
คงมีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่กำลังคาดหวังที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่จากแฟรนไชส์ Elden Ring ในรูปแบบแอ็กชัน Roguelike Co-op ในภาค Nightreign ที่กำลังจะเปิดให้ทดสอบรอบ Network Test กันในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตามหลายคนอาจสงสัยไม่น้อยว่าในเมื่อเกมออกแบบเป็นประสบการณ์มัลติเพลเยอร์แบบนี้แล้ว จะจำเป็นต้องมีทีมมาตะลุยแดนมัชฌิมาด้วยตลอดเวลาหรือไม่ใช่ไหมครับ
มีการยืนยันเรียบร้อยผ่าน IGN ว่าด้วยประเด็นนี้แล้วจากคุณ Ishizaki Junya ผู้กำกับของเกมนี้ว่าผู้เล่นไม่จำเป็นที่จะต้องต่ออินเทอร์เน็ตในการเล่นแต่อย่างใด ดังนั้นเมื่อเป็นเกมที่รองรับการเล่นออฟไลน์ก็หมายความว่าสายเล่นคนเดียวจะเลือกเล่นแบบ Single Player ไปเลยเต็มตัวก็ได้ แต่ถึงอย่างไรโครงสร้างเกมโดยรวมเป็นรูปแบบเซสชันที่สั้นกว่า ดังนั้นเกมเพลย์จะรวดเร็วและอาศัยการต่อสู้แบบร่วมมือกันเพื่อให้เคลียร์ฉาก
ในเมื่อไม่ใช่เกมรูปแบบแคมเปญเนื้อเรื่องขนาดยาวดังนั้นสาย Solo ก็อาจจะรู้สึกว่าเกมไม่ได้มีรายละเอียดลงไปลึกเท่า แต่กระนั้นก็เหมาะกับคนที่อยากเล่นแบบเข้าถึงความรู้สึกแอ็กชันอย่างเต็มตัว แถมรูปแบบศัตรูและจุดเกิดในฉากก็จะสุ่มทั้งหมด นอกจากนี้ตัวละครก็ถูกแบ่งเป็นคลาสชัดเจน ดังนั้นการเล่นออฟไลน์ก็พอเหมาะที่จะใช้เป็นการฝึกซ้อมก่อนลงสนามออนไลน์จริงมากกว่าจะเล่นแบบจริงจัง กระนั้นต้องปรบมือให้ทีมงานที่สามารถทำคอนเทนต์ได้รองรับทั้งผู้เล่นครบทุกสาย ว่าแล้วอย่าลืมมาพบกันในแดนมัชฌิมานะ

เกี่ยวกับเกม Elden Ring Nightreign
เกมรูปแบบแอ็กชัน Souls-like ในธีมดาร์กแฟนตาซีจากโลกฉากหลังของเกมภาคหลักที่ถูกถ่ายทอดใหม่เพื่อประสบการณ์แบบ Co-op Multiplayer โดยเฉพาะ ผู้เล่นจะได้จับกลุ่มกับสมาชิกในทีมรวมสามคน เดินทางไปในแดนมัชฌิมาที่ ณ ตอนนี้ถูกบดบังด้วยภัยคุกคามแห่งความมืดมิดของยามราตรีจนเกิดมอนสเตอร์เลวร้ายบุกรุกเข้ามา ซึ่งคลาสตัวละครต่างๆ จะมีรูปแบบการนำเสนอสไตล์เกมเพลย์ที่ต่างกันด้วย