เทคโนโลยี

[รีวิว] Xiaomi Smart Band 7

สายรัดข้อมืออัจฉริยะที่คุ้มสุด ณ เวลานี้ จอใหญ่ขึ้นพร้อมรองรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือด

เดินทางมาถึงรุ่นที่ 7 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Xiaomi Smart Band การมาในครั้งนี้นำการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม รองรับการใช้งานวัดออกซิเจนภายในเลือด รวมไปถึงแบตเตอรี่ซึ่งสามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน จะมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้างเราไปหาคำตอบกันเลย

Design

หากใครที่ติดตามการนำเสนอ Smart Band ของทาง Xiaomi มาโดยตลอดจะพบว่าการออกแบบในแต่ละรุ่นที่ผ่านมายังคงยึดรูปทรงเอาไว้แบบเดิมตั้งแต่รุ่นแรกจนมาถึงรุ่นล่าสุด คือการใช้งานดีไซน์แบบวงรีที่จะต่างกันในแต่ละรุ่นคือขนาดของหน้าจอ

image 255

สำหรับหน้าจอของ Xiaomi Smart Band 7 ในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.62 นิ้ว มีขนาดที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นกว่าถึง 25 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกระจกหน้าจอแบบ 2.5D

image 256

ด้านหลังเป็นส่วนที่สัมผัสกับข้อมือของเราประกอบไปด้วยตัววัดต่าง ๆ บริเวณตรงกลาง ถัดไปเป็นส่วนสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่

image 257
image 258

สำหรับสายรัดข้อมือที่ให้มาใช้งานวัสดุเป็นซิลิโคนทำให้มีความสบายเวลาใช้งานและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน แน่นนอว่าในระยะเวลาใช้งานไม่น่าจะมีปัญหาฉีกขาดให้เราได้เห็นกัน (แต่หากใช้นานจนเกินไปก็ยังคงมีโอกาสขาดได้อยู่)

image 259

น้ำหนักของอุปกรณ์ 13.5 กรัมถือว่าไม่เป็นปัญหาในการใช้งาน

image 260

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องนอกจากตัวเครื่องแล้วยังประกอบไปด้วยสายรัดและสายชาร์จ

Display

หน้าจอของตัวเครื่องใช้งานพาเนลเป็นแบบ AMOLED ทำให้มั่นใจได้ว่าเวลาใช้งานเราจะได้รับรายละเอียดบนหน้าจอแบบไม่มีติดขัดในทุก ๆ สถานการณ์ พร้อมหน้าจอขนาด 1.62 นิ้ว ส่งผลให้การอ่านข้อมูลไม่ต้องจ้องก็เห็นได้ชัด

image 261

ประกอบกับความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 326 ppi ทำให้รายละเอียดคมชัดพร้อมการปรับระดับความสว่างได้มากถึง 100 ระดับ

image 262

ด้วยความที่หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมฉะนั้นการปรับแต่ง Band Faces ทำได้สนุกมากยิ่งขึ้น โดยที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าตาในการปรับแต่งได้มากกว่า 100 แบบปรับแต่งให้ตรงกับการใช้งานได้อย่างแน่นอน

image 263

ตัวเครื่องรองรับการแสดงผลแบบ Always on Display ด้วยเช่นกันทำให้เราสามารถที่จะเห็นข้อมูลส่วนอื่น ๆ ได้แม้ไม่ได้เปิดหน้าจอ

