Final Fantasy VII: Rebirth ออกแบบให้ทุกรอบการเล่นมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน
แผนที่ของเกมจะกว้างใหญ่จนแต่ละคนมีการผจญภัยที่แตกต่างเฉพาะตัว
ว่าด้วยการออกแบบเกมในรูปแบบโอเพนเวิลด์กับซีรีส์ Final Fantasy ก็คงไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่มากนัก เพราะในเกมภาคออนไลน์ทั้ง XI และ XIV ก็ล้วนนำเสนอโลกขนาดใหญ่ที่ให้ทุกคนเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ ขณะที่ภาค XV แม้จะไม่เป็นโลกกว้างเต็มตัวแต่ก็ให้อิสระสำหรับผู้เล่นในแชปเตอร์เพื่อเก็บเลเวลและสำรวจความลับผ่านการรับเควสต์หลัก – รองที่มีให้เล่น
ทั้งนี้ทั้งนั้น Final Fantasy VII: Rebirth ถือเป็นเกมภาคหลักชุดแรกที่ได้รับการโฆษณาด้วยแนวคิดการสร้างเกมโลกเปิดแบบเต็มตัวแม้จะเป็นภาครีเมคก็ตาม ซึ่งเราจะเห็นว่าทีมงานมักพูดถึงองค์ประกอบหลักว่าเนื้อหาของเกมมีจุดเทียบเท่ากับช่วงที่ผู้เล่นสามารถสำรวจโลกในภาคต้นฉบับ และภาคนี้จึงนำมาต่อยอดเป็นโลกโอเพนเวิลด์ อย่างไรเสียเราก็ยังไม่เห็นภาพดีสักเท่าไรว่าสเกลจะเป็นระดับไหน โดยล่าสุดก็มีความคืบหน้ามาให้ติดตามแล้ว
คุณ Tetsuya Nomura หัวเรือใหญ่ของโปรเจ็กต์ Final Fantasy VII ทั้งหมดได้ให้สัมภาษณ์ผ่าน Game Informer ว่าด้วยระบบแผนที่โลกในเกมว่า ผู้พัฒนาต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกกับการสำรวจโลกที่กว้างใหญ่ จึงออกแบบให้โลกในเกมมีคอนเทนต์เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนสามารถเริ่มการผจญภัยตามเส้นทางที่ต่างกันได้และแม้โครงเรื่องจะมีความเหมือนกันก็ตาม นั่นคือ ผู้เล่นต้องพบกับ Yuffie จากนั้นไปยังสถานที่ต่างๆ แต่ก็อาจพบ NPC ที่พูดถึงสถานที่ที่ไม่ได้มีบทหลักในเนื้อหาเป็นต้น
เมื่อเกิดอยากจะไปติดตามเรื่องราวเหล่านั้นเกมก็จะเปิดโอกาสให้เดินทางตามความต้องการจริงๆ รู้ตัวอีกทีเราอาจจะพบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่ที่แปลกตากว่าเดิม และมีประสบการณ์จากการเล่นที่ไม่เหมือนกัน โดยนอกเหนือจากไซด์เควสต์ทั่วไปแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ทีมงานอยากให้ทุกคนได้ลองสัมผัสก็คือเควสต์ที่เจาะลึกไปยังปูมหลังของตัวละครต่างๆ ภายในทีมนั่นเองครับ
Final Fantasy VII: Rebirth เป็นเกมชุดที่สองของไตรภาคการรีเมคเกม RPG ยอดเยี่ยมโดยพูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Cloud และผองเพื่อนที่ต้องตามล่า Sephiroth นักดาบสุดอำมหิตที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว โดยเกมจะพาผู้เล่นเดินทางในแผนที่ที่มีสเกลยิ่งใหญ่ขึ้นพร้อมกับความมีชีวิตชีวายิ่งกว่าที่เคยด้วยขุมพลังของ PlayStation 5 นอกจากเนื้อหาหลักแล้ว ผู้เล่นเองก็จะได้ดำดิ่งไปยังประวัติเบื้องหลังของตัวละครต่างๆ เรียนรู้ความเป็นมาและร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่ถาโถมเข้ามา เกมมีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่องเล่น PlayStation 5 ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024
