[พรีวิว] MultiVersus สังเวียนดาวเด่นการ์ตูนดัง

การโคจรมาพบกันของดาวเด่นแฟรนไชส์ต่างๆ ภายใต้การดูแลของ Warner Bros. ในเกม MultiVerse ถือเป็นอะไรที่หลายคนให้ความสนใจและตื่นเต้นมากทีเดียวครับเพราะตัวเกมเองก็ได้รับการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยสไตล์ Arena Fighting อย่างไรก็ตามในช่วงทดสอบที่ผ่านมาผู้เล่นในบ้านเรานั้นยังไม่ได้มีโอกาสได้ลองเล่นกัน กระนั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเรา ThisIsGame Thailand ก็ได้รับโอกาสจาก Warner Bros. Games ในการเข้ามาร่วมแจมความปั่นป่วนกับเกมรอบสื่อมวลชนเพื่อนำความประทับใจแรกมาฝากกัน แต่จะเป็นอย่างไรบ้างขอเชิญติดตามกันได้เลย

โฉมแรกที่เปลี่ยนไป

ในฐานะที่เคยได้มีโอกาสเล่นเกมตั้งแต่ช่วงทดสอบมาแว๊บๆ นึง ก็เลยพอจำช่วงต้นเกมได้เป็นเค้าลาง ผมเห็นว่าเมื่อเข้าเกมมาในครั้งแรกก็มีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากๆ อย่างแรกก็คือโหมดฝึกซ้อมที่เปลี่ยนใหม่มาเป็นรูปแบบเนื้อเรื่องแทนจากที่เคยเป็น​ Tutorial สั้นๆ โดยจะมีเรื่องราวให้ติดตามการเดินทางของตัวเอกหลักเป็น Shaggy จาก สกูบี้ดู สั้นๆ นั่นเอง อีกทั้งเมื่อจบช่วงหลัก ก็จะมีเมนูเนื้อเรื่องที่แบ่งเป็นแคมเปญตามซีซันที่เป็นเนื้อหาสำหรับการเล่นคนเดียว นอกจากนั้นถ้าสังเกตพอเข้าสู่เมนูหลักก็จะพบว่าแท็บคำสั่งเปลี่ยนมาเป็นแสดงจากด้านบนและมีเมนูให้ใช้งานที่ง่ายมากขึ้น

บู๊มันส์แหลกด้วยปุ่มกดที่เข้าใจง่าย

การเล่นของ MultiVersus มีจุดเด่นที่สามารถเข้าใจได้ง่ายด้วยคอมบิเนชันปุ่มเพียงใหม่กี่ปุ่มทำให้ทุกคนสนุกได้ทันทีไม่ว่าจะเป็นสายทำคอมโบหรือสายรัวปุ่ม แต่ขณะเดียวกันก็มีเมคานิกซับซ้อนพอที่จะให้ผู้เล่นได้ขบคิดหากลยุทธ์ดีๆ มาเพื่อต่อสู้กัน ซึ่งในสมรภูมิรบแห่งนี้จะรองรับการเล่นจำนวน 4 ผู้เล่น ทั้งโหมดตีกันเองหรือแบ่งทีม 2v2 เช่นเดียวกับตัวตัว 1v1 ก็ได้ และมีความเป็น Platformer Fighter ผู้เล่นจึงมีอิสระวิ่งรอบฉาก สร้างมิติในการต่อสู้ให้มากขึ้นไปอีกแม้จะเป็นรูปแบบ 2D

เป้าหมายในการต่อสู้ของเกมนี้ก็จะเหมือนกับเกมรูปแบบ​ Arena โดยผู้เล่นมีหน้าที่ที่จะต้องรัวหมัดหรือลูกเตะใส่ฝ่ายตรงข้ามจนเกจตัวเลขมีระดับที่สูงขึ้น ยิ่งตัวเลขมากเท่าไร อัตราการปลิวออกจากฉากจะมีมากขึ้น (หรือ ‘ตัวเบา’ นั่นเอง) เมื่ออยู่ในระดับที่เราคิดว่าเหมาะเจาะปุ๊บ ก็ฟาดด้วยท่าพิเศษ หรือกดปุ่มโจมตีค้างเพื่อชาร์จการโจมตีจนศัตรูลอยออกจากฉากเป็นอันจบ ทั้งนี้อย่างที่บอกว่ามีเมคานิกที่ต้องไม่มองข้ามและให้ความสำคัญเพื่อเป็นกุญแจชิงชัยชนะ ยกตัวอย่างเช่นท่าโจมตีที่เราอาจจะรัวมากเกินไป จะถูกลดดาเมจลง ต้องรอคูลดาวน์กันสักนิด อีกทั้งตัวละครยังมีฟังก์ชันไม่เหมือนกันด้วย เสริมกับ Perk ที่ติดตั้งได้จึงทำให้ตัวละครมีความอิสระที่จะใช้งานตามสไตล์ที่เราชอบ

การออกแบบนั้นในทุกองค์ประกอบคือเสน่ห์ของ​ MultiVersus

เกมนี้เป็นการรวมดาวตัวละครจากคลังแสงสื่อขนาดใหญ่ของ Warner Bros. แน่นอนว่าตัวละครจำนวนมากที่นำเข้ามาอยู่ในเกมย่อมเป็นดาวเด่นระดับแม่เหล็กที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างไรก็ตามต้องชื่นชมเรื่องกราฟิกและฝีมือการถ่ายทอดตัวละครเหล่านี้ลงสู่เกมรูปแบบการ์ตูนสามมิติที่มีการ Standardized นักสู้ทั้งหมดในแบบที่ไม่มีใครโดดออกมาเกินไป ตัวละครทั้งหมดสามารถอยู่ในเฟรมเดียวกันได้แบบไม่รู้สึกว่าใครแตกต่าง ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่รู้สึกว่าอยากจะชม เพราะหัวใจหลักอย่างนักสู้ที่เราจะต้องบังคับ ก็มีความพิเศษไม่แพ้กัน

