คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษเกม

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา ‘ติดเกม’ มากเกินไปหรือไม่

เล่นเกมน่ะเล่นได้ แต่ถ้าเล่นมากเกินไปจนเสียสมดุลคงไม่ดี มาเช็คตัวเองกันเถอะ

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวเกมเมอร์ทุกท่าน หลาย ๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ เชื่อว่าก็คงจะเป็นเกมเมอร์หรือคนที่รักการเล่นเกมใช่ไหมครับ แต่คำว่า “รักเกม” กับ “ติดเกม” มันต่างกันพอสมควรเลย หากคุณหลงใหลในสิ่งใดก็ควรจะวางบาลานซ์ให้พอดีกับชีวิต เพื่อให้เราสามารถทำสิ่งนั้นต่อไปได้อย่างมั่นคงและยาวนาน การเล่นเกมก็เช่นเดียวกันครับ มีหลายคนเลยที่อาจเข้าข่ายติดเกมมากเกินไปจนทำให้ชีวิตขาดความสมดุล แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดเกมมากเกินไปไหม ลองเช็คจาก 7 พฤติกรรมที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้กันดีกว่าครับ

1. เล่นเกมจนละเลยหน้าที่ในชีวิตจริง

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


ทุกคนมีหน้าที่ในชีวิตจริงเสมอ ทั้งในแง่ของการงานอาชีพ ตำแหน่งงาน ฐานะ หรือแม้กระทั่งจุดยืนของตัวเอง บางคนเป็นนักเรียน บางคนเป็นพ่อแม่ การรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ และถ้าเกิดว่าการเล่นเกมนั้นทำให้เพื่อน ๆ เริ่มละเลยหน้าที่หลักของตัวเอง นั่นอาจหมายความว่าเรากำลังอยู่ในช่วงติดเกมมากเกินไปครับ เช่น การเล่นเกมจนไม่อยากไปทำงาน หรือเล่นเกมจนลืมเลี้ยงลูก หรือลืมที่จะใส่ใจคนรอบข้าง อันนี้ค่อนข้างอันตรายครับเพราะถ้าเกิดว่าเราต้องเสียคนสำคัญไป ในวันที่ไม่มีเขาอยู่แล้วเราอาจรู้สึกเสียใจภายหลังได้ครับ

2. อดหลับอดนอนเป็นประจำเพื่อเล่นเกม

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


แน่นอน ผมเชื่อว่าเกมเมอร์หลาย ๆ คนก็ต้องเคยอดหลับอดนอนเพื่อเล่นเกมใช่ไหมล่ะครับ บางครั้งอาจจะติดลมอยากเล่นยาว ๆ กับเพื่อน บางครั้งอาจจะหัวร้อนขอเล่นต่ออีกตา หรือบางครั้งอาจจะมีเกมออกใหม่ยังเล่นไม่หนำใจขออีกสักหน่อยเถอะ ทุกเหตุผลในการอดนอนที่มาจากเกมนั้นย่อมเกิดขึ้นได้กับเกมเมอร์ แต่ถ้าเกิดขึ้นมากเกินไปหรือเป็นประจำอันนี้ไม่ดีแน่ครับ มนุษย์ต้องการการนอนหลับพักผ่อน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าเพื่อน ๆ นอนแค่ 3-4 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้นทุกวัน อันนี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้วนะครับ ยิ่งแก่ไปยิ่งต้องนอนเยอะขึ้น รักษาสุขภาพกันด้วยครับ

3. อารมณ์ขึ้น-ลงตามผลของเกม

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสัญชาตญาณและอารมณ์ในการแสดงความรู้สึกต่าง ๆ มีความสุข สนุก เศร้า โกรธ หัวร้อน และอาจลามไปถึงการใช้ความรุนแรงต่อตัวเอง ผู้อื่น หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ใกล้ตัว แต่ถึงอย่างนั้นมนุษย์เราก็เป็นสัตว์ที่มีการยับยั้งชั่งใจ เวลาโกรธก็จะรู้ว่าอะไรไม่ควรทำ คิดถึงผลที่จะตามมา หรือเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่ถ้าเราหัวร้อนกับเกมแล้วเริ่มมีอาการอยากระบายอารมณ์ออกมา เริ่มทุบโต๊ะ ทุบคีย์บอร์ด ขว้างจอย ตีขาตัวเอง หรือตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง แม้จะยังไม่มีคนอื่นเดือดร้อน แต่ถึงจุดนี้ก็ควรประเมินตัวเองใหม่และลองห้ามใจพักการเล่นเกมหรือลองเปลี่ยนเกมดูบ้างครับ

