
Google ประกาศอย่างเป็นทางการที่งาน Android Show ก่อนหน้า Google I/O 2025 ว่าจะนำ AI รุ่นใหญ่อย่าง Gemini มาสู่รถยนต์ที่รองรับ Android Auto และในอนาคตอันใกล้ก็จะขยายไปยังรถยนต์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการของ Google โดยตรง
ในโพสต์ของบริษัท Google อธิบายว่า:
“การเพิ่มฟีเจอร์ Gemini เข้ามา จะเปลี่ยนประสบการณ์การขับรถให้ ‘มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสนุกกว่าเดิม’”
Patrick Brady รองประธานฝ่าย Android for Cars กล่าวว่า:
“นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งสำคัญในประสบการณ์ภายในรถที่เราไม่เคยเห็นมานานแล้ว”
Gemini จะเข้ามาแทนที่ Google Assistant ใน Android Auto ด้วยความสามารถที่ล้ำกว่าเดิม:
พูดคุยกับผู้ช่วยได้เหมือนพูดกับคนจริง ๆ
- ไม่จำเป็นต้องพูดแบบเป๊ะ ๆ เช่น “เล่นเพลงแนว Jazz จาก Spotify”
- สามารถถามได้ตามภาษาธรรมชาติ เช่น “หาเพลงเบา ๆ ฟังระหว่างขับไปทำงานหน่อย”
- ระบบจะเข้าใจและตอบสนองได้ฉับไวโดยไม่ต้องคลิกหรือสัมผัสจอเยอะ
Gemini จดจำและปรับตัวได้
- จำได้ว่าเพื่อนคุณชอบรับข้อความเป็นภาษาไหน
- แปลภาษาให้อัตโนมัติเมื่อส่งข้อความถึงคนต่างชาติ
- สามารถแนะนำร้านอาหาร, สถานที่เที่ยว หรือแม้แต่เมนูอาหารเจสำหรับคนที่สนใจ
Gemini Live: พูดคุยกันได้ไม่หยุด
- เปิดโหมด “always listening” ที่พร้อมพูดคุยเรื่องใดก็ได้ เช่น:
- “อยากได้ไอเดียเที่ยวสงกรานต์ปีหน้า”
- “ช่วยคิดเมนูทำอาหารเย็นนี้ให้ลูกชายที่อายุ 10 ขวบชอบ”
- “ประวัติโรมันมีอะไรน่าสนใจบ้าง?”
Brady บอกว่า:
“AI จะช่วยลดภาระทางความคิด (cognitive load) ขณะขับรถ เพราะคุณจะสั่งงานได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนหน้าจอหรือกดหลายรอบ”
ในยุคที่หลายคนเริ่มมองหาเทคโนโลยีที่ปลอดภัยกว่าการใช้หน้าจอสัมผัส หรือแม้แต่ขอให้กลับไปใช้ปุ่มหมุนแบบเดิม Google เชื่อว่า:
“Gemini ที่ใช้งานด้วยเสียงและเข้าใจภาษาไทยแบบ natural language จะช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้งานในรถได้”
แทนที่จะเอื้อมไปกดหลายครั้ง แค่พูดออกมาว่า:
- “เปิดแอร์ 24 องศา”
- “เล่นเพลงแนวโฟล์คอินดี้”
- “หาคาเฟ่เปิดตอนสองทุ่มแถวนี้ให้หน่อย”
ในระยะเริ่มต้น Gemini บน Android Auto จะยังคงใช้ Cloud Processing เพื่อประมวลผล แต่ Brady ระบุว่า:
“เรากำลังร่วมมือกับบริษัทรถยนต์เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลบนรถเอง (on-device) เพื่อให้ Gemini ทำงานได้แม้สัญญาณไม่แน่น”
เพราะรถยนต์เคลื่อนที่ตลอดเวลา และอาจเปลี่ยนเสาสัญญาณทุกไม่กี่นาที การพึ่งพา cloud อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในบางกรณี
รถยนต์สมัยใหม่ไม่ใช่แค่เครื่องจักรยานยนต์ที่เคลื่อนไหวได้ แต่เต็มไปด้วยเซ็นเซอร์และกล้อง:
- กล้องภายใน (Cabin camera)
- กล้องหน้าหลัง (Exterior camera)
- เซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพอากาศ, ระดับเชื้อเพลิง, สถานะยาง และอื่น ๆ
Brady กล่าวว่า:
“เราคุยกันเยอะมากว่าเราจะใช้ข้อมูลเหล่านี้กับ Gemini อย่างไรในอนาคต”
แต่ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
Gemini บน Android Auto และ Google Built-In จะเริ่มทยอยปล่อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะรองรับใน:
- ประเทศที่มีสิทธิ์ใช้ Generative AI ของ Google อยู่แล้ว
- มากกว่า 40 ภาษา
แปลว่าหากคุณใช้ Android Auto อยู่ คุณอาจได้ลองใช้ Gemini ในรถของคุณในเร็ว ๆ นี้