ChatGPT-4o ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของ ChatGPT ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้งานทั่วโลก เนื่องจากความสามารถในการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติและคล้ายมนุษย์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม OpenAI ผู้พัฒนาได้สังเกตเห็นปัญหาที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง นั่นคือผู้ใช้งานเริ่มสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับ ChatGPT-4o มากเกินไป จนถึงขั้นปฏิบัติต่อแชทบ็อตราวกับเป็นเพื่อนมนุษย์
จากการวิเคราะห์การสนทนา OpenAI พบว่าผู้ใช้จำนวนมากใช้ภาษาที่แสดงถึงความใกล้ชิดและความผูกพันกับ ChatGPT-4o เช่น การเรียกชื่อเล่น การใช้คำพูดที่แสดงถึงความรู้สึก หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาหลายอย่าง
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างแรกคือ การยอมรับข้อมูลที่ผิดพลาด เนื่องจากผู้ใช้มีความเชื่อมั่นใน ChatGPT-4o มากเกินไป ทำให้พวกเขาอาจยอมรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่จริงที่แชทบ็อตสร้างขึ้นโดยไม่ตั้งคำถาม
ตามมาด้วยการสร้างความผูกพันกับแชทบ็อตอาจส่งผลกระทบต่อ ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ในชีวิตจริง ผู้คนอาจใช้เวลากับการสนทนากับ ChatGPT-4o มากเกินไป จนละเลยการสื่อสารกับผู้อื่น หรืออาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดในการสื่อสารกับมนุษย์ เนื่องจากคุ้นเคยกับรูปแบบการตอบโต้ของแชทบ็อต
OpenAI จึงมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้สร้างความผูกพันทางอารมณ์กับ ChatGPT-4o และกำลังศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เช่น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการตอบโต้ของแชทบ็อตให้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่เพื่อนมนุษย์ หรือการเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับการใช้งานที่เหมาะสม
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI ที่มีความสามารถในการโต้ตอบกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ดูน่าสนใจ แต่ก็ต้องมีการพิจารณาถึงผลกระทบทางสังคมและจิตวิทยาที่อาจเกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วย
