
ในช่วงที่ผู้เล่นเกม Chaos Zero Nightmare เริ่มเข้าสู่ช่วงกลางเกม หลายคนอาจพบว่าการจัดทีมให้เหมาะสมคือกุญแจสำคัญในการผ่านด่านยาก ๆ ได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่ยังมีตัวละครจำกัด การเลือก “ทีมที่เข้าขากันได้ดี” ตั้งแต่ต้นจะช่วยประหยัดเวลา ฟาร์มได้ไวขึ้น และยังใช้เป็นแนวทางรีโรลล์สำหรับผู้เล่นใหม่ได้ด้วย
ล่าสุดมีการเปิดเผย “9 ทีมแนะนำเบื้องต้น” สำหรับสายสู้ด่านหรือผู้ที่ต้องการทีมพื้นฐานที่เล่นได้ทุกสถานการณ์ โดยแต่ละทีมจะเน้นจุดเด่นเฉพาะตัวของคาแรกเตอร์ระดับ 5 ดาว พร้อมซัพพอร์ตที่ช่วยดึงศักยภาพสูงสุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นสายดาเมจหนัก สายคิลบอส หรือทีมสมดุลที่รับมือได้ทุกสถานการณ์
9 ทีมน่าใช้งานเบื้องต้นใน Chaos Zero Nightmare
| ตัวละครหลัก (5 ดาว) | ตัวละครร่วมทีม | อธิบาย |
| Haru | Mika / Cassius | ทีมที่ดีที่สุดของ Haru คือการจับคู่กับ Mika และ Cassius เพื่อเสริมความต่อเนื่องของการใช้สกิล Anchor Shot ให้ได้บ่อยที่สุด Mika และ Cassius จะช่วยเพิ่ม AP และหมุนการ์ดในมือ เพื่อให้ Haru ใช้สกิลหลักได้ต่อเนื่อง จุดเด่นของทีมนี้คือ “การทำดาเมจสูงสุดในเวลาสั้น” พร้อมยังคงความอยู่รอดได้ดีจากการซัพพอร์ตของทั้งสองตัว |
| Hugo | Mika / Tressa | ทีมนี้ออกแบบมาให้เข้ากับระบบ Commence the Hunt ของ Hugo ที่เพิ่มพลังโจมตีทุกครั้งเมื่อมีการใช้การ์ดโจมตี Mika จะคอยป้อนสกิลเพื่อเร่งจำนวนสแตค ขณะที่ Tressa จะใช้สกิล Shadow Daggers ทำให้ Hugo โจมตีซ้ำตามจำนวนสแตคที่สะสมไว้ ทีมนี้จึงเป็นสายล่าที่ต่อเนื่องและสร้างดาเมจมหาศาลได้เมื่อจังหวะลงตัว |
| Kayron | Mika / Rei | จุดเด่นของทีมนี้คือความยืดหยุ่น เพราะสามารถสร้างได้สองแนวทางตามการ์ดที่ผู้เล่นมี แบบแรก: ใช้การ์ด 1 Cost ของ Kayron เพื่อเร่งดาเมจต่อเนื่อง แบบที่สอง: เน้นเพิ่มดาเมจจาก Black Hole ผ่านการใช้การ์ดที่ทำให้เกิดการ Card Exhaustion (เผาการ์ดเพื่อเพิ่มพลัง) Mika และ Rei จะช่วยให้การจัดจังหวะการ์ดเป็นไปอย่างราบรื่น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบแนววางแผนเชิงลึก |
| Khalipe | Mika / Beryl | ทีมนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ลงตัวกับสกิล Vulture Ejection ของ Khalipe เพราะ Mika มีอัตราฟื้นฟู AP สูง ขณะที่ Beryl มีการ์ด 2 Cost ที่เข้ากันพอดี ผู้เล่นควรใช้การ์ด 2 Cost ทุกครั้งที่มี Vulture Ejection อยู่ในมือ เพื่อปลดศักยภาพเต็มที่ ทั้งการป้องกันด้วยโล่ (Shields), สกิล Silver Veil, และดาเมจแบบ AoE ที่รุนแรงและมั่นคง |
