Huawei ประกาศวันเปิดตัว Mate XTs สมาร์ตโฟนพับสามทบรุ่นใหม่ในเดือนกันยายน
สร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดสมาร์ตโฟนพับได้
Huawei ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงวันเปิดตัวสมาร์ตโฟน Mate XTs ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดของ Mate XT โดยกำหนดให้จัดงานเปิดตัวในวันที่ 4 กันยายน 2025 ณ เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน การประกาศนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสมาร์ตโฟนพับได้ โดย Huawei มุ่งเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีหน้าจอพับสามทบที่ล้ำสมัย เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานที่ชื่นชอบนวัตกรรม
Mate XTs โดดเด่นด้วยหน้าจอพับได้สามทบขนาด 10.2 นิ้ว ซึ่งสามารถกางออกได้ถึง 360 องศา ให้พื้นที่การแสดงผลที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการทำงานและความบันเทิง โดยใช้เทคโนโลยี LTPO OLED ที่รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz และความละเอียดระดับ 2K ทำให้ภาพคมชัดและลื่นไหล นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังบางเพียง 3.6 มิลลิเมตรเมื่อพับ และน้ำหนักเบาเพียง 239 กรัม ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ด้านสเปกหลัก Mate XTs มาพร้อมชิปเซ็ต Kirin 9010 ที่พัฒนาโดย Huawei เอง รองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบเต็มรูปแบบแม้ภายใต้ข้อจำกัดทางการค้า ชิปกราฟิก Maleoon 910 ช่วยให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมและกราฟิกดีเยี่ยม กล้องหลังระบบ Leica ประกอบด้วยเซ็นเซอร์หลัก 50MP รองรับการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ในขณะที่กล้องหน้า 8MP และแบตเตอรี่ขนาด 5,600mAh ที่ชาร์จเร็ว 66W ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
Huawei ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ HarmonyOS 4.2 ที่ปรับแต่งสำหรับหน้าจอพับสามทบ โดยมีโหมด Multi-Tasking ที่อนุญาตให้รันแอปหลายตัวพร้อมกันบนหน้าจอขนาดใหญ่ รวมถึงการรองรับปากกา M-Pencil สำหรับการจดบันทึกและวาดภาพ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีระบบกันน้ำและฝุ่น IPX8 ทำให้ทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ด้านราคาและการวางจำหน่าย Mate XTs จะเริ่มต้นที่ประมาณ 28,000 หยวน (ราว 140,000 บาท) สำหรับรุ่นพื้นฐาน 12GB RAM + 256GB ROM และสูงสุดถึง 32,000 หยวนสำหรับรุ่นท็อป 16GB RAM + 1TB ROM โดยจะวางขายในจีนตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2025 และขยายสู่ตลาดเอเชียและยุโรปในไตรมาสที่ 4 ของปี Huawei คาดว่าจะผลิตจำนวนจำกัดในช่วงแรก เพื่อรับมือกับความต้องการที่สูง
การเปิดตัว Mate XTs นี้ไม่เพียงแต่เป็นก้าวสำคัญของ Huawei ในการฟื้นฟูส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนพับได้ แต่ยังท้าทายคู่แข่งอย่าง Samsung และ Oppo ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่า โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอุปกรณ์นี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายของ Huawei ให้เติบโตกว่า 20% ในปี 2025 ท่ามกลางการพัฒนาเทคโนโลยี AI และหน้าจอที่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม
