PS5XBOXข่าวคอนโซล / พีซีพีซีเกม

Clair Obscur: Expedition 33 เกิดดราม่า AI หลังได้รับรางวัล GOTY

หลังผู้พัฒนา Baldur’s Gate 3 เผชิญกระแสต้านการใช้ AI ในขั้นตอนพัฒนา

กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการเกมอีกครั้ง เมื่อการถกเถียงเรื่องการใช้ AI ในกระบวนการพัฒนาเกมถูกจุดประกายขึ้น หลังจากที่ Clair Obscur: Expedition 33 คว้ารางวัล Game of the Year (GOTY) ไปครอง ท่ามกลางกระแสตั้งคำถามจากผู้เล่นและชุมชนเกม ที่เชื่อมโยงดราม่านี้เข้ากับกรณีของทีมพัฒนา Baldur’s Gate 3 ซึ่งออกมายอมรับว่าใช้เครื่องมือ AI ในบางขั้นตอนของการพัฒนาเกมใหม่

Clair Obscur: Expedition 33 ถูกดึงเข้าสู่ดราม่า AI หลังคว้ารางวัล GOTY

ประเด็นดังกล่าวเริ่มต้นจากฝั่ง Larian Studios ผู้พัฒนา Baldur’s Gate 3 และ Divinity เมื่อ Swen Vincke ซีอีโอของสตูดิโอออกมาเปิดเผยว่า เกมใหม่ที่กำลังพัฒนาอยู่จะมีการใช้เครื่องมือ Generative AI ในขั้นตอนการระดมไอเดียและอ้างอิงข้อมูลเท่านั้น โดยยืนยันว่าจะไม่ใส่เนื้อหาที่สร้างจาก AI ลงไปในตัวเกมจริง อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงนี้กลับสร้างกระแสต่อต้านอย่างหนักจากแฟน ๆ โดยเฉพาะความกังวลเรื่องการลอกเลียนผลงาน ซึ่งเป็นปัญหาที่ AI ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางกระแสดังกล่าว ชื่อของ Clair Obscur: Expedition 33 จาก Sandfall Interactive ก็ถูกดึงเข้ามาอยู่ในวงสนทนา เนื่องจากก่อนหน้านี้สตูดิโอเคยยอมรับว่าใช้ AI ในกระบวนการพัฒนาเช่นกัน แต่กลับไม่ได้เผชิญแรงต้านในระดับเดียวกับ Larian แถมยังประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้ารางวัลใหญ่จากงาน The Game Awards ได้สำเร็จ ทำให้ผู้เล่นบางส่วนเริ่มตั้งคำถามถึงความไม่เท่าเทียมในการวิจารณ์ของชุมชนเกม

บนโซเชียลมีเดียและฟอรัมอย่าง Reddit จึงเต็มไปด้วยการถกเถียง ทั้งในมุมที่มองว่าเป็นการชี้ให้เห็นความย้อนแย้งของกระแสต่อต้าน AI และในมุมที่พยายามปกป้อง Larian โดยชี้ว่า ทั้งสองสตูดิโอต่างใช้ AI อย่างจำกัด และเป็นเพียงเครื่องมืออ้างอิงเท่านั้น ไม่ได้แทนที่การสร้างสรรค์ของมนุษย์โดยตรง

ท้ายที่สุด ประเด็นนี้อาจไม่มีฝ่ายใดถูกหรือผิดอย่างชัดเจน เพราะคำถามสำคัญที่แท้จริงคือ “การใช้ AI แม้เพียงเป็นเครื่องมืออ้างอิง ถือว่ายอมรับได้หรือไม่” ในขณะที่การอ้างอิงผลงานถือเป็นเรื่องปกติในงานสร้างสรรค์ แต่เมื่อเป็น AI ผู้ใช้ก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าแหล่งที่มานั้นปลอดจากการละเมิดผลงานผู้อื่นหรือไม่ ดราม่าของ Clair Obscur: Expedition 33 และ Baldur’s Gate 3 จึงสะท้อนให้เห็นว่า วงการเกมยังคงต้องถกเถียงและหาจุดสมดุลร่วมกันอีกยาวไกล ในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ


Clair Obscur: Expedition 33 เป็นเกมแนว RPG เทิร์นเบสแบบเรียลไทม์ที่ผู้เล่นเป็นกลุ่มนักเดินทางที่ได้รับมอบหมายในการตามหา The Paintress วายร้ายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักวาดเขียนที่จะบัญญัติตัวเลขอายุในทุก ๆ ปี เพื่อคร่าชีวิตบุคคลใด ๆ ในอายุดังกล่าวให้หายไป และในปีนี้คือเลข 33 จึงทำให้ทุกคนต้องร่วมมือกันตามหาผู้อยู่เบื้องหลังและกำจัดเธอทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์วิปโยคอีกเป็นครั้งที่สอง โดยระบบการเล่นจะเป็นการป้อนคำสั่งเพื่อต่อสู้กับศัตรู และสามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกหรือต่อสู้กลับทำคอมโบได้ในเวลาเดียวกัน

ที่มา
thegamer

Youryu

นักผจญเกมที่ไม่จำกัดประเภทและแพล็ตฟอร์ม
Back to top button