[รีวิว] BLEACH Rebirth of Souls ปลดปล่อยบังไคในเกมแอ็กชั่นสุดมันส์

BLEACH Rebirth of Souls จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครที่ชื่นชอบจากอนิเมะดังอย่าง BLEACH นำพลังดาบอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขามาใช้ วางแผนการโจมตี เลือกใช้ความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละตัวละคร สร้างจังหวะโจมตีพลิกนรกเอาชนะศัตรู และเพียงแค่การโจมตีดาบครั้งเดียวก็สามารถชี้ชะตาชัยชนะของคุณหรือศัตรูได้! 

และในวันนี้ทางทีมงานได้มีโอกาสเข้าติดตามเรื่องราวสุดเข้มข้นของอนิเมะดังเรื่องนี้มาแล้ว และเราก็ไม่พลาดที่จะนำรีวิวมาให้ทุกคนได้ติดตามกันครับ

อนึ่ง… การรีวิวนี้เกิดขึ้นบน PS5 โดยหากผู้อ่านกลับมาอ่านในภายภาคหน้าหลังจากที่รีวิวนี้ได้เผยแพร่ไปแล้ว ข้อสังเกตบางข้ออาจมีการแก้ไขเรียบร้อยหลังจากที่รีวิวเผยแพร่ไปแล้วก็เป็นได้

ภาษาไทยแปลมาได้ดี แต่ตัวอักษรเล็กไปแถมปรับไม่ได้อีกต่างหาก

ต้องบอกเลยว่า BLEACH Rebirth of Souls เป็นเกมที่มอบประสบการณ์การเล่นที่ดื่มด่ำสำหรับแฟน ๆ ชาวไทยได้แบบจัดเต็มด้วยการแปลภาษาไทยที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม สื่อถึงอารมณ์และบรรยากาศของการ์ตูนต้นฉบับได้อย่างครบถ้วน การใช้ภาษาเป็นธรรมชาติและสอดคล้องกับสำนวนที่คุ้นเคยในโลกของ BLEACH ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของการ์ตูนเรื่องโปรดอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเสียดายคือขนาดตัวอักษรที่ปรากฎภายในเกมนี้มีขนาดค่อนข้างเล็ก และไม่มีตัวเลือกในการปรับขนาด ทำให้การอ่านข้อความบนหน้าจออาจเป็นปัญหาสำหรับผู้เล่นบางคน โดยเฉพาะผู้ที่เล่นบนหน้าจอขนาดเล็กหรือมีปัญหาด้านสายตา (รวมไปถึงคนที่มีอายุในระดับหนึ่ง) แม้ว่าการแปลภาษาไทยจะทำได้ดี แต่ปัญหาเรื่องขนาดตัวอักษรนี้อาจเป็นอุปสรรคต่อประสบการณ์การเล่นโดยรวม ซึ่งน่าเสียดายไปเล็กน้อย

กราฟิกการ์ตูนที่สวยงาม แม้จะไม่คมชัดระดับแนวหน้า แต่โดยรวมถือว่าน่าประทับใจ

ในส่วนของกราฟิกภายในเกมนี้ก็ต้องบอกว่าเกมดังกล่าวได้นำเสนอประสบการณ์การต่อสู้ที่ดึงดูดสายตาด้วยกราฟิกสไตล์อนิเมะที่สวยงาม แม้ว่าภาพอาจไม่ได้คมชัดในระดับเดียวกับเกมยุคปัจจุบันบางเกม (หมายเหตุ: หรือเป็นเพราะปัญหาเกมบน PS5 ที่หลายคนพูดตรงกันว่าการเล่นเกมบน PS5 ภาพดูเบลอกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่มั่นใจ ซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปครับ)

อย่างไรก็ตาม เอฟเฟกต์การต่อสู้ที่อลังการและฉูดฉาดก็ช่วยชดเชยข้อด้อยนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากคัทซีนที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างประณีตและน่าประทับใจ สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวาทำให้เกมนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับแฟน ๆ การ์ตูน Bleach ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้ที่ดุเดือดและเร้าใจ

ต่อสู้แอ็กชั่นเข้าใจง่าย แต่ท้าทาย

เกมนี้เป็นเกมแอ็กชั่นที่เน้นการใช้อาวุธเป็นหัวใจหลัก นั่นแปลว่ารูปแบบการต่อสู้ของตัวละครแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะดาบที่ใช้งาน โดยความแตกต่างนี้จะเกิดขึ้นอ้างอิงจากความสามารถของตัวละครตามการ์ตูนด้วย ซึ่งจุดนี้เองกลายเป็นจุดเด่นของเกมที่ผู้เขียนประทับใจ และคาดว่าหลาย ๆ คนก็น่าจะชอบด้วย และด้วยความโดดเด่นนี้เองทำให้เกมนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ผู้เล่นจะต้องใช้เวลาในระดับหนึ่งเพื่อเรียนรู้จุดเด่นการต่อสู้ของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่ท้าทายของผู้เล่นเป็นอย่างมากนั่นเอง