ตัวละครทั้งหมดมีท่าทางการต่อสู้ที่ดูน่าเชื่อถือว่าเป็นตัวละครเหล่านั้นจริงๆ แบบที่หยิบยกจิตวิญญาณของพวกเขาออกมา ใครที่ติดตามแฟรนไชส์เหล่านี้อยู่แล้วอาจจะสังเกตเห็นความเป๊ะเรื่องลักษณะคาแรกเตอร์ได้ตั้งแต่แว๊บแรก เช่น Tom & Jerry นักสู้แมวและหนูแพคคู่ที่ดูจากท่าตั้งการ์ดต่อสู้ก็รู้ว่า… มันกำลังสู้กันเอง! เหมือนกับในการ์ตูนที่เราจะเห็นทั้งคู่ไล่ล่ากัน และพอเข้ามาอยู่ในเกมนี้พวกมันก็ยังตีกันเองเหมือนเดิมแต่การตีกันของมันก็ประยุกต์มาเป็นท่าต่อสู้ที่เอาไว้ตีคนอื่นได้แบบฮาๆ หรือจะเป็น Velma สาวแว่นจากแก๊งไขปริศนาลึกลับที่มีลักษณะห้าวๆ และขี้ตกใจ ก็ใช้การต่อสู้เป็นเอฟเฟกต์ตะโกนแทน (ฮา)

อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องชื่นชมก็คือการออกแบบฉากหลังที่เป็นไซส์ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ทำให้เมื่อตัวละครอยู่ห่างกัน หน้าจอก็จะซูมออกในระดับที่เราพอมองเห็นอยู่ว่าใครยืนตรงไหน และสนามต่อสู้แต่ละฉากก็มีการดีไซน์ตามเรื่องราวในแฟรนไชส์ต่างๆ เช่น ซีนสำคัญจาก Rick and Morty ในตอน Get Schwifty เมื่อซีซันสอง หรืออาจจะเป็นสถานที่ทั่วไปที่เราคุ้นเคยจาก Batman อย่างถ้ำค้างคาวอันเป็นฐานทัพลับของอัศวินรัตติกาลที่ล้วนมีฟังก์ชันเฉพาะตัวเช่นแท่นยืนหรืออุปสรรค

Ouch! Factor สำคัญไฉน

ความท้าทายที่สุดของเกมรูปแบบ Arena Fighting หรือจะเรียกว่าเกมต่อสู้ทุกเกมก็คือการแสดงผลความรู้สึกเตะต่อยที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะว่าคงไม่มีใครที่ไม่อยากจะเล่นเกมแนวนี้โดยไม่รับรู้ถึงแรงสะท้อนหรือความ ‘หนุบหนับ’ ที่เกิดขึ้นจากการทำดาเมจ แต่สำหรับ MultiVersus ที่ได้ลองเล่นมาต้องยอมรับว่าทำการบ้านมาดีจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมเกมที่อาศัยการต่อสู้ด้วยความเร็วและเป็นเกมออนไลน์ จุดนี้จึงไม่ได้อยู่ที่ฟิสิกส์เกมเท่านั้นแต่ยังช่วยยืนยันด้วยว่าเซิร์ฟเวอร์เองก็สมดุลและเตรียมพร้อมพอดูเลยครับ

การสนับสนุนใหม่ๆ ในอนาคตที่น่าติดตาม

ในฐานะที่เกมนี้เป็นการให้บริการแบบ Live Service ดังนั้นแฟนเกมสามารถคาดหวังได้เลยว่าจะต้องได้รับการอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ ก็ต่อเนื่อง ทั้งตัวละครและฉากที่สามารถสะสมเงินเพื่อปลดล็อกได้ด้วยตัวเอง ซึ่งจากการให้บริการครั้งที่ผ่านมาก็เห็นได้ว่าเสียงตอบรับนั้นค่อนข้างดีเลย การกลับมาคราวนี้จึงเป็นการประกาศศักดาถึงจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ที่จะให้เหล่านักสู้ทั่วโลกได้มาประลองฝีมือกันในเกมที่มีความสมบูรณ์มากกว่าเดิม ว่าแล้วก็อดใจรอไม่ไหวที่จะได้เริ่มต้นซีซันแรกกันแล้ว ไม่แน่เราอาจจะได้เจอกันก็ได้นะครับ

มาถึงตอนนี้หลายคนคงตื่นเต้นอยากจะเล่นกันแล้วใช่ไหมครับ สำหรับใครที่สนใจขอบอกว่าไม่ต้องรอกันนานเพราะ MultiVersus จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกทั้งบนอุปกรณ์เครือ PlayStation, Xbox และ PC ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไปในรูปแบบ Free-to-play เล่นได้ทุกคนแบบครอสเพลย์ไม่มีข้อจำกัดแพลตฟอร์ม ส่วนโอกาสหน้า ThisIsGame Thailand จะมีอะไรมาแบ่งปันอีก ขอเชิญติดตามกันได้ที่นี่เช่นเคยครับผม