Final Fantasy VII: Rebirth จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสงสาร Sephiroth มากกว่าเดิม

ในตอนนี้ต้องบอกเลยว่าคงไม่มีใครที่จะเกิดข้อสงสัยอีกต่อไปว่าเมื่อนำเกม Final Fantasy VII มารีเมคแล้วแบ่งภาคจะทำให้เนื้อเรื่องยืดยาวหรือเปล่า ซึ่งสำหรับภาคที่แล้วก็ใส่มาอย่างเต็มอิ่มพร้อมกิจกรรมใหม่ๆ มากมาย ในขณะที่ภาคนี้เราก็จะเห็นว่าเป็นเกมโอเพนเวิลด์ที่มีสเกลมหึมา ทว่าขณะเดียวกันเนื้อเรื่องก็เป็นสิ่งที่สำคัญและจะมีจุดไฮไลต์ใส่เข้ามาแบบลุ้นจิกเบาะทุกๆ นาที โดยเฉพาะโอกาสที่เราได้เห็น Sephiroth มากขึ้น

ล่าสุด ในบทสัมภาษณ์ใหม่ทาง Game Informer ได้มีการเปิดเผยจากคุณ Naoki Hamaguchi ถึงประเด็นของตัวละครนี้ด้วยว่าที่จริงแล้วเกมภาค VII Rebirth ในชุดนี้ ได้ออกแบบมาให้ผู้เล่นมีความรู้สึกผูกพันกับตัวละคร Sephiroth ด้วยเพราะปกติในเวอร์ชันดั้งเดิมเรารู้เพียงแค่ว่าเป็นวายร้ายและเห็นแค่ความเท่จนเกิดเป็นด้อม ทว่าด้วยเทคโนโลยีและการเล่าเรื่องที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้ทีมงานมีโอกาสลงลึกไปยังปูมหลังผ่านสายตาของ Sephiroth จนจุดที่เป็น ‘แรงจูงใจสู่การเป็นวายร้าย’ เด่นชัดมาก

เขายังกล่าวขำๆ ต่อด้วยว่าระหว่างที่ออกแบบเนื้อเรื่องของ Sephiroth เองทีมงานยังรู้สึกเสียใจและเฟลไปกับการที่เจ้าตัวต้องเจอกับเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ตัวเองเลือกเส้นทางชีวิตไปในทางที่เหนือการคาดเดา เห็นแบบนี้แล้วคำว่า Rebirth อาจจะเป็นเรื่องของ Sephiroth ที่เคยเป็นวีรบุรุษแต่ถือกำเนิดใหม่เป็นปีศาจร้ายก็ได้ และทีมงานยังยืนว่าสีหน้าของตัวละครในภาคนี้ถูกถ่ายทอดออกมาได้เจ็บปวดจริงๆ จนไม่น่าแปลกใจที่ผู้เล่นจะรู้สึกผูกพันและจดจำเขายิ่งขึ้น ว่าแล้วก็อยากเห็นมุมมองใหม่ๆ จากตัวละครนี้แล้ว เหลืออีกเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นครับ

Final Fantasy VII: Rebirth เป็นเกมชุดที่สองของไตรภาคการรีเมคเกม RPG ยอดเยี่ยมโดยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Cloud และผองเพื่อนที่ต้องตามล่า Sephiroth นักดาบสุดอำมหิตที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว โดยเกมจะพาผู้เล่นเดินทางในแผนที่ที่มีสเกลยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมกับความมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคยด้วยขุมพลังของ PlayStation 5 นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว ผู้เล่นเองก็จะได้ดำดิ่งไปยังประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่างๆ เรียนรู้ความเป็นมาและร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ถาโถมเข้ามา เกมมีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่องเล่น PlayStation 5 ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024