[เปิดกรุเกมเก่า] Red Earth เกมต่อสู้แนว RPG ที่หายสาบสูญจาก CAPCOM
ไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้ แต่มีองค์ประกอบและมิติที่น่าสนใจมากมาย
จะว่าไปแล้ว CAPCOM ถือเป็นค่ายเกมญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญการพัฒนาเกมแนวแอ็กชั่นอยู่ไม่น้อยเลยครับ เพราะแทบจะทุกเกมที่มีการเปิดตัวมาก็ล้วนมีเสียงตอบรับที่ดีด้วยกันเกือบทั้งสิ้น และไม่ต้องพูดถึงความปังของฝั่งเกมไฟต์ติ้งเลยเพราะว่า Street Fighter สุดยอดแห่งเกมสังเวียนต่อสู้ก็มาจากค่ายนี้เหมือนกัน ดังนั้นทุกครั้งที่มีการพัฒนาเกมประเภทต่อสู้ขึ้นมาก็ย่อมมีคนให้ความสนใจกันทุกครั้งไป
แน่นอนว่าไม่มีใครที่ดีเลิศไปเสียหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางเกมก็มีกระแสแง่ลบอยู่เหมือนกัน แต่กระนั้นแล้วก็ต้องนับถือใจของ CAPCOM ที่สู้ทนพัฒนาเกมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าสนใจและหวือหวาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นยุค 90 ครับ ที่ CAPCOM มีการลองผิดลองถูกกับเกมแนวต่อสู้เยอะมากเลยทีเดียวทั้ง Darkstalkers เกมต่อสู้แบบผีๆ, Rockman Power Battle เกมร็อคแมนแบบต่อสู้ ไปจนถึง Puzzle Fighter เกมแนวต่อสู้ผสมผสานการต่อเพชรฝึกสมอง ทว่าที่แหวกแนวมากที่สุดคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Red Earth ที่ตลอดชีวิตการให้บริการบนตู้อาร์เคดนั้น… ไม่เคยแม้แต่จะมีการพอร์ตลงคอนโซลเลย
ก่อนอื่นขอแนะนำเนื้อเรื่องว่า Red Earth มีเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในยุคโบราณราวๆ ศตวรรษที่ 14 แต่ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีเข้าไป (เกมเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจะบอกว่าเป็นยุค 1999 ที่อยู่ในช่วงหลังความล่มสลายซะงั้น) อย่างไรก็ตามความสงบสุขได้ถูกทำลายลงเมื่อ Scion จอมมารร้ายที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากความโลภและจิตใจดำมือของมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นมาดำเนินแผนการครองโลกพร้อมส่งมอนสเตอร์ไปยังดินแดนต่างๆ จนทำให้ผู้กล้าทั้งสี่ต้องออกเดินทางเพื่อหยุดยั้งเหตุการณ์เหล่านี้ โดยแต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันไป ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นมาแถมดูยังไง๊ดูยังไงก็เหมือนกับเกม RPG อย่างไรเสีย มันก็คือเกมต่อสู้ที่ผสมผสานองค์ประกอบแบบเกมสวมบทบาทเข้าไปด้วย
ตัวละครทั้งสี่จะมาพร้อมกับความสามารถที่แตกต่างกันนั่นคือ Leon กษัตริย์ของอาณาจักร Savalia ที่ถูกสาปให้กลายเป็นมนุษย์ครึ่งสิงโตแถมคนในเมืองยังถูกลักพาตัวไปอีก, Kenji นินจาผู้มาพร้อมกับอาวุธครบมือรวมไปถึงปืนใหญ่, Tessa แม่มดฝึกหัด และ Mai-Ling นักสู้ผู้ตะลุยยุทธภพแต่กลับมาเจอหมู่บ้านถูกทำลายลง โดยเราจะมีตัวละครเลือกเล่นเพียงแค่นี้เท่านั้น แม้ว่าเกมจะมีโหมด VS. ด้วยก็ตาม ถ้างั้นความสนุกจะอยู่ตรงไหน? ทั้งๆ ที่เกมต่อสู้ก็ควรจะมีอะไรให้เลือกแบบหลากหลายไม่ใช่หรือ? คำตอบก็คือ… เราจะสามารถปั้นตัวละครเป็นของตัวเองได้นั่นเองครับ!
