
Microsoft เพิ่งทำสถิติสำคัญเมื่อ Windows 11 แซงหน้า Windows 10 กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่คนใช้มากที่สุด โดย Stat Counter ระบุว่า Windows 11 ตอนนี้ครองตลาด 52% ส่วน Windows 10 ลดลงเหลือ 44.59% นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีที่ Windows 11 ขึ้นแท่นผู้นำจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Windows 11 ช้ากว่า Windows 10 มาก เพราะกว่าจะถึงหลัก 400 ล้านเครื่อง ก็ใช้เวลาไปถึง 2 ปี ในขณะที่ Windows 10 ใช้แค่ 1 ปีเท่านั้น หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่เข้มงวดขึ้น เช่น CPU, TPM 2.0 และ Secure Boot ที่ทำให้เครื่องเก่าหลายเครื่อง หมดสิทธิ์อัปเกรดฟรี

แน่นอนว่า Microsoft พยายามกระตุ้นให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องโดยตรง บางครั้งถึงขั้นแสดงหน้าต่างแจ้งเตือนแบบ full-screen เพื่อชวนให้ซื้อเครื่องใหม่ หรืออย่างน้อยก็อัปเกรดส่วนประกอบภายในเพื่อให้ลง Windows 11 ได้
แม้ Windows 10 จะหยุดสนับสนุนในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ Microsoft ก็ยังมีทางเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนระบบ โดยเสนอ Extended Security Updates (ESU) ฟรี 1 ปี หากเปิดใช้งาน OneDrive Backup & Sync
และหากไม่สะดวกยังสามารถซื้ออัปเดต ESU แยกในราคา $30/ปี หรือแลกคะแนน Microsoft Rewards 1,000 คะแนนแทน