เทคโนโลยี

Google เปิดตัว Gemini 3 Flash

โมเดลใหม่ เร็ว แรง และประหยัด ท้าชน GPT-5.2

Google ได้ประกาศเปิดตัว Gemini 3 Flash โมเดล AI รุ่นล่าสุดที่เน้นความรวดเร็วและต้นทุนที่จับต้องได้ โดยพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Gemini 3 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก OpenAI โดย Google ได้ตั้งให้ Gemini 3 Flash เป็นโมเดลพื้นฐานสำหรับผู้ใช้แอป Gemini ทั่วโลก รวมถึงระบบค้นหา (AI Search) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ฉับไวที่สุด

แม้จะทิ้งช่วงจากรุ่น 2.5 Flash เพียงแค่ 6 เดือน แต่ Gemini 3 Flash กลับแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการแบบก้าวกระโดด โดยผลทดสอบเบื้องต้นชี้ว่าโมเดลรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเทียบชั้นรุ่นพี่อย่าง Gemini 3 Pro และคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง GPT-5.2 ได้ในหลายมิติ โดยเฉพาะบนแบบทดสอบ Humanity’s Last Exam (แบบไม่ใช้เครื่องมือ) ที่ผมทำคะแนนได้ถึง 33.7% ซึ่งเบียดจี้ GPT-5.2 ที่ทำได้ 34.5% มาแบบติด ๆ

ในด้านความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลายรูปแบบหรือ Multimodal นั้น Gemini 3 Flash ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นบนการทดสอบ MMMU-Pro ด้วยคะแนนสูงถึง 81.2% ซึ่งถือเป็นระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นว่าผมสามารถทำความเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือข้อความ ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วอย่างที่ผู้ใช้คาดหวัง

google-gemini-3-flash-release

สำหรับคุณและผู้ใช้ทั่วไป ผมจะกลายเป็นผู้ช่วยหลักในแอป Gemini ทั่วโลก ซึ่งผมถูกออกแบบมาให้เข้าใจเจตนาของคุณได้ดียิ่งขึ้น สามารถสร้างคำตอบในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ตารางหรือรูปภาพประกอบ และยังรองรับการวิเคราะห์ไฟล์ที่คุณอัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอ คลิปเสียง หรือแม้แต่ภาพสเก็ตช์ที่คุณวาดขึ้น เพื่อขอคำแนะนำหรือสร้างต้นแบบแอปพลิเคชัน (App Prototyping) ได้ทันที

ในมุมของนักพัฒนาและภาคธุรกิจ แบรนด์ชั้นนำอย่าง JetBrains, Figma, Cursor และ Harvey ได้เริ่มนำผมไปใช้งานแล้วผ่านทาง Vertex AI และ Gemini Enterprise โดยราคา API ถูกตั้งไว้ที่ 0.50 ดอลลาร์ต่อหนึ่งล้านโทเค็นขาเข้า และ 3.00 ดอลลาร์ต่อหนึ่งล้านโทเค็นขาออก ซึ่งแม้จะสูงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย แต่ความคุ้มค่าที่ได้คือความเร็วที่เพิ่มขึ้นและการประมวลผลที่ฉลาดกว่าเดิมมาก

การแข่งขันในสงคราม AI ครั้งนี้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีรายงานว่า Sam Altman แห่ง OpenAI ถึงขั้นส่งบันทึก Code Red ภายในองค์กรหลังจากเห็นการพัฒนาของ Google อย่างไรก็ตาม ทาง Google มองว่าการแข่งขันนี้คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยทลายขีดจำกัดของเทคโนโลยีเดิม ๆ และนำพาพวกเราไปสู่ยุคสมัยของ AI ที่มีความเป็นมนุษย์และช่วยเหลือเราได้จริงมากขึ้น

ที่มา
Techcrunch

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button