Opera ฟ้อง Microsoft ปมกลยุทธ์กีดกันเบราว์เซอร์คู่แข่งใน Windows
ส่งผลให้การเปลี่ยนไปใช้งานยากลำบาก

Opera ผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ชื่อดัง ประกาศยื่นเรื่องร้องเรียนด้านการแข่งขันไม่เป็นธรรมต่อ Microsoft ที่บราซิล หลังทนไม่ไหวกับสิ่งที่ทำเพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ Windows ใช้ Microsoft Edge และ Bing โดยอัตโนมัติ แทนที่จะเลือกเบราว์เซอร์อื่นอย่างอิสระ
Aaron McParlan ทนายความของ Opera ระบุว่า Microsoft ขัดขวางการแข่งขันของเบราว์เซอร์ทุกทางทั้งการกีดกันไม่ให้เบราว์เซอร์เช่น Opera ติดตั้งล่วงหน้าในเครื่องใหม่ และยังแทรกแซงผู้ใช้แม้จะตั้งเบราว์เซอร์อื่นเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว เช่น การเปิดลิงก์จาก Outlook, Teams, Search หรือ Widgets ด้วย Edge ทั้งที่ควรใช้ของผู้ใช้
Opera ยังชี้ว่า Microsoft ใช้แบนเนอร์และข้อความรบกวนขณะผู้ใช้กำลังค้นหาเบราว์เซอร์อื่นใน Edge ซึ่งสร้างความสับสนและทำให้รู้สึกว่าการดาวน์โหลดนั้นไม่ปลอดภัย ถึงขั้นเคยปล่อย UI ปลอมที่เลียนแบบ Google อย่างแนบเนียน ทั้งดูเดิลและแถบค้นหา จนถูกแฉและต้องรีบถอดทิ้ง

การยื่นเรื่องในบราซิลไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะที่นั่น Opera เป็นเบราว์เซอร์อันดับ 3 ที่มีผู้ใช้ล้านคน แม้ต้องแข่งกับพฤติกรรมของ Microsoft ที่ใช้ทั่วโลก Opera หวังว่าบราซิลจะนำหน้าเป็นผู้เปลี่ยนแปลงในระดับนานาชาติ
Opera ต้องการให้ Microsoft หยุดบังคับ OEM ติดตั้งโหมด S ที่จำกัดการเปลี่ยนเบราว์เซอร์ เพื่อแลกกับส่วนลด Windows รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตติดตั้งเบราว์เซอร์อื่นเป็นค่าเริ่มต้น และเลิกใช้ dark patterns ที่ชักจูงผู้ใช้ไปหา Edge
ที่จริง Opera เคยทำแบบนี้มาก่อนในปี 2007 ยื่นเรื่องต่อสหภาพยุโรปจนเกิดหน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ที่ทำให้ผู้ใช้เลือกได้ 12 ตัว แม้ Microsoft จะถูกปรับ 730 ล้านดอลลาร์เมื่อไม่ทำตาม แต่ Opera ยังไม่หยุด ล่าสุดยื่นอุทธรณ์ต่อศาล EU หลัง Microsoft รอดจากการถูกขึ้นบัญชีภายใต้กฎหมายดิจิทัลเพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่ทำไป ยังไม่เพียงพอ