เทคโนโลยี

[รีวิว] Xiaomi 12 สมาร์ทโฟนเรือธงขนาดกะทัดรัด

สเปคสุดแรงคุมความร้อนได้ดี เล่นเกมได้ในระยะยาว

เดินทางมาถึงรุ่นที่ 12 เข้าไปแล้วสำหรับ Xiaomi ที่พึ่งจะทำการเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ล่าสดออกไปได้ไม่นาน และในตอนนี้เราก็ได้ Xiaomi 12 มาบอกเล่าประสบการณ์และความน่าสนใจของตัวเครื่องให้ทุกคนได้เห็นกันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้างภายในเครื่องรุ่นนี้ และจะแรงสมการเป็นเรือธงหมดปัญหาด้านการเล่นเกมหรือไม่ต้องมาติดตามกัน

Design

สำหรับ Xiaomi 12 เป็นสมาร์ทโฟนที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ยังอยากจะได้ตัวเครื่องที่มีขนาดไม่ใหญ่มากจนเกินไป แต่ก็ยังอยากได้ขนาดของหน้าจอที่มีขนาด 6 นิ้วขึ้นไปสำหรับการใช้งานอยู่ ฉะนั้นแรกพบกับเจ้าเครื่องรุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่ถือใช้งานง่าย พกพาไปได้สะดวก

image 126

ด้วยหน้าจอที่มีขนาด 6.28 นิ้ว ทำให้เราเชื่อว่าน่าจะมีอุปสรรคสำหรับการแสดงผล แต่ไม่เลยมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากตัวเครื่องมีการใช้งานหน้าจอที่เป็นแบบจอโค้งทั้งสองข้าง ทำให้ได้พื้นที่ในการแสดงผลที่เต็มพื้นที่

image 127

เช่นเดียวกับกล้องหน้าที่ใช้งานเป็นแบบ punch hole ส่งผลให้สามารถรับประสบการณ์บนหน้าจอที่มีขนาดเพียงแค่ 6.28 นิ้วได้อย่างไม่มีปัญหา (นี่เรามาถึงการใช้คำว่า “เพียง” กับหน้าจอขนาด 6.28 นิ้วกันแล้วหรือเนี่ย !?)

image 128

ในส่วนของอัตราส่วนของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 152.7 x 69.9 x 8.16 มิลลิเมตร โดยที่มีน้ำหนักของตัวเครื่องที่ 180 กรัม อยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้เบาจนรู้สึกไม่ได้ถืออะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้หนักถึงกับที่ว่าหากใช้งานแล้วจะเหมือนกับออกกำลังกาายกล้ามเนื้อบริเวณมือ

image 129

การออกแบบโดยใช้งานจอในลักษณะที่เป็นแบบโค้งทั้งสองด้านนี่ต้องยอมรับว่ามักจะต้องอาศัยการปรับตัว เนื่องจากโอกาสที่อุ้งมือบริเวณนิ้วโป้งของเราอาจจะไปขัดจังหวะการทำงานอย่างไม่ตั้งใจ แต่หากรู้องศาในการถือแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น

image 130

พลิกมาที่ด้านหลังพบกับฝาหลังที่มาพร้อมกับความสามารในการแสดงเฉดสีที่แตกต่างกันไปหากตกกระทบกับแสง น่าแปลกใจไม่น้อยที่ทาง Xiaomi เลือกที่จะใช้งานวัสดุด้านหลังเป็นพลาสติกซึ่งว่ากันตามตรงสมาร์ทโฟนเรือธงน่าจะได้วัสดุที่ดีกว่านี่เสียหน่อย

