Nintendo เผยตัวระบบของอีมูเลเตอร์ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
แต่การละเมิดลิขสิทธิ์เกมที่เป็นประเด็นหลักในการสั่งปิดตัว

ในปีที่ผ่านมา การพัฒนาอีมูเลเตอร์ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากบริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Nintendo ที่ดำเนินการปิดโครงการอีมูเลเตอร์หลายตัว เช่น Yuzu, Citra และ Ryujinx แม้จะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด แต่คดีเหล่านี้ยังไม่ถูกนำเข้าสู่ศาล ทำให้สถานะทางกฎหมายของอีมูเลเตอร์ยังคงคลุมเครือ
ล่าสุด ในงาน Tokyo eSports Festa เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและทรัพย์สินทางปัญญาจากบริษัทชั้นนำอย่าง Capcom, Koei, Sega, Konami และ Nintendo ได้ร่วมอภิปรายประเด็นที่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในอุตสาหกรรมเกม โดย Koji Nishiura ทนายความด้านสิทธิบัตรและรองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาของ Nintendo ได้ระบุว่า “ตัวอีมูเลเตอร์เองนั้น ถูกกฎหมายในทางเทคนิค”
อย่างไรก็ตาม การใช้งานอีมูเลเตอร์สามารถกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายได้ในบางกรณี เช่น การเลี่ยงระบบป้องกันซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเล่นเกมเถื่อนบนเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยในกฎหมายญี่ปุ่นและมาตรา 1201(a)(1)(A) ของ DMCA ในสหรัฐฯ ระบุชัดเจนว่า “ห้ามมิให้บุคคลใดหลีกเลี่ยงมาตรการทางเทคนิคที่ใช้ควบคุมการเข้าถึงงานที่ได้รับการคุ้มครอง”

นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์เฉพาะของคอนโซล เช่น หน้าจอเมนู หรือระบบการทำงานอื่น ๆ ยังได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ การคัดลอกองค์ประกอบเหล่านี้ลงในอีมูเลเตอร์จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิ์อีกประการหนึ่ง
Nishiura กล่าวเสริมว่า การปิดตัวอีมูเลเตอร์ในหลายพื้นที่ทั่วโลกของ Nintendo เป็นการปกป้องนักพัฒนาเกม โดยเฉพาะกรณีอีมูเลเตอร์ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการนำไปใช้เพื่อการละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น การชี้นำผู้ใช้งานไปยังเกมเถื่อน ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับ Yuzu หลังจากมีข่าวลือว่าทีมพัฒนาบางส่วนได้แชร์ ROM ของเกมใหม่ล่าสุดภายใน
อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่อาจทำให้ Nintendo เพิ่มความเข้มงวดด้านกฎหมาย คือการเตรียมเปิดตัว Nintendo Switch 2 ในปี 2025 ซึ่งอาจเป็นการป้องกันไม่ให้อีมูเลเตอร์เข้ามารบกวนระบบของคอนโซลรุ่นใหม่
แม้ว่าการใช้อีมูเลเตอร์จะไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่การใช้งานที่ละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองในอนาคต