5 แนวเกมยอดนิยมเมื่อนำอนิเมะมาสร้างเกม

อย่างที่รู้กันนะครับว่าวงการเกมกับอนิเมะนั้นมีความใกล้เคียงกันมาก และอนิเมะเองก็สามารถกลายมาเป็นเกมให้เราเล่นได้เหมือนกัน โดยอิงจากเนื้อเรื่องในอนิเมะแล้วเอามาประยุกต์ใช้ในเกม คิดเกมเพลย์ที่มีความเหมาะสมกับแนวเนื้อเรื่อง เอาตัวละครชื่อดังในอนิเมะมาเป็นตัวละครให้เราเล่น ซึ่งการสร้างเกมจากอนิเมะนั้นก็จะพุ่งเป้าไปที่แฟนอนิเมะเป็นหลัก ยิ่งอนิเมะดังเท่าไหร่ก็จะยิ่งการันตีจำนวนผู้เล่นได้เหมือนกัน ดังนั้นเกมที่สร้างจากอนิเมะเลยมีออกมาไม่หยุดหย่อน และนี่ก็คือแนวเกมที่มักจะถูกเลือกใช้เมื่อสร้างเกมจากอนิเมะครับ

1. แนว Fighting

เกมแนว Fighting หรือเกมแนวต่อสู้มักจะเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ เมื่อมีการนำอนิเมะมาสร้างเป็นเกม เนื่องจากจุดเด่นของอนิเมะชื่อดังมักจะมีจุดร่วมกันก็คือการต่อสู้และตัวละครสุดเท่ การที่แฟนอนิเมะได้เล่นตัวละครที่เขาชื่นชอบและได้ต่อสู้กับตัวละครตัวอื่นที่อาจจะไม่เคยประมือกันมาก่อนในอนิเมะก็เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่หลายคนอยากเห็น ได้เห็นท่าโจมตีที่คุ้นเคย ทักษะการเคลื่อนไหวสุดเท่ และส่วนใหญ่จะมีท่าไม้ตายพลิกเกมที่สุดอลังการเสมอ เพราะงั้นแนวคิดที่ว่าเกมที่สร้างจากอนิเมะมักจะเป็นเกม Fighting นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และมีหลายเกมที่เลือกทำแบบนี้ด้วย เช่น JoJo’s Bizarre Adventure: All Star Battle, Kimetsu no Yaiba: The Hinokami Chronicles, Saint Seiya Soldiers Soul เป็นต้น

2. แนว Open World

แนว Open World ก็เป็นอีกแนวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เกมเมอร์ เรียกได้ว่าเกมใหญ่ระดับ AAA นั้นก็แทบจะทำเกมของตัวเองให้เป็นแนวนี้กันทั้งนั้น จนทำให้ยุค ๆ หนึ่งของวงการเกมมักจะมีแต่เกมแนวนี้เกลื่อนตลาด รวมไปถึงเกมที่ถูกสร้างขึ้นมาจากอนิเมะด้วย เนื่องจากอนิเมะหลายเรื่องเองก็มีเนื้อเรื่องที่กว้างมาก แถมบางเกมยังมีระบบกิลด์ ระบบรับภารกิจออกไปทำเพื่อรับรางวัล จึงค่อนข้างเหมาะกับเกมแนว Open World อย่างมาก ยกตัวอย่างเกมอนิเมะที่เป็น Open World ก็ได้แก่ ONE PIECE World Seeker, Naruto: Ultimate Ninja Storm, Dragon Ball Z: Kakarot เป็นต้น

