6 สิ่งที่ทำให้คุณเลือกเล่นเกม Single Player เกมเดิมซ้ำ ๆ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน เรื่องของการเล่นเกมนี้ก็เป็นสิ่งที่เกมเมอร์อย่างเรา ๆ นั้นผูกพันละก็ใช้เวลากับมันค่อนข้างเยอะ โดยเกมก็จะมีหลายแบบ หลายประเภทนะครับ เกมมือถือ เกมกาชา เกม Multiplayer ไปจนถึงเกม Single Player ซึ่งในส่วนของเกม Single Player นั้นก็เป็นเกมที่ได้รับความนิยมพอสมควร เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกมระดับ AAA ที่กราฟิกสวย เกมเพลย์สนุก เนื้อเรื่องแน่น ๆ ทำให้ผู้เล่นอินกันได้หลายเกมเลยทีเดียว แต่ก็มีหลายครั้งครับที่เราเข้ามาเล่นเกมพวกนี้ซ้ำถึงแม้ว่าจะจบไปแล้ว หรือผ่านไปนานแล้วก็ยังโหลดกลับมาเล่นซ้ำอยู่เหมือนเดิม มันเป็นเพราะอะไร เหตุผลเหล่านี้จะตรงกับคุณหรือเปล่า ไปชมกันครับ

1. เล่นจบแล้ว แต่อารมณ์ยังค้างอยู่

สำหรับเกมที่ทำเนื้อเรื่องได้ค่อนข้างดี และอาจจะกินเวลาชีวิตผู้เล่นมาหลายสิบชั่วโมง อาจจะทำให้ผู้เล่นนั้นเกิดอาการอินจนอารมณ์ค้างได้ง่าย ๆ อารมณ์เหมือนกับว่า “เอ๊ะ…จบแล้วหรอ” มันจะรู้สึกว่ายังไม่อยากจบเลย เล่นต่ออีกนิดละกัน ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม เนื้อเรื่องเหมือนเดิม เกมเพลย์เหมือนเดิม ไม่มีคอนเทนต์อะไรใหม่มาเพิ่ม เราก็อาจจะเลือกเล่นเกมนี้เรื่อย ๆ เพราะอารมณ์ในเกมมันยังค้างอยู่ ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ กับเกมที่เราชอบมาก ๆ ครับ และพอเวลาผ่านไป อารมณ์ที่ตกค้างนี้จะค่อย ๆ หายไปตามกาลเวลา ซึ่งตอนนั้นจะเป็นช่วงที่เรา Move On ไปเกมอื่นได้ครับ

2. เก็บตกข้อมูลที่อาจจะพลาดไปในเนื้อเรื่อง

ในส่วนของข้อมูลเกมนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรากลับมาเล่นซ้ำถึงแม้ว่าจะจบไปแล้ว อาจจะเป็นข้อมูลที่เรารู้ว่าเราตกหล่นเอง หรืออาจจะเป็นข้อมูลที่เราไปหาเผื่อว่าจะขาดตกบกพร่องตรงส่วนไหนบ้าง บางคนอาจจะเน้นไปที่ Side Quest ที่ยังไม่ทำ บางคนอาจจะชอบเก็บ Data Files เพื่ออ่านข้อมูลของเกมผ่านการบอกเล่าของ NPC หรือบางคนอาจจะชื่นชอบการสะสม Achievement เพื่อนำไปประดับหน้า Profile ของ ID หรือแม้แต่การสำรวจโลกกว้างถ้าเกิดว่าเกมนั้นเป็น Open World ว่าเราพลาดคอนเทนต์อะไรที่เกมซุกซ่อนอยู่หรือเปล่า ซึ่งมันจะเป็นความสนุกอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่อให้จบเกมไปแล้ว เราก็ยังเล่นเกมเดิมซ้ำได้อยู่ครับ

3. ตั้ง Challenge ให้กับตัวเอง

เวลาที่เราเล่นเกมไหนแล้วอินมาก ๆ มันไม่ใช่แค่อินส่วนของเนื้อเรื่องเท่านั้น แต่ยังมีการอินในส่วนของเกมเพลย์อีกด้วย ยิ่งถ้าเกมไหนมีความท้าทาย มีความยากขึ้นมาสักหน่อย เราก็อาจจะตั้ง Challenge ให้กับตัวเองได้ ถึงแม้ว่าเกมจะไม่ได้มีเควสต์ท้าทายให้ทำก็ตาม เช่น ผู้เล่นหลายคนอาจจะตั้งใจไว้ว่ารอบนี้ฉันจะต้องเล่นเกมให้จบภายในกี่ชั่วโมง หรือรอบแรกเราไม่กล้าทำแบบนี้เพราะกลัวจะตาย งั้นรอบนี้เราจะท้าทายมันตรง ๆ เลยละกัน ความรู้สึกที่ได้ท้าทายในสิ่งที่เกมเพลย์รอบแรกไม่สามารถทำได้ มันจะสนุกขึ้นมาทันทีในการเล่นรอบที่ 2 เป็นต้นไป เพราะว่าเราไม่ต้องกังวลแล้วว่าถ้าพลาดแล้วต้องเริ่มใหม่ ความกดดันจะต่ำลงและได้ท้าทายอะไรใหม่ ๆ มากยิ่งขึ้นครับ