image 131
image 132

อย่างไรก็ตามในความแปลกใจ ก็เกิดความประหลาดใจเมื่อได้สัมผัสและใช้งานจริง เนื่องจากพบว่าผิวสัมผัสของฝาหลังให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปโดยผิวสัมผัสจะให้ความรู้สึกค่อนข้างที่จะลื่น แต่ก็มีผิวสัมผัสภายในตัว จุดเด่นคือการที่สามารถใช้งานโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย ซึ่งในส่วนนี้อาจจะบอกว่าเป็นความดีความชอบของกระจกที่ถูกนำมาเคลือบทับคือ Corning Gorilla Glass 5 ก็เป็นได้

image 133

การจัดเรียงกล้องหลังเป็นแบบอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีการจัดวางตำแหน่งกล้องได้น่าสนใจ คือกล้องหลักความละเอียด 50MP อยู่ด้านบนสุด ตามมาด้วยเลนส์ ultrawide ความละเอียด 13MP และเลนส์ telemacro ที่ความละเอียด 5MP โดยที่มีไฟแฟลช LED 2 ตัวอยู่ด้านข้าง

โดยรวมแล้วการถือและสัมผัสที่ได้ให้ความพรีเมี่ยมในตัว แต่หากลงลึกไปที่รายละเอียดอาจจะแอบผิดหวังไปเสียหน่อย

image 134

ในส่วนของพอร์ตการใช้งานด้านล่างมาพร้อมกับพอร์ต USB-C และลำโพงหนึ่งตัวด้านข้างเป็นช่องสำหรับใส่ซิมรองรับการใช้งาน 2 ซิมและสัญญาณ 5G

image 135

ด้านบนของตัวเครื่องเป็นลำโพงอีกหนึ่งตัว พร้อมโลโก้ตรงกลางที่บอกอย่างชัดเจนว่าได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Harman Kardon หนึ่งในผู้นำของวงการเสียง ถัดไปเป็นตัวส่งสัญญาณอินฟราเรดทำให้มันสามารถที่จะใช้ควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านอย่างเช่นทีวีหรือแอร์ได้ (แต่ตัวเครื่องที่จะใช้ตัองรองรับด้วย)

image 136

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มสำหรับเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่ม Power สิ่งที่หายไปและคงไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรอีกต่อไปคือรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรที่หายไปตามกาลเวลามาสักพักแล้ว

แม้ว่าหน้าจอด้านหน้าของตัวเครื่องจะใช้งานกระจกจอแบบ Corning Gorilla Glass Victus และด้านหลังเป็น Corning Gorilla Glass 5 แต่ในเมื่อทาง Xiaomi ไม่ได้ระบุมาว่าตัวเครื่องรองรับมาตรฐาน IP อะไร จึงแนะนำว่าอย่าเสี่ยงทำอะไรแปลก ๆ กับ Xiaomi 12 จะดีกว่า

image 137

อุปกรณ์ที่มีมาให้ภายในกล่องนอกจากตัวเครื่องแล้วยังมาพร้อมกับเคสใส่ ที่ชาร์จรองรับการชาร์จไว 67W สาย USB-C เรียกว่าจัดให้มาครบแบบไม่ตัดเหมือนกับบางแบรนด์

Display

แม้จะมีขนาดหน้าจอเพียง 6.28 นิ้ว แต่ด้วยความที่มีขนาดหน้าจอที่ไม่ใหญ่จนเกินไปแต่สิ่งที่อัดแน่นภายในจอทำให้มันสามารถที่จะแสดงภาพออกมาได้คมชัดไม่มีภาพแตกให้เราได้เห็น (ไม่นับช่วงที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดีแล้วตัวเล่นแสดงผลแค่ 144p lol)

image 138

ในส่วนของความละเอียดหน้าจออยู่ที่ FHD+ ตีเป็นตัวเลขให้เห็นชัดอยู่ที่ 2400 x 1080 พิกเซล อัตราในการแสดงผลภาพ 20:9 ในส่วนของพาเนลที่ใช้งานเป็น AMOLED การันตีเรื่องความสดและความคมชัดของภาพที่ได้

