บางครั้งเมื่อมีเกมไม่ถูกใจสังคมชาวเน็ตปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็มักจะทำการ “Review Bomb” หรือการถล่มรีวิว ซึ่งก็เป็นไปตามชื่อ คือการที่ผู้เล่นหลายร้อยคนรีวิวเกมในแง่ลบเหมือนแสดงการประท้วงต่อผู้สร้างเกม โดยปรากฏการณ์นี้บางส่วนก็เกิดขึ้นเพราะเกมเปิดตัวได้ไม่ดี มีข้อผิดพลาด หรืออาจจะยับยั้งการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มเกมเมอร์ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยส่วนใหญ่แล้ววิธีการนี้มีประสิทธิภาพที่รุนแรง และผู้พัฒนาเกมก็ต้องหาทางแก้ปัญหาอย่างยากลำบาก
การ Review Bomb ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และผู้พัฒนาเกมก็ตระหนักดีว่าพวกเขามีอิทธิพลมากแค่ไหน ลองถาม อย่างเช่นผู้จัดจำหน่าย Take-Two บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง 2K และ Rockstar Games ผู้สร้างซีรีส์เกม Grand Theft Auto ซึ่งพวกเขาแสดงความกังวล และมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความสำเร็จของเกมในด้านยอดขาย
Take-Two กังวลถึงผลกระทบของ Review Bomb
Take-Two เพิ่งกล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก Review Bomb ในเอกสาร 10K ชุดล่าสุดที่ยื่นต่อ SEC โดยเอกสารดังกล่าว ระบุว่า Review Bomb อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงผลกำไร นอกจากนี้ยังสามารถทำลายชื่อเสียงของบริษัทได้อีกด้วย
เอกสารที่ Take-Two ยื่นมีเนื้อความส่วนหนึ่งดังนี้:
การได้รับและรักษาเรตติ้งสูงของเกมของเราบนแพลตฟอร์มบุคคลที่สามที่เราดำเนินการอยู่นั้นมีความสำคัญ เนื่องจากช่วยให้ผู้เล่นค้นพบเกมของเราได้ง่ายขึ้น หากเรตติ้งของเกมใดๆ ของเราลดลง หรือหากเราได้รับบทวิจารณ์เชิงลบจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เรตติ้งของเราลดลง เกมของเราอาจทำให้ผู้เล่นค้นหาหรือได้รับการแนะนำได้ยากขึ้น
นอกจากนี้ เรายังอาจถูก Review Bomb หรือสร้างแคมเปญใส่ร้ายที่มุ่งทำลายเรตติ้งของเรา การลดลงดังกล่าวอาจนำไปสู่การสูญเสียผู้เล่นและรายได้ ค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาและการตลาดเพิ่มเติม และเป็นอันตรายต่อชื่อเสียงของเกม
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ Take-Two ตระหนักดีถึงพลังของ Review Bomb ที่ไม่นานมานี้ ตัวบริษัทเองนี่แหละ ก็ตกเป็นเป้าหมายของ Review Bomb เช่นกัน นั่นเป็นเพราะตอนที่เกม Grand Theft Auto: The Trilogy – The Definitive Edition วางจำหน่ายในสภาพที่ย่ำแย่ พร้อมกับบั๊กและข้อบกพร่องอีกมากมาย ทำให้แฟนๆ หลายร้อยคนทำการ Review Bomb เกมนี้บนแพลตฟอร์มต่างๆ ส่งผลให้ เวอร์ชัน PC มีคะแนนเหลือแค่ 0.5 บน Metacritic ในขณะที่เวอร์ชัน PlayStation ได้คะแนนที่ 1.0 เท่านั้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Helldivers 2 ที่เป็นเกม Live Service หน้าใหม่ไฟแรงของ Sony เองก็ตกเป็นเป้าหมายของ Review Bomb หลังจากเกิดเหตุการณ์บังคับใช้ PSN บนแพลตฟอร์ม PC ที่แม้ปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว รวมถึง Arrowhead Game Studios ยังประกาศว่าจะสร้างชุดพิเศษที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลกระทบด้านลบในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นส่งผลกระทบต่อยอดขายที่ควรจะเกิดขึ้นกับเกม
แม้จะดูเหมือนว่า Grand Theft Auto 6 ซึ่งเป็นโปรเจ็คต์ใหญ่ต่อไปของ Take-Two จะไม่ตกเป็นเป้าหมายของ Review Bomb ในตอนนี้ แต่ก็อาจมีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ และเราก็ไม่อาจรู้ได้ ว่าจะมีสถานการณ์ที่แฟนๆ อาจ Review Bomb เกมนี้ได้หากตัวเกมวางขายในสภาพที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของพวกเขา ซึ่งตอนนี้เหล่าเกมเมอร์ก็รู้ตัวแล้วว่าพวกเขามีพลังในมือมากพอที่จะทำให้แม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ หรือผู้จัดจำหน่ายเกมชื่อดังต้องหวาดกลัว