นอกจากนี้เกมดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงเกมแอ็กชั่นฟันดาบธรรมดา แต่เป็นการนำเสนอระบบการต่อสู้ที่ลึกซึ้งและท้าทาย โดยหัวใจหลักของเกมเพลย์อยู่ที่การต่อสู้ด้วยดาบ ซึ่งได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้ทุกการฟาดฟันเต็มไปด้วยความหนักแน่นและทรงพลัง การเพิ่มมิติการหลบหลีกด้วยการหลบด้านข้าง ทำให้ผู้เล่นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและพลิกแพลงสถานการณ์ได้หลากหลายยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำให้ Rebirth of Souls แตกต่างจากเกมแอ็กชั่นทั่วไปคือ ระบบการทำลายวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้เล่นไม่ได้เพียงแค่ลด HP ของศัตรูให้หมด แต่ต้องลด “อณูวิญญาณ” และทำลาย “เกจวิญญาณ” ซึ่งเป็นกระบวนการสองขั้นตอนที่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผนอย่างรอบคอบ ในขณะที่การปลดปล่อยบังไค จะเป็นการปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของตัวละคร ทำให้การโจมตีรุนแรงขึ้นและสามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้ได้ในพริบตา

ด้วยระบบการต่อสู้ที่เข้าใจง่ายแต่ท้าทายทำให้เกมนี้เป็นเกมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นที่ชื่นชอบเกมแอ็กชั่นฟันดาบและแฟน ๆ ของซีรีส์ BLEACH ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้ที่ดุเดือดและเข้มข้น

เนื้อเรื่องไม่จบจนถึงภาคสุดท้าย แต่มีเนื้อเรื่องพิเศษให้เล่นเป็นการชดเชย

BLEACH Rebirth of Souls นำเสนอประสบการณ์การผจญภัยในโลกของยมทูตที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าเนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้ครอบคลุมจนถึงภาคสุดท้าย (สงครามเลือดพันปี) แต่เกมนี้ก็ชดเชยด้วยเนื้อเรื่องพิเศษ (Secret Story) ของตัวละครบางตัวที่น่าสนใจ สำหรับเนื้อเรื่องหลักนั้นจะเน้นการเล่าเรื่องตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงภาคอารันคาร์ โดยในโหมดเนื้อเรื่องตัวเกมนี้จะให้ความสำคัญกับการนำเสนอเนื้อเรื่องเป็นหลัก ทำให้ฉากต่อสู้มีปริมาณไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นที่คาดหวังการต่อสู้เยอะ ๆ ผิดหวังไปบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าเข้าใจได้

ในขณะเดียวกันเนื้อเรื่องพิเศษนั้นผู้เล่นจะต้องทำการปลดล็อคให้ได้เสียก่อน และเมื่อปลดล็อคได้แล้วเราจะได้มีโอกาสเสพย์เนื้อเรื่องซึ่งเป็นเรื่องราวเดียวกับเนื้อเรื่องหลัก แต่จะเปลี่ยนมุมมองจากที่อิจิโกะเป็นตัวละครหลัก กลายเป็นมุมมองของตัวละครเหล่านี้แทน ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เพราะปกติแล้วเราจะได้ติดตามเรื่องราวของตัวละครเอกหัวส้มคนนี้มาตลอด การเปลี่ยนมุมมองในเนื้อเรื่องถือว่าเป็นการนำเสนอรสชาติใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย

แม้ว่าอนิเมชั่นในเกมในช่วงเนื้อเรื่องจะดูแข็งไปบ้าง แต่การแสดงออกทางสีหน้าของตัวละครนั้นทำได้อย่างน่าพอใจ นอกจากนี้การนำเสนอเนื้อเรื่องผ่านฉากอนิเมชั่น (เกือบ) เต็มรูปแบบมากในระดับหนึ่งแทนที่จะใช้ภาพนิ่งล้วน ทำให้ผู้เล่นได้รับอรรถรสในการรับชมเรื่องราวอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามเกมนี้ได้มีการย่อเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้กระชับและเข้าใจง่ายขึ้น รวมไปถึงมีการใช้ภาพนิ่งประกอบในช่วงย้อนอดีต หรือย่อเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ออกไป (เช่น ช่วงที่อิจิโกะช่วยชีวิตอุเอฮาระและซาโดในภาคแรก) รวมไปถึงการสรุปเรื่องราวในบางช่วง ซึ่งผู้เขียนแอบรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้นำเสนอเนื้อหาทั้งหมดด้วยอนิเมชั่น แต่ก็เข้าใจได้ว่าหากใส่มาทั้งหมดจะทำให้เกมยาวเกินไป ทำให้โดยรวมแล้ว การย่อเนื้อหาไม่ได้ทำให้เนื้อเรื่องขาดความต่อเนื่องหรือเข้าใจยากจนเกินไป

