ผู้กำกับ Xenoblade Chronicles X มองว่าการเซ็นเซอร์นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
ส่วนตัวไม่ได้สนใจ และคิดว่าคนที่ 'เล่นเกมจริงๆ' จะได้รับประสบการณ์ที่ดี
ดูเหมือนว่าช่วงนี้เกมเมอร์บางส่วนที่กำลังมีรสนิยมฝักใฝ่ฝ่ายขวาจัดแบบที่ว่าเห็นข่าวไหนเป็นต้องงับ กำลังจับจ้อง Xenoblade Chronicles X เวอร์ชันรีมาสเตอร์กันอยู่เลยครับ เพราะว่าช่วงที่มีการเปิดตัว ได้มีผู้ที่ตั้งข้อสังเกตว่าตัวเกมอาจใช้เวอร์ชัน US ของ Wii U เป็นต้นแบบ ที่หมายความว่าเครื่องแต่งกายและฟีเจอร์บางอย่างจะถูกปรับแก้ออกไป เช่นชุดของ Elma และตัวเลือกปรับขนาดหน้าอกเป็นต้น ทำเอาถึงกับหัวร้อนกันแบบงงๆ
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ได้เริ่มนำการสัมภาษณ์ของคุณ Tetsuya Takahashi ผู้กำกับของเกมโดย Kotaku ในปี 2017 ที่เป็นช่วงเวลาหลายเดือนให้หลังจากการเปิดตัวเกมบน Wii U ตั้งแต่เวอร์ชันแรกมาเปิดเผยกันอีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งของการพูดคุยได้เิดเผยให้เห็นว่าเขาไม่ได้มองเรื่องของการเซ็นเซอร์เป็นสิ่งที่ใหญ่โตอะไรขนาดนั้น และเขาเองก็ทราบดีว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงในโปรดักซ์ของตัวเองจริงๆ ทั้งนี้ ด้วยลักษณะนิสัยที่ตัวเองไม่ได้ยึดติดอะไรมากก็ทำให้เขาคิดว่า ‘ไม่มายด์’ ที่ต้องปรับเปลี่ยนเลย
ในส่วนของฟีเจอร์การปรับขนาดหน้าอก ซึ่งอาจครอบคลุมไปถึงการเปลี่ยนสกินของตัวละครที่ทำให้วาบหวิวน้อยลงในพื้นที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้น เขาก็ได้ให้ความเห็นต่อด้วยว่าในฐานะผู้พัฒนาและ เขายืนยันว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมดีที่จะต้องปรับแก้ตามวัฒนธรรมอยู่แล้ว และสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญก็คือการที่ผู้เล่นที่ ‘เล่นเกมจริงๆ’ จะสามารถสนุกกับเกมได้โดยไม่มีความรู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่แย่ ดังนั้นหากเป็นการแก้เพื่อผลบวก ย่อมเป็นสิ่งที่ชอบธรรมและควรทำ
ความน่าสนใจก็คือการปรับเปลี่ยนเหล่านี้คือการปรับมาตรฐานเพื่อให้ผลงานเกมสามารถยืนได้บนพื้นที่ระดับโลกที่มี Global Citizen หรือประชากรโลกอาศัยอยู่ร่วมกัน แน่นอนว่าด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกันเช่นการกระทำใดๆ อันส่อไปให้เข้าเกณฑ์ว่าคือการกดทับเพศที่ยังคงเป็นเรื่องคาราคาซังในหลายพื้นที่ ก็จะต้องปรับแก้เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนสามารถสนุกได้โดยไม่กระอักกระอ่วน โดยในเกมที่มีความถูกต้องทางการเมืองจัดๆ อย่าง Baldur’s Gate III นั้นแม้จะไม่ได้เซนเซอร์ฉากวาบหวิวแต่ก็มีการเลี่ยงในส่วนของฟังก์ชันปรับแก้อวัยวะเพศให้อยู่ในเมนูที่ต้องกดปุ่มเข้าไปอีกฉาก
อีกเรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับคุณ Tetsuya คือการให้ความสำคัญกับความสนุกในการเล่นเกมเพราะตนก็ต้องการที่จะโฟกัสให้กับ ‘ผู้เล่นที่เล่นเกมจริงๆ’ มากกว่าที่จะมายุ่มย่ามเรื่องการปรับแต่งองค์ประกอบบางส่วนที่อาจมีผลกับความรู้สึกสำหรับผู้เล่นที่ไม่สบายใจ กับวัฒนธรรมอันเป็นปัญหาข้างต้น และถ้าว่ากันตามตรงก็ให้มันรู้กันไปเลยถ้าพอนมไม่ใหญ่แล้วมันจะเล่นเกมไม่สนุก และเกมเมอร์ที่ติดตามเกมนี้แบบเลือดแท้เองก็คงไม่อยากให้เกมมาเป็นเหยื่อบนอินเทอร์เน็ตใช่หรือไม่? ดังนั้นมีความสุขกับมันให้เต็มที่ดีกว่า สำหรับเพื่อนๆ มองเห็นอย่างไรก็มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
เกี่ยวกับ Xenoblade Chronicles X Definitive Edition
เกมโอเพนเวิลด์แนวไซไฟที่บอกเล่าเรื่องราวของยุค 2054 เมื่อมนุษย์โลกได้พบกับสงครามจักรวาลครั้งใหญ่ทำให้พวกเขาต้องย้ายถิ่นฐานออกไป กระทั่งเหลือเพียงผู้รอดชีวิตเพียงหยิบมือที่ก่อตั้งบ้านหลังใหม่บนดาว Mira พร้อมตั้งรกรากรากในพื้นที่ New Los Angeles (NLA) เพื่อช่วยเหลือกันและกัน ขณะเดียวกันก็ต้องต่อกรกับเหล่าเอเลี่ยนต่างดาวด้วย ผู้เล่นจะสามารถสร้างตัวละคร รับเควสต์ต่างๆ อัปเกรดสกิล
ตัวเกมจะเปิดให้เล่นพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 20 มีนาคมของปีหน้าบน Nintendo Switch เท่านั้น พร้อมออกผจญภัยในฉากขนาดใหญ่ด้วยหุ่นรบขนาดมหึมาในรูปแบบ Solo/Co-op ออนไลน์เร็วๆ นี้