5 ความประทับใจจากการทดลองเล่น MONGIL: STAR DIVE ช่วง CBT2

หลังจากเปิดให้ผู้เล่นได้เข้าร่วมทดสอบในรอบ CBT2 เกม MONGIL: STAR DIVE ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในหมู่แฟนเกมสายอนิเมะและเกมมือถือแนว RPG ที่ชื่นชอบการต่อสู้สุดเร้าใจ ด้วยการนำเสนอภาพกราฟิกสวยงาม เนื้อเรื่องสนุก และระบบการเล่นที่เข้าถึงง่าย ทำให้หลายคนเริ่มจับตามองว่าเกมนี้อาจเป็นหนึ่งในเกมที่ “ครบเครื่อง” ที่สุดของปีอย่างไม่ต้องสงสัย

และนี่คือ 5 ความประทับใจที่ทีมงานได้จากการทดลองเล่นในรอบ CBT2 ซึ่งช่วยอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมเกมนี้ถึงได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามตั้งแต่ยังไม่เปิดให้เล่นเต็มรูปแบบ

1. มีภาษาไทยให้ใช้งานเต็มรูปแบบ

สิ่งแรกที่สร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มต้นคือ ตัวเกมรองรับภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่ใช่เพียงการแปลข้อความทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคำบรรยาย รายละเอียดต่าง ๆ ในเมนู และบทสนทนาในเกมที่แปลออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและเข้าใจง่าย การใช้ภาษามีความราบรื่น ไม่แข็งหรือผิดบริบทแบบที่มักพบในเกมต่างประเทศบางเกม ผู้เล่นชาวไทยจึงสามารถดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มอรรถรส โดยเฉพาะสายที่ชอบติดตามเนื้อเรื่องแบบละเอียดจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

2. กราฟิกสวยงามอลังการ

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ งานภาพและกราฟิกที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งในส่วนของโมเดลตัวละครที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น อนิเมชั่นที่ลื่นไหล และเอฟเฟกต์การต่อสู้ที่ให้ความรู้สึก “สะใจ” ทุกครั้งที่ลงสนาม ทั้งหมดนี้ทำให้โลกของ MONGIL: STAR DIVE ดูมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นฉากเมืองหรือพื้นที่ต่อสู้ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในอนิเมะระดับคุณภาพเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

อ้อ… ผู้เขียนแอบกระซิบอีกนิดว่า “ระบบฟิสิกส์” ภายในเกมนี้น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะครับ 😛

3. เนื้อเรื่องสุดฮา สอดแทรกอารมณ์ขันในสไตล์อนิเมะ

แม้เกมจะเป็นแนวต่อสู้ แต่ เนื้อเรื่องกลับแฝงอารมณ์ขันไว้อย่างลงตัว มีมุกและช็อตฮาให้หัวเราะอยู่ตลอดเวลา คล้ายกับการรับชมอนิเมะซีรีส์ที่มีทั้งฉากจริงจังและช่วงเบาสมองสลับกันไป ผู้เขียนเชื่อว่าผู้เล่นจะรู้สึกเพลิดเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะแฟนอนิเมะที่ชอบความ “สดใส ปนฮา” เกมนี้สามารถถ่ายทอดบรรยากาศแบบนั้นออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ผู้เขียนการันตีเลย!

4. เกมเพลย์ต่อสู้เข้าใจง่าย แต่มันส์มือสุด ๆ

ระบบต่อสู้ของเกมนี้เป็นแบบจัดทีมตัวละคร 3 คน ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับตัวละครไปมาได้อย่างอิสระ จุดเด่นคือ “การควบคุมที่เข้าถึงง่าย” เพียงแค่กดโจมตีหรือใช้สกิลก็สามารถต่อคอมโบได้ทันที แต่ในขณะเดียวกัน เกมก็เพิ่มลูกเล่นเชิงเทคนิคให้ผู้เล่นต้องอาศัยจังหวะ เช่น การ “กดหลบหลีก” ให้ตรงเวลา เพื่อเปิดโอกาสในการโจมตีกลับ

อีกหนึ่งจุดที่โดดเด่นคือระบบ “เปลี่ยนตัวละครระหว่างต่อสู้” ซึ่งไม่ได้มีไว้เพียงแค่สลับตัวเท่านั้น แต่ตัวละครที่สลับออกไปยังคงช่วยโจมตีศัตรูต่อได้ชั่วขณะ ทำให้การเปลี่ยนตัวละครกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ต้องวางแผนดี ๆ เพิ่มความสนุกและความลื่นไหลในการเล่นได้มากกว่าที่คิด

5. ระบบจับมอนสเตอร์สุดน่าสนใจ

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าพูดถึงคือ ระบบจับมอนสเตอร์ ซึ่งผู้เขียนได้ทดลองแล้วพบว่าเป็นระบบที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวมาก เมื่อผู้เล่นต่อสู้กับศัตรูบางประเภท จะมีโอกาส “ปลดปล่อยร่างวิญญาณ” ของศัตรูนั้นออกมา และสามารถใช้การสังเคราะห์วิญญาณเพื่อนำมาสร้างเป็น มอนสเตอร์ลิ่ง ที่จะคอยเสริมค่าสถานะและพลังพิเศษให้กับตัวละครหลัก ฟีเจอร์นี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับการสะสมเพื่อนร่วมทีมในรูปแบบเครื่องประดับที่แสนจะน่ารัก ซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับระบบการพัฒนาตัวละครในเกมได้อย่างน่าสนใจ

---

MONGIL: STAR DIVE พร้อมที่จะนำเสนอการเล่าเรื่องราวแบบภาพยนตร์ด้วยพลังแห่ง Unreal Engine 5, การต่อสู้แบบแท็กทีมอันมีชีวิตชีวาสุดมันส์ด้วยปาร์ตี้สามตัวละคร, และระบบการสะสมมอนสเตอร์ลิ่งอันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ผู้เล่นสามารถจับ, สะสม, และสังเคราะห์มอนสเตอร์มาเป็นเพื่อนร่วมทางได้ เกมมีกำหนดเปิดตัวทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 บนหลายแพลตฟอร์ม