OpenAI เปิดตัวโมเดลใหม่ o3 โมเดล AI ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม
เข้าใกล้กับคำว่า AGI ไปอีกระดับ

OpenAI ปิดท้ายงาน Shipmas 12 วัน ด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ล่าสุดชื่อ o3 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดของโมเดล reasoning รุ่นแรกอย่าง o1 ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีทั้ง o3 และ o3-mini ซึ่งเป็นรุ่นย่อที่ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับงานเฉพาะด้าน
OpenAI อ้างว่า o3 อาจเข้าใกล้ AGI (Artificial General Intelligence) ในบางเงื่อนไข พร้อมระบุว่าข้อจำกัดและความท้าทายยังมีอยู่ CEO Sam Altman เปิดเผยว่า OpenAI ข้ามชื่อ o2 ไปเพราะปัญหาเครื่องหมายการค้ากับบริษัทโทรคมนาคม O2 ในสหราชอาณาจักร
o3 ถูกออกแบบมาเพื่อคิดก่อนตอบคำถาม โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า private chain of thought ซึ่งโมเดลจะวิเคราะห์และวางแผนคำตอบเป็นลำดับขั้นตอน ก่อนสรุปคำตอบที่แม่นยำที่สุด ระบบนี้ช่วยให้ o3 เหมาะสำหรับงานด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์มากขึ้น แม้จะต้องแลกมาด้วยเวลาประมวลผลที่นานกว่ารุ่นปกติ
โมเดลนี้ยังสามารถปรับเวลาในการประมวลผล (compute time) ได้สามระดับ ได้แก่ ต่ำ กลาง และสูง ยิ่งระดับสูงขึ้น โมเดลก็จะทำงานได้แม่นยำมากขึ้น โดย OpenAI ชี้ว่านี่เป็นการเปิดทางให้ผู้ใช้งานเลือกความสมดุลระหว่างความเร็วและความแม่นยำ
บนเกณฑ์ ARC-AGI ซึ่งวัดความสามารถของ AI ในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ นอกเหนือจากข้อมูลที่ฝึกสอน o3 ได้คะแนน 87.5% ในโหมด compute สูง และถึงแม้ในโหมด compute ต่ำ โมเดลยังทำคะแนนได้ดีกว่า o1 ถึงสามเท่า
นอกจากนี้ o3 ยังสร้างสถิติใหม่บนการทดสอบต่าง ๆ เช่น SWE-Bench Verified (งานเขียนโปรแกรม), Codeforces (ทักษะเขียนโค้ด) และ American Invitational Mathematics Exam 2024 ที่ทำคะแนนได้ถึง 96.7% รวมถึงการแก้โจทย์ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยาระดับปริญญาโทได้ 87.7% แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์เหล่านี้ยังเป็นข้อมูลจากการประเมินภายในของ OpenAI และยังต้องรอดูผลการประเมินจากภายนอกเพื่อยืนยันประสิทธิภาพจริง
OpenAI กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับทีมผู้สร้าง ARC-AGI เพื่อพัฒนาผลการทดสอบที่ก้าวหน้าขึ้น ในขณะที่ o3 จะทยอยเปิดให้ใช้งานจริงในช่วงต้นปี 2024 โดยเริ่มจากรุ่น o3-mini Altman ยังย้ำว่า OpenAI จะใช้แนวทาง deliberative alignment เพื่อให้มั่นใจว่าโมเดลจะปฏิบัติตามหลักการความปลอดภัยที่สุด