image 139

ที่ช่วยให้การเหมาะในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีกคงหนีไม่พ้นหน้าจอที่รองรับการแสดงผลแบบ 120Hz เช่นเดียวกันกับค่า touch sampling rate สูงสุด 480Hz ตัวจอรองรับการแสดงผลภาพ HDR10+ ไปพร้อม ๆ กับ Dolby Vision

image 140

โหมดการแสดงผลที่จะช่วยปรับค่า refresh rate ให้กับตัวเครื่องค่อนข้างที่จะฉลาดและมีการจัดการที่ดี ในการทดสอบได้ลองทำการเปิดใช้งานแบบ 120Hz โดยตรงจะพบว่ามีการใช้พลังงานค่อนข้างที่จะสูง ในขณะเดียวกันหากเปิดแบบให้ตัวเครื่องเลือกการแสดงผลให้เอง พบว่ามีการเลือกใช้งานที่ค่อนข้างดี และช่วยประหยัดพลังงานไปได้เยอะโดยที่ไม่กระทบกับประสิทธิภาพในการแสดงผลมากนัก

image 141

จอโค้งที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับตัวเครื่องอย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าชื่นชอบหรือไม่ และแม้จะเป็นจอโค้งแต่ว่าไม่ได้มีฟีเจอร์สำหรับการเรียกใช้งานอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่เพิ่มพื้นที่ในการแสดงผลเท่านั้น

Performance

ในส่วนของสเปคภายในตัวเครื่องที่ใช้งานของ Xiaomi 12 มาพร้อมกับอะไรที่เป็นที่สุดของฝั่ง Android แล้วไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 8  Gen 1 แรมที่ให้มาเริ่มต้นที่ 8GB แบบ LPDDR5 พร้อมกับที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB แบบ UFS 3.1

ผลการทดสอบที่เราได้นำมาให้ได้เห็นในครั้งนี้จะมาพร้อมกับแอปพลิเคชันทดสอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AnTuTu, Geekbench 5, Geekbench ML และสุดท้ายคือ 3DMark โดยผลการทดสอบมีรายละเอียดตามกราฟด้านล่าง

image 142
image 143

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เรายังไม่ได้มีชุดข้อมูลสำหรับตัวเครื่องที่ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 อยู่ในตอนนี้ จึงนับไปเปรียบเทียบกับชิปเซ็ตที่แรงที่สุดของทาง Apple ในเวลานี้อย่าง A15 Bionic แทน ซึ่งในการทดสอบอย่าง AnTuTu พบว่าคะแนนของตัวเครื่องเหนือกว่าเสียด้วย

image 144
image 145

ขณะเดียวกันในการทดสอบอื่น ๆ อย่าง Geekbench 5, Geekbench ML และ 3DMark แม้ว่าจะคะแนนไม่ได้สูงกว่าแต่ก็อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน จึงพอจะสรุปได้ว่าในแง่ของประสิทธิภาพตัวเครื่อง ไม่ได้หนีห่างกันมากและเหมาะสมกับคำว่าเรือธงอย่างแท้จริง

ในการเล่นเกมเราได้ลองทดสอบการเล่นกับเกมอย่าง Genshin Impact, RoV และเกมที่กำลังมีกระแสที่ดีอย่าง Master Duel มาให้ได้เห็นกันโดยผลลัพธ์ที่ได้สามารถที่ได้ค่อนข้างที่จะบอกว่าไม่มีปัญหามากนัก

image 146
image 147

Genshin Impact ไม่ว่ากับเครื่องใดในตอนนี้ค่อนข้างที่จะเป็นเกมที่ไม่เหมาะสมสำหรับการเล่นภายในสมาร์ทโฟน ตัวเครื่องสามารถที่จะปรับภาพสูงสุดและปรับเฟรมเรทได้ที่ 60FPS (ยังไม่รองรับการเปิดที่ 120FPS) อย่างไรก็ตามเฟรมเรทที่ได้เวลาเล่นจริงโดยที่ปรับภาพสูงสุดจะอยู่ที่ราว 45FPS พร้อมกับอุณหภูมิตัวเครื่องที่เล่นไปได้ 10 นาทีจาก 36.5 องศ่าขึ้นมาเป็น 41.7 องศา

