงก็คงต้องเล่นกับผู้เล่นอื่นถึงจะให้ความรู้สึกที่สนุกและเร้าใจ โหมดการเล่นภายในเกมหากใครที่อยากจะได้ความหลากหลายคงต้องคิดกันใหม่เนื่องจากมีเพียงแค่ผู้เล่นคนเดียวกับออนไลน์เท่านั้น
ปรับแต่งทีมได้อิสระ
Blow Bowl 3 มาพร้อมกับการนำเสนออิสระในการปรับแต่งทีมที่เราเล่นได้หลากหลาย เราสามารถที่จะเลือกเผ่าของตัวละครภายในเกมมาอยู่ภายในทีมที่แตกต่างกันได้ถึง 12 เผ่า อีกทั้งยังสามารถที่จะจัดวางตำแหน่งการเล่นของแต่ละตัวละครได้แทบจะทั่วทั้งสนาม ซึ่งเราจะต้องดูให้ดีด้วยว่าแต่ละตัวละครหรือการ์ดที่วางเอาไว้มีความสามารถ และจะได้รับข้อดีและข้อด้อยในการเล่น ณ ตำแหน่งนั้นเป็นเช่นใด ใครที่เป็นหน้าใหม่ก็ไม่ต้องกังวลเนื่องจากตัวเกมมีการสอนเราเล่นในช่วงแรกพอสมควร
นอกจากตัวละครเรายังสามารถที่จะปรับแต่งส่วนประกอบอื่น ๆ ของทีมได้อีกด้วยอย่างเช่นโลโก้ของทีม อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป แต่ไม่ต้องห่วงเนื่องจากทุก ๆ ครั้งที่เราเล่นจะได้รับรางวัลสำหรับการนำไปใช้งานต่อเติมทีมให้สมบูรณ์ตามใจอยากได้พอประมาณ
ระดมสมองเพื่อเอาชนะคู่แข่ง
หากใครที่กำลังมองหาเกมที่ต้องใช้ความคิดในการวางแผนการเล่นอยู่ตลอดเวลา Blood Bowl 3 จะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี เรียกว่าระยะเวลาที่เราใช้ในการเล่น กับระยะเวลาที่ใช้ในการวางแผนก่อนที่จะเข้าไปเล่นแทบจะใช้เวลาพอ ๆ กัน เนื่องจากต้องไม่ลืมความสนุกของตัวเกมที่จะเน้นการวางแผนเป็นหลัก จากนั้นค่อยไปดูผลลัพธ์หน้างานกันอีกที หากใครที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่และเห็นตัวเกมจากภาพอาจจะหลงคิดไปได้ว่าจะได้เข้ามาหวดกันตรง ๆ แต่เมื่อเจอการเล่นจริงเข้าไปอาจจะงงเป็นไก่ตาแตกได้ ทางแก้ในส่วนนี้เราแนะนำว่าให้เข้าไปเล่นในโหมดฝึกสอนกันก่อน ไม่เฉพาะกับผู้เล่นหน้าใหม่แต่ผู้เล่นที่เคยผ่านมือเกมตระกูลนี้มาแล้วก็ควรที่จะเข้าไปเรียนรู้ด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าการวางแผนถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกมแนวนี้และอาจจะต้องมีดวงมาเกี่ยวข้องกันอีกเล็กน้อย หากตัวละครมีความสามารถใกล้เคียงกันแผนนี่แหละจะเป็นตัวตัดสิน อย่างไรก็ตามด้วยความที่เป็นเกมในยุคสมัยใหม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างการที่มีตัวละครมาพร้อมกับความสามารถที่สูงจนเกินไปตามมาด้วย
อยากแตกต่างต้องยอมจ่ายกันเสียหน่อย
ด้วยความที่เป็นเกมสมัยใหม่ทำให้หนีไม่พ้นการมองหารายได้ต่อเนื่องหลังจากที่วางจำหน่ายเกมไปแล้วด้วยระบบ Microtransaction ซึ่งใน Blood Bowl 3 จะมาในรูปแบบของระบบเสริมสวยตัวละครของเรา อย่างการแต่งองค์ทรงเครื่องตามที่ผู้เล่นชื่นชอบ ต้องยอมรับว่าของเหล่านี้ที่ขายด้วย Warpstones ที่ได้จากการใช้เงินจริงค่อนข้างที่จะสวยและน่าดึงดูดอย่างมาก แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถที่จะหาได้จากการเล่นทั่ว ๆ ไป
บทสรุป
Blood Bowl 3 เป็นหนึ่งในเกมที่สามารถหามาไว้ติดเครื่องเพื่อเล่นได้อย่างไม่ต้องอายใคร ระบบการเล่นช่วยให้เราได้คิดและวิเคราะห์ว่าควรจะเล่นในรูปแบบไหน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งเราอาจจะสัมผัสกับประสบการณ์ว่านี่ทำอะไรลงไปก็เป็นได้ ใครชื่นชอบความรุนแรงและฉากที่ต้องปะทะกันแบบเลือดสาดรับรองว่าจะต้องชอบอย่างแน่นอน
จุดเด่น
– คงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ของเกมตระกูลนี้
– งานภาพและกราฟิกสมกับการทิ้งช่วงเวลาจากภาคก่อน
– ระบบการเล่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากเดิมให้หลากหลายยิ่งขึ้น
– เพิ่มโหมดผู้เล่นคนเดียวให้มีมากกว่าเดิม
– บทพูดที่ชวนให้คลายเครียดได้เมื่อได้ฟัง
– การปะทะกันที่ทำได้สะใจสมกับชื่อเกม
จุดสังเกต
– โหมดการเล่นแอบน้อยเกินไปเสียหน่อย
– หากเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ชอบอะไรยุ่งยากอาจไม่เหมาะกับเกมนี้
Blood Bowl 3 จำหน่ายแล้ว บน Steam, Epic Games Store, PlayStation®5, PlayStation®4, Xbox Series X|S และ Xbox One สำหรับ Nintendo SwitchTM จำหน่ายตามมาในภายหลัง