5 สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเกมออนไลน์สมัยนี้ไม่น่าเล่นเหมือนสมัยก่อน
โลกเสมือนหายไป อะไรๆก็ง่ายไปหมด
เพื่อนๆที่เล่นเกมออนไลน์มาตั้งแต่ยุคแรกๆมาจนถึงยุคปัจจุบันก็คงจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของเกมยุคนี้กับยุคก่อนใช่ไหมครับ ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเกมออนไลน์ยุคใหม่นั้นเล่นแล้วมันไม่ใช่ ไม่สนุกอย่างที่คิด เบื่อๆอย่างบอกไม่ถูก (ซึ่งไม่ขอเหมารวมว่าทุกเกมหรือเกิดขึ้นกับทุกคนนะครับ) ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สัมผัสได้แบบนั้น ก็เลยได้ลองนั่งคิดวิเคราะห์ดูสักพัก ซึ่งก็ได้คำตอบคร่าวๆ 5 ข้อ ดังนี้
1. เสน่ห์ของโลกเสมือนจางหายไป
ผมเป็นคนนึงที่รู้สึกว่า เสน่ห์ของเกมออนไลน์คือ “การจำลองตัวเราไปอยู่ในโลกเสมือน” ซึ่งในนั้นก็จะมีสกิล สังคม มอนสเตอร์ เมือง ดันเจี้ยน โดยเฉพาะการพบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆในเกมที่ต่างคนต่างมาเจอกันแบบไม่ได้นัดหมาย ทำให้การทำความรู้จักและมีปฏิสัมพันธ์กับคนในเกมจึงเป็นเรื่องที่มีเสน่ห์อย่างมาก แต่ด้วยเทคโนโลยี Software ที่ใช้ในการสื่อสารได้ก้าวเข้ามามีบทบาทกับเกมออนไลน์ ทำให้เสน่ห์เรื่องนี้ค่อยๆเลือนหายไป จากการที่เราล็อคอินตัวละครทิ้งไว้เพื่อรอเจอเพื่อนในเกม กลายเป็นเราต้องนัดเพื่อนก่อนเข้าเกมว่า วันนี้เล่นเกมกัน แถมยังต้องคิดว่าถ้าเล่นเกมนี้จะทำอะไร ทั้งๆที่เมื่อก่อนเราไม่เห็นจะต้องคิดอะไรพวกนี้เลย แค่มานั่งเจอเพื่อนแล้วคุยกันทั้งวันก็ทำได้ อีกทั้งการ Call คุยกันแบบได้ยินเสียงนั้นทำให้การเล่นเกมสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันกลับทำให้ขาดเสน่ห์บางอย่างที่การพิมคุยเท่านั้นที่มี ผมเลยคิดว่า “ความสนิทแบบห่างๆ” ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่สักเท่าไหร่นะ
2. ประสบการณ์ของเราเพิ่มมากขึ้น
“ความอยากรู้อยากเห็น” คือแหล่งกำเนิดความสนุกอย่างหนึ่งในเกมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นดันเจี้ยนที่เรายังไม่เคยไป บอสใหม่ๆที่ยังไม่เคยได้สู้ ของใหม่ๆ มอนสเตอร์ใหม่ๆ แพทช์ใหม่ๆ คำว่า “ยังไม่เคย” นี่แหละที่ทำให้เราอยากเล่นและยังสนุกกับเกมๆนั้นอยู่ แต่ด้วยการที่เราเล่นเกมมานานจึงทำให้เราได้รู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า Platform ของเกมต่างๆมามากมายว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ไม่ว่าจะเกมไหน ถึงชื่อมอนสเตอร์ ชื่อไอเทม ชื่อเมืองจะต่างกัน แต่สุดท้ายแก่นหรือ Theme ของสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก ทำให้การที่เราเล่นเกมใหม่ๆแล้วไม่สนุกเหมือนแต่ก่อนก็คงจะเป็นเพราะว่าเกมใหม่ๆที่ออกมานั้นไม่ได้แตกต่างไปจากเกมที่เราเคยเล่นในอดีตเลย ดังนั้นความประทับใจแรกที่เคยสัมผัสจึงถือเป็นจุดสูงสุดของความทรงจำไปซะแล้ว
3. Airtime หมดไป Item Mall เข้ามาแทนที่