image 148

ขณะที่เกมอย่าง Master Duel เป็นอะไรที่น่าสนใจเนื่องจากแม้ว่าดูจะไม่ได้กินสเปคอะไรมากแต่อุณหภูมิที่เราได้หลังจากเริ่มเล่นไปได้ 10 นาทีมีการขยับขึ้นมาที่สูงไม่น้อย โดยเริ่มที่ 31.6 องศาและหลังผ่านไป 10 นาทีอยู่ที่ 41.3 องศาจากตัวเลขดังกล่าวพอจะสรุปได้ว่าตัวเครื่องในเวลาที่มีการใช้งานหนัก ๆ จะอยู่ที่ไม่เกิน 45 องศา ซึ่งความดีความชอบในส่วนนี้คงต้องยกให้กับระบบระบายความร้อนแบบใหม่

image 149

สำหรับลำโพงที่ให้มาอยู่บริเวณขอบด้านบนและล่างของตัวเครื่องให้เสียงที่ดี โดยที่เราสามารถที่จะเปิดโหมด Dolby Atmos เพื่อเพิ่มความ surround ให้ดียิ่งขึ้นได้ หรือหากใครที่ไม่ชอบก็สามารถที่จะปิดการใช้งานได้เช่นกัน (แต่แนะนำว่าเปิดเอาไว้จะดีกว่าเนื่องจากปิดไปก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากนัก)

Software

ในส่วนของระบบ MIUI ที่ติดมากับตัวเครื่องในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 13 ซึ่งทำงานอยู่ภายใต้ระบบ Android 12 การจัดการและฟีเจอร์ต่าง ๆ นับว่ามีมาให้ใช้งานครบครัน และปัญหาเรื่องของแอปพลิเคชันจำพวก bloatware ที่ติดมากับตัวเครื่องได้รับการแก้ไขแล้ว

image 150

สิ่งที่เราบอกว่าได้รับการแก้ไขคือไม่ใช่ว่าไม่มีติดมาให้ตั้งแต่ต้น แต่มีในจำนวนที่น้อยลงอย่างมาก ในระดับที่พอจะบอกได้ว่าไม่ชวนให้รู้สึกรำคาญ และด้วยจำนวนที่ติดตั้งมาน้อยก็ช่วยให้เราสามารถที่จะลบได้ง่ายกว่าเดิม

image 151

ในส่วนของเรื่องดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการแจ้งเตือนที่มาพร้อมกับการใช้งานความสามารถของจอโค้งนี่แหละ เพราะหากมีการแจ้งเตือนเข้ามาในขณะที่หน้าจอล็อคอยู่ตัวจอจะกระพริบแสงตามที่เรากำหนดบริเวณขอบทั้งสองของตัวเครื่อง (สามารถปิดหรือปรับเป็นแบบอื่นได้) ถูกใจใครที่อยากได้ไฟเตือนแบบ LED มาทดแทน

image 152

สำหรับบัคของระบบที่ใช้งานมาในตอนนี้ยังไม่พบปัญหาใด ๆ ที่ร้ายแรง ยังไม่พบปัญหาแอปพลิเคชันปิดเองหรือเครื่องค้าง สิ่งที่แอบกวนใจเล็กน้อยอาจจะเป็นเรื่องของการสลับใช้งานแอปพลิเคชันไปมา ที่ดูเหมือนว่าจะจัดการทรัพยากรเบื้องหลังได้ไม่ดีนัก บางครั้งมีการโหลดใหม่ของแอปพลิเคชัน แม้ว่าจะมีแรมเยอะก็ตามที ในส่วนนี้อาจจะเป็นอัลกอริทึมภายในที่มีการเรียกใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์