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของเกมนี้คือเพลงประกอบที่ไพเราะ ซึ่งประพันธ์โดย “อิชิโมโตะ ทาเคฮารุ” ผู้สร้างสรรค์ดนตรีประกอบให้กับเกมชื่อดังมากมาย ทำให้บรรยากาศในเกมมีความน่าสนใจและดึงดูดมากยิ่งขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารายละเอียดนี้ทำให้เกมมีความน่าสนใจเยอะขึ้นมาก ๆ

โหมดภารกิจสุดมันส์ ที่เหมาะกับผู้ที่ชอบความท้าทาย

เกมนี้ไม่ได้มีดีแค่เนื้อเรื่องหลักที่เข้มข้นเท่านั้น แต่ยังมีโหมดภารกิจสุดมันส์ที่ท้าทายความสามารถของผู้เล่นอย่างแท้จริง โดยโหมดนี้จะพาคุณเข้าสู่สนามประลองที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูสุดแกร่งถึง 3 ตัวต่อเนื่อง โดยไม่มีโอกาสให้พักหายใจหายคอ การต่อสู้แต่ละครั้งจะเป็นการสุ่มศัตรู ทำให้คุณไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าต้องเจอกับอะไร ซึ่งความพิเศษของโหมดนี้อยู่ที่การเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ปรับแต่งตัวละครด้วยป้ายวิญญาณและหินพลังวิญญาณ เพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่จงระวัง เพราะอณูวิญญาณและเกจวิญญาณจะไม่ฟื้นฟูระหว่างการต่อสู้ในแต่ละครั้ง นั่นหมายความว่าคุณต้องวางแผนการต่อสู้อย่างชาญฉลาด เพื่อเอาชนะศัตรูทั้ง 3 ตัวให้ได้

ชัยชนะในโหมดนี้ไม่ได้มาง่าย ๆ แต่รางวัลที่ได้ก็คุ้มค่ากับการทุ่มเทอย่างแน่นอน คุณจะได้รับไอเทมล้ำค่าอย่างหินเสริมพลังวิญญาณ และเงินจำนวนมาก เพื่อนำไปซื้อหินวิญญาณมาเสริมพลังให้ตัวละครของคุณแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โหมดภารกิจนี้จึงเป็นบททดสอบที่ท้าทายและคุ้มค่าสำหรับผู้เล่นที่ต้องการพิสูจน์ฝีมือและสะสมไอเทมมาเสริมพลังให้ตัวละครของผู้เล่นนั่นเอง

สรุปรีวิว

BLEACH Rebirth of Souls เป็นเกมแอ็กชั่นฟันดาบที่ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง โดยในส่วนของเนื้อเรื่องถือว่าทำออกมาพิถีพิถัน แต่แอบน่าเบื่อไปเล็กน้อยเพราะโอกาสที่เราจะได้ต่อสู้นั้นแอบน้อยไปนิด แถมอนิเมชั่นที่ทำออกมาก็แอบแข็งไปหน่อย อย่างไรก็ตามในโหมดการต่อสู้อื่น ๆ นั้นทำได้ดีน่าประทับใจทั้งในส่วนของกราฟิก เอกเฟกต์ที่อลังการ และการอ้างอิงจากการ์ตูนที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจว่าแฟนการ์ตูนจะต้องชอบอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 8.5 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– กราฟิกที่สวยงาม เอฟเฟกต์อลังการ

– เกมเพลย์ต่อสู้ที่ถือว่าทำออกมาได้มีความหลากหลายในแง่ของรูปแบบการต่อสู้ของตัวละคร

– ตัวเกมทำออกมาได้เคารพต้นฉบับเป็นอย่างมาก

– โหมดเนื้อเรื่องนำเสนอด้วยอนิเมชั่นเกือบเต็มรูปแบบ แม้จะแข็งไปนิด แต่การแสดงออกทางสีหน้าถือว่าดี

ข้อสังเกต

– ภาพมีความเบลอแปลก ๆ ทำให้ภาพดูไม่คมชัดทั้ง ๆ ที่เล่นบน PS5

– ราคาแอบแรงไปสักหน่อย แต่เข้าใจได้เพราะมีค่าลิขสิทธิ์พ่วงมาด้วย

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้น โปรดติดตามกันได้เลย…

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อเกมได้ที่ : [คลิก]

ภาพสกรีนช็อตเพิ่มเติม

ผู้อ่านคนใดต้องการติดตามรีวิว / พรีวิวเกมอื่น ๆ ของ This Is Game Thailand ก็สามารถมาได้ที่นี่ครับ >>>คลิก<<<