10 เกม Final Fantasy นอกกระแสที่หลายคนอาจไม่รู้จัก
ส่วนใหญ่ทำออกมาแล้ว 'แป้ก' ไม่ประสบความสำเร็จ
หากพูดถึงเกม Final Fantasy เราก็จะรู้ว่าเป็นเกมจากค่าย Square Enix ที่มีภาคอื่น ๆ เยอะมาก ทั้งภาคหลักที่ใช้ชื่อภาคเป็นตัวเลข และภาคเสริมอื่น ๆ อีกมากมาย กระจายอยู่ทุกแพลตฟอร์มเกม ไม่ว่าจะเป็นเกม Console เกมออนไลน์ เกมมือถือ เกมตู้ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ผู้พัฒนาจะจัดลงไป ทำให้ Final Fantasy เป็นซีรีส์ที่โด่งดังทั่วโลกและมีหลายภาคให้เลือกเล่น แน่นอนว่าภาคที่ดัง ๆ มันก็ดีจริง แต่ภาคที่แป๊กแล้วเงียบมันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน เราจะมาพูดถึง Final Fantasy ภาคเหล่านั้นกันครับ ไปดูกันดีกว่าว่าเพื่อน ๆ จะรู้จัก เคยเล่น หรือเคยได้ยินชื่อภาคเหล่านี้กันไหม
1. Final Fantasy Airborne Brigade
Airborne Brigade เป็นภาคมือถือที่มีตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งถือเป็นยุคบุกเบิกของตลาดเกมมือถือ และสมาร์ทโฟนแรง ๆ ที่เอาไว้เล่นเกมยังไม่มีมากนัก เกมภาคนี้เลยทำกราฟิกให้เรียบง่าย น่ารัก สดใส โดยไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามอลังการ ตัวเกมเพลย์มาในรูปแบบของเกม RPG Turn-based บนมือถือในธีมเรือเหาะ เราจะได้เป็นนักรบแห่งแสง (เลือกอาชีพได้) และขี่เรือเหาะออกสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ และต่อสู้กับมอนสเตอร์ในสถานที่นั้น ๆ ครับ
2. Final Fantasy Artniks Dive
Artniks Dive เป็นภาคที่โผล่มาในช่วงปี 2014 เป็นเกมมือถือที่ใช้ระบบต่าง ๆ ของเกม Final Fantasy มารวม ๆ กัน ทั้งการลงดันเจี้ยนแบบ Chocobo Dungeon และตัดฉากเข้าต่อสู้ในรูปแบบของ Turn-based ปกติตามสไตล์ไฟนอล แต่อยู่ในรูปแบบของเกมมือถือ มีเนื้อเรื่องให้ผ่าน มีแผนที่ให้เปิด รวมถึงอีเวนท์ต่าง ๆ ที่จะเข้ามาเป็นระยะ ด้วยกราฟิกภาพแบบ Pixel Art ยุคใหม่ ทำให้ไม่กินสเปคเครื่องแต่ก็ยังสวยงามครับ
3. Final Fantasy Grandmasters
Final Fantasy Grandmasters เป็นเกมมือถือภาค Spin-off ของ Final Fantasy XI ที่เป็นเกมออนไลน์บน PC ด้วยเนื้อเรื่องที่เสริมเข้ามาให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตัวเกมจะเริ่มใช้กราฟิก 3D ยุคใหม่ในช่วงปี 2015 โดยเกมเพลย์จะเป็นรูปแบบของเกม RPG Turn-based ตามแบบฉบับของ Final Fantasy เราสามารถปั้นตัวละครได้ตามต้องการ เลือกคลาส ใส่ของ พัฒนาตัวละครและผ่านเนื้อเรื่อง ถือว่าเป็นเกมที่มีภาพสวยแบบน่ารัก ๆ ในช่วงเวลานั้นครับ
4. Final Fantasy XV: A New Empire
เกมภาคนี้เป็นเกมจากปี 2017 ปล่อยออกมาหลังภาค 15 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่เกมนี้ไม่ใช่เกมแนว Turn-based อย่างที่เกมซีรีส์นี้เป็น หรือไม่ใช่ Action อย่างที่ภาค 15 เป็นด้วย แต่มันคือเกมสร้างเมือง เน้นเรื่องของการบริหารจัดการทรัพยากร เราต้องสร้างเมือง สร้างกองทัพ แล้วทำสงครามกันกับศัตรู ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนการวางแผน คำนวณเวลา และควบคุมสถานการณ์มากกว่า เกมนี้จึงเหมือนแนว Strategy มากกว่า จนเราไม่รู้สึกเลยครับว่ามันคือเกม Final Fantasy
5. Theatrhythm Final Fantasy: All-Star Carnival
เกมนี้ถือเป็นเกมที่มีความคิดสร้างสรรค์อย่างมากในการออกแบบ เพราะมันคือการเปลี่ยน Final Fantasy ที่ทุกคนรู้จักให้กลายเป็น Rhythm Game หรือ Music Game แถมยังเป็นเกมตู้อีกต่างหาก และเกมซีรีส์นี้ก็มีเพลงดี ๆ ดัง ๆ อยู่หลายเพลง การหยิบทรัพยากรเพลงมาใช้ในการออกแบบเกมแนวดนตรีก็ถือว่าใช้ได้ ติดที่ว่ามันเป็นเกมตู้และต้องเล่นใน Game Center เท่านั้น แถมตู้เกมยังไม่ได้จัดจำหน่ายเป็นวงกว้างมากขนาดนั้น เลยทำให้คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้จักครับ