Camera

กล้องหลังของ Xiaomi 12 มาพร้อมกับจำนวนกล้องให้ใช้งานทั้งสิ้น 3 ตัวด้วยกัน กล้องหลักความละเอียด 50MP f/1.88 มุมมองภาพแบบ wide ตามมาด้วยเลนส์ ultrawide ความละเอียด 13MP f/2.4 เก็บมุมมองภาพได้ 123 องศา สุดท้ายเลนส์ telemcaro ความละเอียด 5MP f /2.4 รองรับฟีเจอร์การใช้งานที่โดดเด่นอย่าง Xiaomi ProFocus ที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวให้เหมาะกับสถานที่ใช้งาน รองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 8K 24fps กล้องหน้าความละเอียด 32MP f/2.4 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ 1080p 60fps

image 153
image 154
image 155
image 156

Battery

แบตเตอรี่ของ Xiaomi 12 มาพร้อมกับขนาด 4500mAh จากการทดสอบโดยการเปิดใช้งานการแสดงผลแบบ 120Hz ตลอดทั้งวันพบว่าในช่วงแรกของการใช้งาน อาจจะมีการไหลของแบตเตอรี่ที่ดูน่าเป็นกังวล อย่างไรก็ตามเมื่อสิ้นสุดวันพบว่า เปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่เหลือสามารถที่จะใช้งานต่อได้ไม่มีปัญหา

image 157

ฉะนั้นหากเป็นการเปิดให้การแสดงผลเป็นแบบตัวเครื่องเลือกใช้งานตามสถานการณ์เองคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก ในส่วนของการชาร์จตัวเครื่องรองรับการชาร์จไว 67W สามารถที่จะชาร์จจาก 0 ขึ้นไปที่ 100 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลาไม่ถึง 40 นาที ตัวเครื่องรองรับการชาร์จไร้สายที่ความเร็ว 50W และ reverse wireless charging ที่ 10W

Conclusion

image 158

บทสรุปของ Xiaomi 12 ต้องยอมรับว่าเป็นเรือธงอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถแนะนำให้ซื้อมาใช้งานกันได้ ประสิทธิภาพของตัวเครื่องไม่เป็นที่ต้องกังวล ขณะเดียวกันตัวเครื่องที่มาพร้อมจอ 6.28 นิ้วน่าจะถูกใจกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่อยากได้ตัวเครื่องที่ขนาดกำลังพอดี ด้วยราคา 24,990 บาท (ยิ่งถ้าซื้อในช่วงโปรที่แถมของต่าง ๆ มาให้ด้วยจะยิ่งคุ้มกันไปใหญ่)

ข้อดี

• มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.28 นิ้วที่ขนาดกำลังพอเหมาะ

• รองรับการแสดงผล 120Hz

• สัมผัสของตัวเครื่องที่ให้ความรู้สึกที่ดีเวลาที่ถือใช้งาน

• หน้าจอโค้งที่ออกแบบมาให้ได้พื้นที่ในการแสดงผลเต็มตา

• สเปคภายในที่สามารถใช้งานได้ในระยะยาว

• ค่อนข้างที่จะควบคุมอุณหภูมิขณะใช้งานได้ดี

• ลูกเล่นภายใน MIUI 13 ที่มีให้เล่นพอสมควร

• AI ของกล้องที่ประมวลภาพออกมาได้ค่อนข้างดี

• แบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดวัน

• รองรับการชาร์จไว 67W ไม่ต้องรอนานเป็นชั่วโมง

ข้อสังเกต

• การจัดสรรทรัพยากรและการเรียกใช้งานของระบบที่ดูจะทำได้ไม่ดีในบางครั้ง

• อาการหน่วงเวลาสลับหน้าจอไปมาที่มีให้เห็นบ้าง

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Xiaomi ประเทศไทยที่ได้ทำการส่ง Xiaomi 12 มาให้เราทำการทดสอบกันใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ : [คลิก]

Artherlus

แค่คนทั่วไปที่หลงใหลในวงการไอที
Back to top button