เปิดตัว Lenovo Legion Phone Duel เกมมิ่งโฟนตัวแรงน้องใหม่
เกมมิ่งโฟนรุ่นแรกที่ใช้งาน Snapdragon 865 Plus แซงหน้า ROG Phone 3

แม้เราจะนำเสนอข่าวหลังจาก ROG Phone 3 แต่หากว่ากันตามหลักแล้วตัวของ Lenovo Legion Phone Duel ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีการประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าจะใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 865 Plus และนอกจากชิปเซ็ตแล้วยังมาพร้อมกับสเปคด้านอื่น ๆ ที่ดูราวกับว่าไม่ใช่มือใหม่ในวงการเกมมิ่งโฟนเลยก็ว่าได้


ตัวเครื่อง Lenovo Legion Phone Duel มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.65 นิ้วที่มีความละเอียด FHD+ รองรับการแสดงผลที่ 144Hz ซึ่งเป็นสิ่งที่เกมมิ่งโฟนที่ดีควรจะมีมาให้ นอกจากนี้ในเรื่องของการตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอก็อยู่ที่ 240Hz ทำให้สามารถแตะแล้วไม่มีค่าความหน่วงในการใช้งาน

ชิปเซ็ตภายในของตัวเครื่อง Lenovo Legion Phone Duel มาพร้อมกับการเป็นเกมมิ่งโฟนรุ่นแรกที่ใช้งานชิปเซ็ต Snapdragon 865 Plus โดยที่กราฟิกภายในเป็นตัวอย่าง Adreno 650 เรื่องของแรมมีมาให้สูงสุดที่ 16GB โดยเป็นแบบ LPDDR5 ขณะที่เก็บข้อมูลมีให้เลือกมากถึง 512GB แบบ UFS 3.1 นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับการเอาใจคนที่ชื่นชอบในการไลฟ์สตรีมเพราะมีฟีเจอร์สำหรับการเพราะสามารถใช้งานกล้องหน้าในการจับภาพของเราได้เลย อีกทั้ง AI ภายในตัวเครื่องยังสามารถลบภาพพื้นหลังของเราได้ด้วย ราวกับว่าอยู่ในสตูสำหรับการถ่ายทอดสดที่ใช้ฉากเขียวเลยก็ว่าได้

แบตเตอรี่ที่ให้มาภายในตัวเครื่องจะอยู่ที่ 5000mAh ซึ่งรองรับการชาร์จไวที่เร็วแรงสุด ๆ ด้วย Turbo Power Charging 90W สามารถใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่เต็มจาก 0 เปอร์เซ็นต์ได้ทันที ระบบเสียงที่ใช้งานเป็นตัวของ Dirac Audio ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านของระบบเสียงทำให้วางใจได้เลยว่าจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่เหนือชั้นยิ่งขึ้น

กล้องที่ให้มาจะเป็นกล้องหลัง 2 ตัวความละเอียด 64MP + 16MP มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 20MP จุดเด่นคือรองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงถึง 4K 30fps ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับการไลฟ์สตรีมได้อย่างคมชัด ราคาของตัวเครื่องจะมีด้วยกัน 4 ช่วงคือรุ่น 8GB/128GB มีราคา 3499 CNY (ประมาณ 15,700 บาท) รุ่น 12GB/128GB ราคา 3899 CNY (ประมาณ 17,600 บาท) รุ่น 12GB/256GB ราคา 4199 CNY (ประมาณ 19,000 บาท) และสูงสุดคือรุ่น 16GB/512GB ราคา 5999 CNY (ประมาณ 27,000 บาท) โดยที่จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 สิงหาคมเป็นต้นไปภายในประเทศจีน ส่วนจะมีขายในประเทศอื่นด้วยหรือไม่ก็ต้องมาลุ้นกัน