Mustafa Suleyman ซีอีโอ Microsoft AI ออกโพสต์แสดงความงุนงงว่าทำไมผู้คนถึงมอง AI ว่ายังไม่น่าประทับใจ ทั้งที่เขามองว่าการสนทนากับระบบอัจฉริยะที่ตอบโต้คล่องแคล่ว สร้างภาพหรือวิดีโอได้ทันที ถือเป็นความก้าวหน้าทึ่งล้นเหลือ โดยเปรียบเทียบกับวัยเด็กที่เล่น Snake บนโทรศัพท์ Nokia ธรรมดา โพสต์นี้โผล่ท่ามกลางกระแสวิจารณ์หนักจากผู้ใช้ที่ไม่ค่อยตื่นเต้นกับฟีเจอร์ AI ในผลิตภัณฑ์ของ Microsoft
กระแสนี้เชื่อมโยงกับการที่ไมโครซอฟท์กำลังผลักดันบริการ agentic หรือ AI ตัวแทนที่ทำงานต่อเนื่องแทนมนุษย์ โดยผู้บริหาร Windows Pavan Davuluri เคยประกาศว่าระบบปฏิบัติการกำลังวิวัฒนาการสู่ agentic OS แต่ผู้ใช้จำนวนมากกลับไม่มั่นใจ กลัวว่าจะถูกบังคับใช้ AI ในทุกส่วนของคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะหลังจากรายงานของ The Verge ชี้ว่า Copilot ยังทำตามโฆษณาไม่ได้เต็มที่
นักวิจารณ์ชี้ว่าสามารถทึ่งในความก้าวหน้าของ AI และตั้งคำถามปัญหาไปพร้อมกันได้ โดยโมเดลสร้างสรรค์สมัยใหม่ชวนสงสัยว่าทำไมเลียนแบบความคิดสร้างสรรค์มนุษย์ได้ แต่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์เร็วเกินไป ขณะที่ข้อจำกัดอย่างความไม่แม่นยำหรือการใช้ข้อมูลลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุมัติ ยังถูกมองข้ามจากบริษัทใหญ่ ๆ
Suleyman เองถูกโต้แย้งว่าคำกล่าวคลาดเคลื่อน เพราะบอท AI ยังไม่ฉลาดจริง และสร้างสื่อไม่ได้ทุกแบบ อย่างที่โฆษณา เช่น การทดสอบให้ Copilot ระบุสถานที่จากภาพถ้ำในเม็กซิโก แต่ระบบกลับตอบผิดเป็น New Jersey จากชื่อไฟล์ หรือให้คำตอบซ้ำ ๆ ผิดพลาด สะท้อนปัญหาพื้นฐานที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ไว้ใจ
ปัญหาอื่น ยังรวมถึงข้อมูลค้นหาผิด การฝึกโมเดลด้วยผลงานลิขสิทธิ์โดยไม่ขออนุญาต ภาพ AI หลุดโลกที่แทรกในสื่อเกม และความเสี่ยงต่อผู้ใช้เปราะบาง รวมถึงความกลัว AI แย่งงานทั้งหมด ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกว่าความก้าวหน้ากำลังถูกเร่งเพื่อผลประโยชน์ธุรกิจมากเกินไป โดยไมโครซอฟท์ลงทุน AI กว่า 90 พันล้านดอลลาร์แล้ว
ท้ายที่สุด ผู้คนไม่ได้ปฏิเสธคุณค่าของ AI แต่แค่ไม่เชื่อว่ามันจะนำพาความเปลี่ยนแปลงดีโดยอัตโนมัติ ถ้าบริษัทเทคไม่แสดงความจริงจังต่อผลกระทบสังคม ความสงสัยจะยิ่งเพิ่มขึ้น และคนที่ถูกมองว่าขี้ระแวงอาจเป็นผู้มองภาพรวมชัดเจนที่สุดในที่สุด