| Magna | Haru / Mika | ทีมนี้เรียกได้ว่า “รอบด้านที่สุด” เพราะสามารถรับมือได้กับทุกสถานการณ์ Magna จะเป็นตัวหลักในการทำดาเมจวงกว้าง (AoE) และสร้างโล่ป้องกันให้ทีม Mika ทำหน้าที่ฟื้นฟูและลดความเครียด พร้อมคืนค่า AP ส่วน Haru จะรอจังหวะรวบการ์ดเพื่อปล่อย Anchor Shot เต็มพลังในฐานะตัวคิลบอสประจำทีม เป็นทีมที่เล่นง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูงมาก |
| Mei Lin | Mika / Selena | ทีมนี้เน้นความเร็วและความต่อเนื่องในการทำดาเมจ Mei Lin ใช้สกิล Passion Weakness และการโจมตีหลายจังหวะ (Multi-hit) เพื่อสร้างความเสียหายต่อ HP และ Tenacity ของศัตรู พร้อมฟื้นฟู AP ระหว่างสู้ Selena จะช่วยเพิ่มความเสียหายด้วย Mark ส่วน Mika จะรับหน้าที่ฮีลและเสริม AP ทีมนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดาเมจคงที่และยืนระยะยาวได้ดี |
| Renoa | Cassius / Rei | ทีมของ Renoa โดดเด่นด้วยการสะสม Dirge Bullets จากทั้งในมือและกองการ์ดที่ทิ้งไป เพื่อนำมาใช้กับสกิล Last-Ditch Assault หรือ Black Thorn เพื่อสร้างดาเมจเป้าหมายเดี่ยวระดับสูงสุด เหมาะกับการล่าบอสหรือศัตรูเดี่ยว แต่ก็ยังมีศักยภาพในการจัดการศัตรูกลุ่มทั่วไปได้ดี ทีมนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสายโจมตีหนักที่เล่นง่ายแต่แรงจริง |
| Rin | Orlea / Cassius | ทีมนี้ใช้ความสามารถของ Orlea ที่มีสกิลการ์ดหลากหลาย ร่วมกับ Cassius ที่ช่วยจัดการ์ดเป้าหมาย (Target Draws) ทำให้ Rin สามารถเปิด Dark Cloud Stance ได้ง่ายและต่อเนื่อง เมื่อเปิดได้แล้ว Rin จะสร้างดาเมจเป้าหมายเดียวรุนแรงมาก เหมาะกับการจัดการศัตรูระดับหัวหน้าโดยเฉพาะ |
| Veronica | Magna / Nia | ทีมนี้โดดเด่นด้วยความสามารถในการสร้าง Ballista จำนวนมากในมือ โดยอาศัย Nia และการ์ด Epiphanized Sir Kowalski ช่วยเพิ่มอัตราการสร้างบัลลิสตา เมื่อถึงจังหวะที่ Veronica สะสมได้มากพอ เธอจะสร้างดาเมจมหาศาลในตอนจบเทิร์น Magna จะช่วยป้องกันทีมและเสริมดาเมจวงกว้าง ส่วน Nia จะทำให้รอบการ์ดหมุนไวขึ้น Veronica ยังสามารถเป็น Sub-DPS ในหลายทีมได้ เพราะสกิล Repose และ Sir Kowalski ช่วยให้เธอจั่วการ์ดได้มากกว่า 3 ใบต่อเทิร์น |
Chaos Zero Nightmare ถูกพัฒนาโดย Kim Hyung-seok ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Super Creative ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Smilegate โดยทาง Kim Hyung-seok เคยมีผลงานสร้าง Epic Seven เกม RPG มือถือชื่อดังระดับโลก โดยเกมนี้ได้นำเสนอรูปแบบการเล่นแบบใหม่ ที่จะผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตแบบ 2D จาก Epic Seven กับแนวเกม Roguelike ซึ่งมีจุดเด่นคือการตะลุยดันเจี้ยนแบบสุ่ม อีกทั้งยังมาพร้อมกับรูปแบบการเล่นแบบ Turn-based, การเคลื่อนไหวบนพื้นที่แบ่งเป็นช่อง และระบบตัวละครตายถาวร