6. Final Fantasy Awakening
หรือเรียกอีกชื่อว่า Final Fantasy Type-0 Online ปล่อยออกมาให้เล่นกันบนมือถือในช่วงท้ายปี 2016 เกมนี้คือการเอาเนื้อเรื่องและตัวละครจากในเกมภาค Type-0 มาทำใหม่ในรูปแบบของเกม MMORPG ด้วยระบบ Online บนมือถือ ส่วนหนึ่งอาจจะมองว่ามันว้าว แต่มองไปมองมาก็รู้สึกเหมือนเป็นเกมจีนแปลก ๆ ด้วยเกมเพลย์ที่เน้นปล่อย Auto ค่ายพลังที่สูงลิ่วหลายล้าน และเหมือนความเทพของตัวละครจะวัดกันที่การเติมเงินเป็นหลัก จึงทำให้ผู้เล่นจำนวนไม่น้อยเลยที่ถอยหลังกับเกม ๆ นี้ครับ
7. Final Fantasy VII G-Bike
Final Fantasy VII G-Bike คือเกมที่จำลองการขับมอเตอร์ไซค์ของคลาวด์ในเมืองมิดการ์ หนีการตามล่าของหุ่นยนต์และมอนสเตอร์จากชินระ อ้างอิงเกมเพลย์มาจากเกมแนว Subway Runinng แต่เปลี่ยนจากการวิ่งเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์แทน โดยเพิ่มระบบโจมตีมอนสเตอร์และการเก็บเกจท่าไม้ตายเข้ามาเพิ่ม แต่เนื่องจากเกมค่อนข้างกินสเปคที่สูงมาก และในช่วงปี 2014 นั้นสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมก็ยังคงมีราคาแพง ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่จับต้องยากระดับนึง จนสุดท้ายก็ปิดตัวลงไปครับ
8. Final Fantasy All the Bravest
เกมภาคนี้ถือเป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำระบบออกมาน่าสนใจ เรียกได้ว่าเป็นเกมเพลย์แบบตะลุมบอนก็ได้ คือเราจะมีนักรบแห่งแสงที่มีคลาสต่าง ๆ ทั้งนักรบ นักเวทย์ โจร ดรากูน บาร์ด และอื่น ๆ อีกมากมาย จับยัดลงทีมได้พร้อมกันหลายสิบตัว แล้วต่อสู้กับมอนสเตอร์ตรงหน้าโดยที่เราไม่สามารถบังคับอะไรได้ สิ่งที่เราทำได้คือคำนวณล่วงหน้า ว่าแต่ละตัวมีสกิลอะไรบ้าง ความเร็วเท่าไหร่ ตีแรงแค่ไหน ใส่ไปกี่ตัวถึงจะเวิร์ค ที่เหลือก็ปล่อยให้ระบบมันรันไปเอง
9. Final Fantasy Dimensions 2
เป็นเกม Final Fantasy ภาคพิเศษบนมือถือที่ครั้งหนึ่งเคยทำเป็นเกมออนไลน์ Free-to-play ในช่วงปี 2016 และปิดให้บริการไปแล้วในช่วงไป 2017 ที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ Final Fantasy Dimensions 2 ก็ทำเป็นเนื้อเรื่องแยกออกมาขายใน App Store ในราคา 549 บาท ซึ่งมียอดดาวน์โหลดไปประมาณ 5 พันคนเท่านั้น หากเทียบกับภาคจ่ายเงินซื้ออื่น ๆ เช่นภาค 7 หรือภาค 4 Remake ที่มียอดขายเกิน 100k ก็ถือว่าไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ครับ
10. Final Fantasy Explorers
หนึ่งในเกมภาค Handheld บนเครื่อง 3DS ปล่อยออกมาในเซิร์ฟ JP ปี 2014 และเซิร์ฟ NA ปี 2016 ด้วยความที่ช่วงนั้นกำลังอยู่ในช่วง Monster Hunter กำลังมาแรง และไฟนอลก็เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “อะไรดัง เราทำหมด” แน่นอนว่าเกมภาคนี้ก็เป็นหนึ่งในภาคที่อ้างอิงเกมเพลย์แบบ Monster Hunter แค่เปลี่ยนธีมมาเป็นไฟนอลเฉย ๆ และแน่นอนว่าไม่ค่อยได้รับความนิยมในไทยซักเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันก็มีเกมนี้บนมือถือที่พอกู้หน้ากลับมาได้บ้าง โดยใช้ชื่อเกมว่า Final Fantasy Explorers Force ในช่วงปี 2018 แต่สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงในช่วง 2019 อยู่ดีครับ
เป็นยังไงบ้างครับกับ “10 เกม Final Fantasy นอกกระแสที่หลายคนอาจไม่รู้จัก” อย่างว่าแหละครับว่าซีรีส์นี้เป็นซีรีส์ที่มีภาคอื่น ๆ ออกมาเยอะมาก ทั้งเชื่อมกับเนื้อเรื่องภาคหลัก และทั้งคิดเรื่องขึ้นมาใหม่ บางภาคก็ฟังดูโอเคแต่บางภาคก็เละเทะพอสมควร โดยเฉพาะการที่ไฟนอลเป็นเกมที่ชอบทำตามเทรนด์ไปเรื่อย แนวเกมไหนกำลังฮิตก็ทำเกมตัวเองให้เป็นแนวนั้น ก็เลยทำให้มีภาคใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ครับ แต่จะดีเรื่องดับก็แล้วแต่ผู้เล่นตัดสินเลยครับ (555)