4. ชอบมาก ๆ จนเป็นเซฟโซน

เกมบางเกมที่เรารู้สึกอินมาก ๆ เราจะรู้สึกถึงความผูกพันบางอย่างที่ต่อให้ไม่สนุก แต่ก็เล่นเพื่อเป็นเซฟโซนครับ เกมบางเกมมีอายุที่ค่อนข้างยืนยาว บางเกมมีหลายภาคต่อ บางเกมเนื้อเรื่องไม่ได้ต่อกันแต่ก็ยังใช้ชื่อเกมเดิม ผู้เล่นที่รักในซีรีส์จะมีความผูกพันบางอย่าง อาจเป็นความ Nostalgia ในสมัยเด็กว่าเคยเล่นเกมเหล่านี้มา พอโตขึ้นเรามีภาระหน้าที่มากขึ้น เครียดกับสิ่งรอบตัว การเล่นเกมที่เคยผูกพันในวัยเด็กจะทำให้เรารู้สึกถึงความหลังได้ และช่วยปลอบประโลมความรู้สึกแย่ ๆ ได้ ถึงแม้ว่าเราจะรู้ทุกอย่างของเกมนั้น 100% แล้วก็ตาม เพราะบางครั้งเราก็แค่เข้าเกมเพื่อหาที่หลบภัยในจิตใจเท่านั้นครับ

5. อยากลองอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยทำ

เวลาที่เราเล่นเกม ๆ หนึ่งจบแล้ว ในครั้งแรกแน่นอนว่าเราอาจจะยังไม่รู้ทุกอย่างของเกม 100% แต่ถึงแม้ว่าเควสต์หรือปริศนาภายในเกมจะถูกคลี่คลายแล้ว แต่เกมเพลย์บางอย่างเราอาจจะยังไม่ได้ลอง โดยเฉพาะการเล่นเกม RPG ที่มีเรื่องของอาชีพ สกิล ของสวมใส่ และสายการเล่นเข้ามาเกี่ยวข้อง มันสามารถทำให้เราเปลี่ยน Build ใหม่ ๆ ได้ไม่รู้จบ เช่น เล่นรอบแรกอาจจะเล่นนักรบ แต่รอบใหม่อาจจะลองเป็นนักเวทย์ดู หรือสมมุตว่าเราเล่นโจรสายมีดในรอบแรก รอบต่อมาเราจะเล่นโจรเหมือนเดิมแต่เปลี่ยน Build เป็นสายธนูแทน เป็นต้น อะไรแบบนี้จะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมเดิมเปลี่ยนใหม่อยู่ประมาณหนึ่ง ถึงแม้เนื้อเรื่องและคอนเทนต์จะเหมือนเดิม แต่เกมเพลย์ไม่เหมือนเดิมแน่นอนครับ

6. ไม่มีเกมออกใหม่ที่ตรงใจเท่าเกมที่มีอยู่

ข้อนี้เป็นอะไรที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกอยู่ก็เป็นได้ แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นเกมออกใหม่ก็มีอยู่ทุกวัน แต่ไม่ใช่ทุกเกมที่จะเป็นเกมที่ดี และนอกจากเราจะหาเกมที่ดีเจอแล้ว เราต้องหาเกมที่ชอบด้วยและต้องดีด้วย ด้วย Filter ความต้องการของเรามันคัดกรองเกมให้เหลือน้อยลงทุกที มันเลยทำให้เรามองหาเกมที่ใช่สำหรับเราได้ยากขึ้น บางคนไม่คิดมากก็คงจะไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับใครที่อยากเล่นเกมแนวนั้นแนวนี้เท่านั้น อันนี้จะต้องเจอเหตุการณ์ไม่มีเกมเล่นทั้งที่มีเกมออกใหม่เป็นร้อยแน่ ๆ ดังนั้นเวลาที่เราไม่มีเกมเล่น เราก็มักจะหวนกลับไปเล่นเกมเดิม ๆ ที่ความรู้สึกของเราตัดสินแล้วว่าเกมนี้ใช่ เกมนี้ชอบ ถ้าต้องเล่นเกมใหม่ที่ไม่ชอบ ขอเล่นเกมเดิมที่ชอบยังจะดีกว่า

และนี่คือ “6 สิ่งที่ทำให้คุณเลือกเล่นเกม Single Player เกมเดิมซ้ำ ๆ” เป็นยังไงกันบ้างครับ ตรงกับประสบการณ์ของเพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่าเอ่ย ผมเองก็เป็นอยู่บ่อย ๆ นะครับ การกลับเข้าไปเล่นเกมเดิม ๆ ที่เราเคยเล่น เพราะหลัง ๆ มาไม่ค่อยมีเกมที่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละครับ รสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน บางครั้งตัวเราเองยังเปลี่ยนรสนิยมได้ตามกาลเวลาเลย การเล่นเกมเก่าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะเซฟความรู้สึกได้น่ะนะ 🙂