3. แนว RPG

RPG ก็เป็นอีกหนึ่งแนวที่ได้รับความนิยมทั้งจากวงการเกมปกติ และการทำเกมที่มาจากอนิเมะ เนื่องจาก RPG เป็นแนวโรลเพลย์หรือแนวสวมบทบาทอยู่แล้ว การทำเกมจากอนิเมะก็ย่อมมีเนื้อเรื่องที่ตัวละครหลักจะดำเนินไป พอเปลี่ยนมาเป็นเกมก็จะทำให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทเป็นตัวละครหลักของเรื่อง และดำเนินเรื่องไปตามไทม์ไลน์ในอนิเมะ ซึ่งบางเกมก็ออกแบบมาให้มีความพิเศษมากกว่าเดิม โดยการเพิ่มเนื้อหาเฉพาะของเกมลงไปด้วยเพื่อไม่ให้เกิดความจำเจ ยกตัวอย่างเกมที่ทำจากอนิเมะและเป็น RPG เช่น Sword Art Online: Hollow Realisation, Fairy Tail, Steins;Gate เป็นต้น

4. แนว Action

เกมแนว Action เป็นแนวเบสิคที่นิยมใช้กันมากในสมัยก่อน เนื่องจากเป็นแนวเกมที่เข้าใจง่าย เหมาะกับอนิเมะแนวผจญภัย ผ่านด่าน ไม่ต้องมีแมคคานิคอะไรมาวุ่นวายให้มากความ เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรงไม่มีอะไรซับซ้อนหรือไขปริศนา เน้นไปที่การบังคับตัวละครและต่อสู้ให้มันส์ไว้ก่อนก็ใช้เป็นเกมเล่นผ่อนคลายได้แล้วครับ เหมาะกับอนิเมะที่มีการต่อสู้ มีฉากที่บู๊สนุกและตื่นเต้น ยกตัวอย่างเช่นเกม BERSERK and the Band of the Hawk, Attack On Titan, Fist of the North Star: Lost Paradise เป็นต้น

5. แนว Gacha มือถือ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมแนวกาชามือถือเป็นแนวเกมที่มาแรงและได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เวลาที่มีเกมอนิเมะเปิดใหม่บนมือถือก็ไม่วายเป็นเกมแนวกาชาซะเกือบทั้งหมด เนื่องจากว่าเกมแนวกาชาเป็นเกมที่ผู้เล่นสนุกกับการจัดทีม สรรหาตัวละคร ลุ้นกับการเสี่ยงดวง รวมทั้งในด้านผู้พัฒนาเองก็ค่อนข้างที่จะมีเม็ดเงินเข้ามาหมุนเป็นจำนวนมาก เพราะคนเล่นเกมกาชามีความเต็มใจที่จะเติมเงินนั่นเอง และยิ่งถ้าเป็นเกมกาชาจากอนิเมะชื่อดังต่าง ๆ แล้วล่ะก็.. ความอวยตัวละครของผู้เล่นยิ่งกระตุ้นให้อยากเติมเงินเข้าไปอีก เกมอนิเมะบนมือถือเลยกลายเป็นแนวกาชาซะส่วนใหญ่ครับ ยกตัวอย่างเช่น My Hero Ultra Impact, ONE PUNCH MAN: The Strongest, Bleach: Brave Souls เป็นต้น

และนี่ก็คือ “5 แนวเกมที่มักจะถูกเลือกใช้เมื่อสร้างเกมจากอนิเมะ” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ เคยเจอกันมาบ้างไหมครับ จริง ๆ แล้วเกมที่ถูกสร้างจากอนิเมะนั้นก็มีมาตั้งนานแล้ว และมีหลากหลายแนวกว่านี้มาก แต่บางแนวก็เป็นเรื่องเฉพาะทาง เช่น แนวการ์ดเกมถ้าไม่ใช่ Yu-Gi-Oh! ก็คงทำออกมายาก หรือแนวกีฬาถ้าไม่ใช่กีฬาเฉพาะเรื่องก็คงทำออกมายากเหมือนกัน เช่น เทนนิสก็จะเป็น The Prince of Tennis หรือแนวฟุตบอลเราก็อาจจะเคยเห็น Captain Tsubasa เป็นต้น อย่างไรก็ตามเกมที่สร้างจากอนิเมะจะมีมาให้เราเห็นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เราก็มารอลุ้นกันว่าเกมที่สร้างจากอนิเมะจะมีอะไรอีกบ้านในอนาคตครับ