
Valve ประกาศยุติการผลิต Steam Deck รุ่นจอ LCD ความจุ 256GB ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของตระกูล LCD อย่างเป็นทางการแล้ว โดยบนหน้าเว็บไซต์ของ Steam ได้ระบุข้อความชัดเจนว่าจะไม่มีการผลิตเพิ่มอีกต่อไปและหากสินค้าในสต็อกหมดลงก็จะถือเป็นการปิดฉากรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งล่าสุดในหลายภูมิภาคโดยเฉพาะสหรัฐฯ รุ่นราคาประหยัด 399 ดอลลาร์ก็ได้ขายหมดเกลี้ยงไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่เพียงแค่เครื่องใหม่เท่านั้น แต่แม้แต่ สินค้ามือสองปรับสภาพ (Refurbished) จากทาง Valve เองก็ถูกระบายสต็อกจนเกลี้ยงเช่นกัน ส่งผลให้ผู้ที่กำลังมองหาเครื่องเล่นเกม PC พกพาในราคาเริ่มต้นที่เป็นมิตร ต้องขยับงบประมาณขึ้นไปเลือกรุ่นจอ OLED เพียงอย่างเดียว ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดยุค Handheld ราคาประหยัด ที่ Valve เคยสร้างมาตรฐานไว้ในปี 2022
สำหรับการขยับไปสู่ Steam Deck OLED นั้น แม้จะต้องจ่ายแพงขึ้นแต่ก็ได้การอัปเกรดที่คุ้มค่า เพราะรุ่น OLED มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 7.4 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงถึง 90Hz และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงน้ำหนักที่เบาลงเล็กน้อย ทำให้มันกลายเป็นเครื่องเล่นเกมที่สมบูรณ์แบบกว่ารุ่น LCD เดิมในแทบทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีสำหรับใครที่มีเครื่องรุ่น LCD อยู่ในมือ หรือเพิ่งสอยมือสองมา ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกทอดทิ้ง เพราะ Valve ยืนยันหนักแน่นว่าจะยังคง สนับสนุนซอฟต์แวร์และอัปเดตระบบปฏิบัติการ SteamOS ให้กับรุ่นจอ LCD ต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องรุ่นเก่าจะยังคงเล่นเกมใหม่ๆ ในคลัง Steam ได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
ในแง่ของราคา ตลาดตอนนี้จะขยับขึ้นไปเริ่มต้นที่ 549 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,000 บาท) สำหรับรุ่น OLED ความจุ 512GB และหากต้องการความจุสูงสุด 1TB จะต้องควักกระเป๋าอย่างน้อย 649 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะเป็นราคาที่สูงขึ้น แต่ Valve มองว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลกับประสิทธิภาพของหน้าจอ HDR และเทคโนโลยีใหม่ที่ใส่เข้ามา
การตัดสินใจครั้งนี้ของ Valve ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ได้ทยอยยกเลิกการผลิตรุ่น 64GB และ 512GB (LCD) ไปก่อนแล้ว การถอดรุ่น 256GB ออกเป็นรายสุดท้ายจึงเป็นการจัดระเบียบสินค้าให้เหลือเพียงเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อปูทางไปสู่การพัฒนาฮาร์ดแวร์เจเนอเรชันถัดไป (Steam Deck 2) ที่อาจจะตามมาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั่นเอง







