จากข้อมูลล่าสุดของ Stellar Blade นั้น ตัวเกมจะ “จบ” แบบจบจริงๆ ไม่มีเนื้อหาหลังจบเกม โดยเราจะถูกส่งกลับไปยังพื้นที่ก่อนที่จะเจอลาสบอส ทำให้หมดโอกาสเล่นต่อหลังจากจบเนื้อเรื่องหลัก แถมพอปลดล็อคโหมดความยากสูงขึ้นหลังเคลียร์เกมแล้ว (ซึ่งเป็นเรื่องดี จะได้เพิ่มความท้าทายขึ้นไปอีกขั้น) ก็ดันต้องเริ่มเล่นใหม่ตั้งแต่ต้นอีก
แต่ดีใจได้แล้ว เพราะมีประกาศอัปเดตล่าสุดก่อนวันวางจำหน่ายจริง (ซึ่งจะวางขายในวันที่ 26 เมษายน แต่ตอนนี้หลายร้านก็เริ่มทยอยขายแล้ว) โดยการอัปเดตครั้งนี้เพิ่มโหมด New Game+ เข้ามา ทำให้เริ่มเล่นรอบสองด้วยจุดหมายปลายทางและความท้าทายที่ต่างออกไปเป็นเรื่องน่าสนใจมากขึ้น
“ในโหมด New Game+ อุปกรณ์ทั้งหมด, เงิน, ไอเทม, การพัฒนาตัวละคร, การอัปเกรดโดรน, ทักษะ และ SP ที่คุณได้มาตอนจบเกมก่อนหน้านี้จะถูกนำมาใช้ต่อในรอบถัดไป” ข้อความในเกมอธิบายไว้ “มีเพียงความคืบหน้าของเนื้อเรื่องที่จะรีเซตกลับไปที่ตอนต้นเกม”
พูดง่ายๆ ก็คือเราจะกลับไปที่พื้นที่แรกของเนื้อเรื่องหลักอีกครั้ง แต่ตัวละคร Eve จะยังมีความแข็งแกร่งแบบเต็มพิกัดเหมือนในตอนจบเกมรอบที่แล้ว นี่คือจุดสำคัญมาก เพราะระบบอัปเกรดใน Stellar Blade เป็นแนว Horizontal (การเพิ่มความหลากหลายของการต่อสู้)มากกว่าเสริมพลังให้เก่งขึ้นอย่างเดียว นั่นคือเราจะปลดล็อคการโจมตีแบบใหม่ๆ ได้มากขึ้น แต่พลังขั้นพื้นฐานของ Eve ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากมายนัก ซึ่งพอสูญเสียการอัปเกรดเหล่านี้ไปอย่างที่เราคุ้นเคย เช่นการใช้ท่าไม้ตายหรือคอมโบต่อเนื่อง เกมก็จะแค่ลดความสนุกลงมากกว่าที่จะยากขึ้น
โหมด New Game+ จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้พอดี ซึ่งจากรายงานของ GamesRadar ระบุว่าสามารถใช้ไฟล์เซฟของระดับความยากที่ต่ำกว่า ไปเล่นโหมด New Game+ ในความยากระดับสูงได้ด้วย ซึ่งน่ายินดีมากๆ เพราะจะให้กลับไปใช้ท่าโจมตีแบบเริ่มต้นที่จำกัดแบบนั้นอีกรอบก็คงน่าเบื่อแย่ แต่เราคงพร้อมสู้กับบอสแต่ละตัวอีกครั้งแบบท้าทายกว่าเดิมมากกว่า เพราะผ่านประสบการณ์ต่อสู้จากครั้งแรกไปแล้ว โหมด New Game+ จะเพิ่มชั่วโมงการเล่นซ้ำรอบสองให้ Stellar Blade ได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่เราคุ้นเคยกับความแปลกๆ ของตัวเกมแล้ว เรียกว่าเป็นการอัปเดตที่น่าชื่นชมเลยทีเดียว ต่อไปขอโหมดสู้บอสอย่างเดียวเลยได้มั้ย!?