ขั้นตอนการปั้นตัวละครก็คือการเล่นโหมดหลักนั่นแหละ ซึ่งก็จะเป็นการตะลุยตามเนื้อเรื่องไป โดยเมื่อเจอคู่ต่อสู้ (นึกภาพว่าเหมือนกับโหมด Boss Rush ที่ต้องสู้กับศัตรูตัวใหญ่ตลอด) ก็จะมีไดอะล็อกเนื้อเรื่อง – คำถามคำตอบ ให้เราเลือกด้วยเหมือนกัน ยิ่งเราสู้มากเท่าไร หรือใช้เวลาน้อย ใช้คอนทินิวน้อย ใช้ท่าเก่งๆ ก็จะยิ่งได้คะแนน EXP มาอัปเกรดพลังของเรามากขึ้น มีกล่องสมบัติตกตามฉาก ช่วยให้ปลดล็อกท่าต่อสู้หรืออาวุธพิเศษใหม่ๆ เช่นเดียวกับฉากจบแบบดีร้ายตามการกระทำ และยังมีด่านโบนัสอีกต่างหาก ส่วนวิธีเซฟข้อมูลก็จะเป็นระบบ Passcode พอเราเล่นเกมจบหรือแพ้ก็จะมีรหัสแสดงขึ้นมาให้เราจด จากนั้นเมื่อเราไปเล่นโหมดเนื้อเรื่องหรือโหมด VS. ก็ใส่โค้ดเข้าไปแล้วตัวละครที่ได้รับบัฟจนเต็มพิกัดในเซฟของเราก็จะปรากฏขึ้นมาให้ใช้นั่นเอง
ดังนั้นการเล่นครั้งแรกของทุกคนย่อมต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทนพอสมควรเพราะว่าศัตรูแต่ละด่านค่อนข้างอึดแถมมีขีดพลังที่ยาวเฟี้ยวกว่าจะสู้จนชนะได้ กว่าจะสู้ได้ชิลๆ ก็ต้องหยอดเหรียญกันหลายรอบหน่อย (ฮา) ซึ่งระบบต่อสู้ก็ไม่ซับซ้อนมากเพราะเหมือนเกมต่อสู้ CAPCOM ทั่วไป แต่เราจะเก็บลูกแก้วธาตุต่างๆ ไว้ร่ายเวทมนตร์ได้ และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้น Red Earth ยังมีท่าต่อสู้จบท้ายที่โหดด้วย เพราะบางท่าจะทำให้อีกฝ่ายตัวขาดครึ่ง คอขาด หรือควักหัวใจออกมาได้เหมือนกัน สำหรับดีไซน์บอสแน่นอนว่าทั้งหลอน ทั้งเท่ และดุดันแบบไม่ต้องสงสัย
ฟังดูคอนเซปต์ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะผู้พัฒนาเองก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเกมแนวตะลุยด่านและผสมผสานออกมาอย่างลงตัว แถมเกมยังถ่ายทอดการต่อสู้ผ่านอาร์เคดบอร์ด CPS-3 ที่ทรงพลังเป็นเกมแรกก่อน Street Fighter III ด้วย (เครื่องแรงถึงขั้นสลับสีสไปรต์ซ้ายขวาได้แบบไม่ต้องเล่นภาพซ้ำ) ทว่าถึงแม้ในช่วงแรกหลังจากเปิดให้บริการในญี่ปุ่นจะได้รับความสนใจมากๆ ในตะวันตกเกมก็มีการเปิดตู้ให้เล่นค่อนข้างบางตาทีเดียว ครั้นจะพอร์ตลง Dreamcast ณ ตอนนั้นก็ใกล้โบกมือบ๊ายบาย จนท้ายที่สุดเมื่อยุคสมัยของอาร์เคดจบลง Red Earth ก็หายต๋อมไปแล้ว เหลือเพียงตัวละคร Leo และ Tessa ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมและมีการนำไปแจมตามเกมต่างๆ อยู่บ้าง ส่วนบอสบางตัวก็ไม่มีการนำกลับมาให้เล่นหรืออัปเดตเลย แน่นอนว่าทุกอย่างจึงเลือนลางจางหายไปตามกาลเวลา รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การเล่นเกมที่เปลี่ยนไปเมื่อเครื่องเล่นเกมคอนโซลยุคหลังมีการประมวลผลที่ดีแซงหน้าบอร์ดอาร์เคด
เดชะบุญ ภายหลัง CAPCOM ตัดสินใจพอร์ตเกมนี้ออกมาวางจำหน่ายบนเครื่องเล่น PlayStation, Xbox, Nintendo Switch รวมไปถึง PC เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของเกมชุด Capcom Fighting Collection พร้อมเพิ่มการสนับสนุนระบบ Online VS. รวมไปถึงการปลดล็อกท่าโจมตีแบบไม่ต้องฟาร์ม EXP อีกต่อไป ดังนั้นใครที่อยากไปสัมผัสความสนุกก็ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกลแล้ว ท้ายที่สุดนี้เพื่อนๆ คนไหนที่เคยได้มีโอกาสเล่นเกมนี้แบบอาร์เคดมาก่อน อยากเล่าเรื่องราวน่าสนใจอย่างไรก็ลองมาแบ่งปันกับ ThisIsGame Thailand ได้ เพราะต้องยอมรับเลยว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมคัลท์สุดหายากจริงๆ ใครที่รู้จักมักจี่มาก่อนต้องยกนิ้วให้เลยนะครับเนี่ย