
Steam ได้กลายเป็นชื่อที่แทบจะเทียบเท่ากับการซื้อเกม PC สำหรับผู้เล่นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเกมอินดี้หรือเกมฟอร์มยักษ์ใหญ่ แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Epic Games Store, GOG หรือ Xbox PC Games Store แต่ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือกว่าและฐานผู้ใช้มหาศาลทำให้ Steam ครองใจผู้เล่นมานานกว่า 10 ปี
อย่างไรก็ตาม ความยิ่งใหญ่นี้จุดประกายคำถามว่าถึงขั้นผูกขาดตลาดหรือไม่ รายงานฉบับใหม่ชื่อ The State of PC Game Distribution จาก Rokky ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเชื่อมต่อผู้จัดจำหน่ายกับร้านเกมดิจิทัลทั่วโลก เผยผลสำรวจที่น่าตกใจ โดย 72% ของผู้บริหารในอุตสาหกรรมเกมมองว่า Steam มีอำนาจผูกขาดตลาดเกม PC อย่างแท้จริง
การสำรวจนี้จัดทำโดย Atomik Research ระหว่างวันที่ 18 ถึง 22 พฤษภาคม โดยเก็บข้อมูลจากผู้บริหาร 306 คนในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร กว่า 77% มาจากบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คน และสามในสี่อยู่ในระดับ C-suite หรือผู้บริหารระดับสูง ซึ่งสะท้อนมุมมองจากบริษัทเกมรายใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงในตลาด

ที่น่าสนใจคือ บริษัทส่วนใหญ่ยอมรับว่า Steam สร้างรายได้มากกว่า 75% ของรายได้รวมจากการขายเกมของพวกเขา แสดงถึงการพึ่งพา Valve อย่างหนัก แม้ผู้พัฒนาเกือบครึ่งหนึ่งเคยลงเกมใน Epic Store หรือ Xbox PC Store แต่มีเพียง 10% ที่ใช้ GOG และน้อยกว่า 8% ที่ใช้ Itch.io ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับเกมอินดี้
ถึงอย่างนั้น ผลสำรวจยังชี้ว่า 80% ของนักพัฒนาคาดว่าจะกระจายการจำหน่ายไปยังแพลตฟอร์มอื่นมากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นร้านขายบันเดิลอย่าง Humble Bundle หรือ Fanatical รวมถึงตลาดรองอย่าง Kinguin และ GTA marketplace ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ตลาดในอนาคต
Vadim Andreev ซีอีโอของ Rokky กล่าวว่ารายงานนี้จัดทำเพื่อสะท้อนแนวโน้มสำคัญของอุตสาหกรรม และยอมรับว่าถ้า Steam มีอำนาจผูกขาดจริง ก็เพราะยังไม่มีคู่แข่งที่ให้บริการได้ดีเทียบเท่า ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ Steam ยังคงเก่งกว่าทุกคนในสนามอย่างน้อยในตอนนี้







