ผลการวิจัยชี้ PS5, Xbox Series X กินไฟเมื่อเล่นเกมเจนใหม่
แต่น้อยกว่าเครื่องเกมรุ่นก่อนเมื่อเล่นเกม Backward compatibility
นับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่คอนโซลยุคใหม่ทั้ง PS5 และ Xbox Series X จะกินไฟมากกว่าเครื่องคอนโซลเจนก่อนหน้าเนื่องจากความต้องการในรันเกมระดับ Next Gen ที่มากกว่าเดิมโดยอ้างอิงข้อมูลจากสภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ (หรือ NRDC) แต่ถึงกระนั้นทาง NRDC ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเครื่องคอนโซลเจนใหม่ทั้งสองนี้จะกินไฟน้อยกว่าเครื่องเจนเก่าในขณะที่เล่นเกมในรูปแบบ backward compatibility (หรือก็คือเล่นเกมของเจนก่อน) และระหว่างการใช้แอปสตรีมมิ่งต่างๆ
จากการวิเคราะห์ของ NRDC ปี 2013 ในช่วงที่คอนโซลใหม่ในเวลานั้นทั้ง Xbox One และ PS4 ก็ต่างได้รับคำชมเกี่ยวกับ Low Power Mode ที่คอนโซลทั้งสองค่ายมีเหมือนกัน โดยโหมดประหยัดไฟนี้จะกินไฟเพียง 1 วัตต์ในระหว่าง Standby และใช้เวลาเพียง 10 – 15 วินาทีเท่านั้นในการเปิดใช้งานต่อได้ตามปกติแต่ในช่วงนั้นทาง NRDC ก็ได้ตั้งคำถามกับทั้งทาง Sony และ Mircrosoft ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ใช้โหมดประหยัดไฟเป็นโหมดพื้นฐานของเครื่องตั้งแต่แรก
แถมโหมด Instant On ของเครื่อง Xbox รุ่นใหม่นี้ยังกินไฟสูงถึง 10 วัตต์ในระหว่าง Standby หรือถ้าหากอิงข้อมูลจาก NRDC ที่ประมาณการการใช้พลังงานไว้ล่วงหน้าจนถึงปี 2025 กำลังไฟที่ใช้ไปก็อาจสูงได้ถึง 4 พันล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งมันก็เทียบเท่ากับกำลังไฟที่ใช้สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินเลยทีเดียว
และผู้ชนะในครั้งนี้ก็คือ PS5 เนื่องจาก Stand by mode ของเครื่องเกมที่กินไฟ 1 วัตต์หรือน้อยกว่าพร้อมยังใช้เวลาในการเปิดเครื่องเล่นต่อเพียงแค่ 10 – 15 วินาทีแถมตัวเครื่องก็กินไฟเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นหากมีการชาร์จจอยไว้ผ่านสาย USB แถมตัวจอย Dualsense ของ PS5 ก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เนื่องจากมันใช้แบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จใหม่ได้เรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับจอยของ Xbox ที่ใช้แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้งเหมือนเดิม (หากต้องแบตเตอรี่แบบใช้ซ้ำได้ต้องซื้อแยก)
นอกจากนั้น Setting พื้นฐานของ PS5 จะถูกตั้งไว้ให้ตัวเครื่องปิดลงแบบอัตโนมัติหลังจากที่เปิดเกมทิ้งไว้ครบ 1 ชั่วโมงและในกรณีของแอปสตรีมมิ่งต่างๆ ที่ 4 ชั่วโมง (สามารถปรับเองได้) ซึ่งมันจะใช้พลังงานรวมทั้งหมด 70 วัตต์แต่หากลองเอามาเทียบกันเมื่อเราใช้งานแอปสตรีมมิ่งทั้งใน PS5 และ Xbox Series S มันก็กลับกินไฟน้อยกว่าเครื่องเจนก่อนหน้านี้อย่างPS4 ที่ใช้พลังงานที่ 90 วัตต์ขณะใช้งานแอป Netflix และของ Xbox One ที่ 74 วัตต์และในส่วนของคอนโซลยุคใหม่อย่าง Xbox Series S จะอยู่ที่ 31 วัตต์ (และ 41 ในกรณีของแอป Amazon Video) และของ PS5 ที่ 68 – 70 วัตต์ (ทั้งของ Netflix และ Amazon Video)
ในกรณีของการเล่นเกมเจนใหม่บนเครื่องคอนโซลทั้งสองจะใช้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 160 – 200 วัตต์แต่หากมันเป็นเกมที่เล่นบนระบบ Backward Compatability กำลังไฟที่ใช้ก็จะลดลงอย่างมาก ซึ่งโดยรวมมันก็ประหยัดได้มากกว่าการเล่นเกมบนคอนโซลเจนเก่าอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกในการเล่นเกมยุคใหม่เลยก็ว่าได้