เป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ เพราะในฐานะผู้เล่นเอง ใครๆก็คงไม่อยากจะเติมเงินเพื่อซื้อเวลาเล่นเกม (ยิ่งสมัยก่อนแค่จ่ายเงินเล่นร้านก็ถือว่าสาหัสแล้ว) ค่ายเกมต่างๆก็เริ่มที่จะเอาระบบ Airtime ออก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจกับทางค่ายเกมที่สูญเสียแหล่งรายได้สำคัญไป ทำให้วิธีหาเงินของค่ายเกมเปลี่ยนเป็น Item Mall หรือภาษาปากเราจะเรียกว่า “ของแคช” ซึ่งจะเป็นของที่สนับสนุนการเล่นให้ง่ายขึ้นหรือเป็นคอสตูมสวยๆงามๆ ถึงแม้ว่ามองว่าตาอาจจะรู้สึกว่าของพวกนี้ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก หรือไม่คุ้มหากต้องจ่ายเงินเติมเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีผู้เล่นไม่น้อยที่ทุ่มเงินกับสิ่งเหล่านี้จนทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้เล่นสายเติมกับสายฟรี ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “lnwTrue” ขึ้นมาในสังคมออนไลน์ จึงทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกว่าเล่นไปก็ไม่สนุกหรอก ตราบใดที่ยังมีระบบ Item Mall หรือมี lnwTrue อยู่
4. อะไรๆ ก็ง่ายไปหมด
ทุกอย่างมันง่ายและเอื้ออำนวยต่อการเล่นเกมซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการสมัครไอดี การซื้อบัตรเติมเงิน หรือระบบการเล่นที่เล่นง่ายมากๆ ซึ่งเอาจริงๆมันก็เป็นผลดี แต่ส่วนตัวผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ “เด็กเกรียน” เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ระบบสังคมเกมออนไลน์ในภาพรวมนั้นแย่ลง เมื่อเทียบกับสมัยก่อนนั้นอะไรก็วุ่นวายไปหมด ไม่มีแบบฟอร์มตายตัว ไม่มีคนทำเป็นตัวอย่าง ไม่มีไกด์ใน Youtube แค่อยากเล่นเกมออนไลน์เกมนึงต้อง สมัครอีเมลใหม่ ต้องหาเลขบัตรประชาชนที่ไม่เคยคิดจะจำ แถมบัตรเติมเงินเกมก็ยังมีเฉพาะร้านเกมที่ร่วมรายการอีก ไม่มี App มือถือที่กด 2-3 ทีเงินก็เข้าระบบแล้ว ด้วยความง่ายเหล่านี้จึงทำให้จำนวนน้องๆที่ยังไม่มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่ดีพอเพิ่มมากขึ้น และทำให้ผู้คนที่เล่นเกมอยู่เกิดความเอือมระอาจนเลิกเล่นไป
5. คนเริ่มจับกลุ่มกันเป็นทีม
เมื่อผู้เล่นมีประสบการณ์และความรู้มากยิ่งขึ้น ก็ทำให้พวกเขารู้ว่าการรวมตัวกันเป็นกลุ่มนั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้มีทีมที่ใช้ทำสิ่งต่างๆภายในเกม แลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยกันหาของ ล่าบอส กิลด์วอร์ และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นของระบบสังคมในเกมออนไลน์ไม่ว่าจะเกมไหนๆ แต่สิ่งเหล่านี้แหละทำให้ผู้เล่นที่เป็น Solo Player จำนวนไม่น้อยที่รู้สึกไม่สนุกหรือไม่อยากเล่น ด้วยสภาพที่ว่า ไม่ได้มีเวลาเล่นขนาดนั้น หรือ เข้าหาผู้อื่นไม่เก่ง ทำให้ผู้เล่นสาย Solo นั้นยืนอยู่ในสังคมลำบากขึ้น (แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้นะ)
ผมคิดว่าเพื่อนๆที่รู้สึกเบื่อๆกับเกมออนไลน์ยุคใหม่คงจะมีความรู้สึกคล้ายๆกับ 5 ข้อที่กล่าวมานี้ไม่มากก็น้อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมมองว่ามันเป็นธรรมชาติของเกมออนไลน์ที่หาทางออกได้ยากพอสมควร ถ้าจะมีเกมออนไลน์ยุคใหม่ที่ทำให้รู้สึก WoW! ได้ก็คงต้องเป็นเกมออนไลน์ที่ฉีกกรอบเกมออนไลน์ในปัจจุบันไปพอสมควรเลย โดยเฉพาะระบบการเล่นที่แตกต่างจะทำให้ได้รับความสนใจจากผู้เล่นมากยิ่งขึ้น