4. เติมเกมเกินกำลัง / โกหกเรื่องค่าใช้จ่าย

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


การเติมเงินในเกมออนไลน์ เกมมือถือ หรือการซื้อเกมราคาแพง ๆ เนี่ย ก็เป็นบริบททั่วไปของการเล่นเกมในยุคปัจจุบัน ซึ่งใคร ๆ ก็ทำกันเป็นปกติ แต่มันจะไม่ปกติเลยถ้าเกิดว่าเพื่อน ๆ ใช้จ่ายเกินกำลังรายรับของตัวเอง เช่น เงินเดือน 15,000 แต่เติมเงินเดือนละ 10,000 ที่เหลือเดี๋ยวกินมาม่าเอา หรือถึงขั้นต้องโกหกคนใกล้ตัว แอบโกหกแฟนว่าเงินที่เติมเกมนั้นไม่ได้มากมายอะไร แต่สุดท้ายก็ทำให้ชีวิตคู่มีปัญหา ถ้าถึงขั้นต้องโกหกคนใกล้ตัวเพื่อเติมเกมหรือใช้เงินเกินกำลัง อันนี้เข้าข่ายการติดเกมจนเกินไปเพราะเรามองเห็นคุณค่าของเกมมากกว่าตัวเองและคนรอบข้างครับ

5. พูดคุยหรือคิดถึงแต่เรื่องเกมตลอดเวลา

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


การที่เราชอบหรือหลงรักเกมใดเกมหนึ่งนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เวลาเราออกไปข้างนอกอาจจะมีความรู้สึกอยากรีบกลับไปเล่นบ้าง หรือเวลาเจอคนที่ชอบแบบเดียวกันก็จะคุยเรื่องเกมบ้าง แต่มันคงแย่แน่ถ้าเกิดว่าเวลาที่ต้องทำงาน ต้องโฟกัสเกี่ยวกับการประชุม หรือทำงานร่วมกับคนอื่นแล้วก็ยังหยุดคิดเรื่องเกมไม่ได้ หรือชวนคนอื่นพูดคุยแต่เรื่องเกมโดยไม่ได้ใส่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการคุยเรื่องนี้หรือไม่ ลืมมารยาทขั้นพื้นฐานที่จะใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น เพียงเพราะว่าอยากจะคุยเรื่องเกมที่ตัวเองชอบ ถ้ามีโมเมนต์แบบนี้แสดงว่าเราอาจจะติดเกมมากเกินไปจริง ๆ ครับ

6. รู้สึกหงุดหงิดหรือเคว้งคว้างถ้าไม่ได้เล่น

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


การติดเกมเป็นเรื่องของความเคยชินและความต้องการทางจิตใจครับ เวลาเราอยากทำอะไรมาก ๆ แล้วไม่ได้ทำสักที มนุษย์จะมีความรู้สึกหงุดหงิดและกระตุ้นให้เกิดสัญชาตญาณที่รุนแรงขึ้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ หรืออีกมุมหนึ่งถ้าเราเกิดการยับยั้งชั่งใจมาก ๆ ปลงกับมันมาก ๆ แล้วทำให้รู้สึกเคว้งคว้าง ล่องลอย ไม่อยากทำอะไรเลย ถ้าเกิดอาการแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณเข้าข่ายติดเกมมากเกินไปแล้วครับ ลองหางานอดิเรกอย่างอื่นทำบ้าง ออกไปหากเพื่อนข้างนอกบ้าง หรือโฟกัสกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่เกมดูบ้าง เพื่อเฉลี่ยความสนใจแล้วจะได้ลดการติดเกมลงครับ

7. เริ่มรู้สึกผิดกับตัวเอง แต่ก็ยังหยุดไม่ได้

7 พฤติกรรมที่บ่งชึ้ว่าเรา 'ติดเกม' มากเกินไปหรือไม่


ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกผิดกับตัวเองเวลาที่เราตั้งใจจะทำอะไรเกี่ยวกับเกมแล้วทำไม่ได้สักที เช่น เกมหมาแบบนี้ยิ่งเล่นก็ยิ่งเครียดงั้นเราเลิกเลยดีกว่า แต่สุดท้ายก็เลิกไม่ได้ หรือตั้งใจกับตัวเองว่าหลังจากนี้ฉันจะนอน 4 ทุ่มทุกวันแล้วตื่นเช้า สุดท้ายพอเล่นเกมก็ลามไปตี 4 ตี 5 ทุกวันเหมือนเดิม แล้วเราก็จะรู้สึกผิดกับตัวเองว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ เป็นความย้อนแย้งและขัดแย้งกันในจิตใจตัวเองว่า ความต้องการกับพฤติกรรมไม่ไปในทางเดียวกัน ถ้าเกิดกรณีแบบนี้จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากมือที่สามครับ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือแพทย์ก็ตาม

หวังว่าบทความนี้จะทำให้เพื่อน ๆ ได้รู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้นนะครับ ว่าเราเข้าข่ายติดเกมมากเกินไปหรือไม่ เอาจริง ๆ ผมเองก็ยังมี 1-2 ข้อที่โผล่มาเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าใครที่เกินมาสัก 5-6 ข้อ อันนี้ก็ลองพิจารณาดูว่าเราจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร เพื่อที่เราจะได้ใช้ชีวิตอย่างบาลานซ์และได้เล่นเกมต่อไปอย่างสนุกสนานครับ

Jou Thunder

Content Creator สายเกมที่อยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ โปรดติดตามช่อง youtube.com/@JouThunder
Back to top button