Performance

Xiaomi Smart Band 7 มาพร้อมกับมาตรฐานในการใช้งานที่ค่อนข้างดี เนื่องจากสามารถที่จะกันน้ำได้ในระดับ 5ATM ซึ่งตีเป็นค่าที่เราเข้าใจกันได้ง่ายคือทนทานต่อน้ำลึก 50 เมตร โดนใจสายดำน้ำดูปะการังแน่นอน

image 264

สำหรับการใช้งานไม่มีอะไรยุ่งยากจากสมาร์ทโฟนของเราให้ทำการติดตั้งแอปพลิเคชัน Mi Fitness มาติดตั้งโดยมีข้อแม้ว่าหากเป็น Android จะต้องใช้งาน Android 6 ขึ้นไป ขณะที่ iOS ต้องเป็น iOS 10 ขึ้นไป เมื่อเปิดขึ้นมาตัวแอปจะขึ้นให้เราเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth 5.2

image 265

ภายในมาพร้อมกับการออกแบบเราสามารถที่จะตั้งค่าต่าง ๆ ได้สะดวกและง่ายยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากมีการปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานที่จำเป็นและพื้นฐานมากขึ้น พร้อมแสดงข้อมูลอย่างจำนวนก้าว ข้อมูลการนอน อัตราการเต้นของหัวใจและอื่น ๆ

image 266

อีกหนึ่งจุดเด่นคงหนีไม่พ้นเรื่องของโหมดการออกกำลังกายที่มีให้ใช้งานมากกว่า 110 โหมด พร้อมโหมดที่จะตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ 5 โหมดไม่ว่าจะเป็น outdoor running, walking, treadmill, rowing machine และ elliptical

image 267

ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ในการวัดระดับออกซิเจนในเลือดอย่าง SpO₂ ที่จะคอยบอกว่าสภาพ ณ ตอนนั้นเป็นอย่างไร เราพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ ควบคู่ไปกับการวัดอัตราการเต้นหัวใจที่จะทำให้เราทราบว่าควรจะทำอะไรต่อไป

image 268

หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างคือการตรวจสอบสภาพเวลาที่เรานอน โดยที่ตัวเครื่องจะสามารถบอกเราได้ว่าการนอนของเรามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ก็จะช่วยให้เราปรับสภาพแวดล้อมหรือพฤติกรรมในภายหลังได้

image 269

ที่สำคัญรองรับการใช้งานภาษาไทยแบบเต็มรูปแบบพร้อมการแจ้งเตือนที่ได้ทำไม่ผิดเพี้ยน

Battery

สำหรับแบตเตอรี่มีขนาด 180mAh สามารถที่จะใช้งานแบบปกติทั่ว ๆ ไปได้สูงสุด 14 วัน แต่หากมีการใช้งานหนัก ๆ ตัวเลขตามสเปคได้บอกเอาไว้ว่าสามารถใช้งานได้ 9 วัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ดูเกินจริงแต่อย่างใด ในส่วนของการชาร์จใช้เวลาจาก 0-100 เปอร์เซ็นอยู่ที่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง

image 270

Conclusion

แน่นอนว่าจุดเด่นของ Xiaomi Smart Band 7 ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้การตัดสินใจซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวกยิ่งขึ้นได้ง่ายคือเรื่องของราคา ที่มีราคาเพียงแค่ 1,390 บาท ราคาแทบจะไม่เปลี่ยนไปในแต่ละปีที่มีการเปิดตัว แถมในรุ่นนี้ยังได้หน้าจอที่ขนาดใหญ่ขึ้น การปรับแต่ง Band Faces ที่หลากหลาย และยังได้การตรวจจับระดับออกซิเจนในเลือดมาอีกด้วย

ข้อดี

– หน้าจอใหญ่ 1.62 นิ้ว

– พาเนลจอ AMOLED เพิ่มความคมชัดในการใช้งาน

– รองรับการแสดงผล Always on Display

– Band Faces ที่สามารถปรับแต่งได้กว่า 100 แบบ

– เชื่อมต่อได้ง่ายผ่าน Mi Fitness

– รองรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือด

– แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 14 วัน

– ราคาจับต้องได้

ข้อสังเกต

– ยังคงต้องใช้งานสมาร์ทโฟนควบคู่เพื่อที่จะระบุตำแหน่งเนื่องจากไม่มี GPS ในตัว

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Xiaomi ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Xiaomi Smart Band 7 มาให้เราได้ทำการทดสอบใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

อ่านรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : https://www.mi.com/th/product/xiaomi-smart-band-7/

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button